กัมพูชารับปากให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ภายใต้กรอบของกฎหมายและหลักฐาน กับสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ในการจัดการกับประเด็นสแกมต่างๆนานา ตามหลังมีการคว่ำบาตร "ปรินซ์กรุ๊ป" ของ "เฉิน จื้อ" ที่ถูกประกาศว่าเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ(TCO) เล็งเป้าเล่นงานผู้คนทั่วโลกด้วยเครือข่ายสแกมทางออนไลน์และฟอกเงิน อย่างไรก็ตามอีกด้านหนึ่งกลับพูดเป็นนัย หวังว่า 2 ชาติมหาอำนาจจะมีหลักฐานเพียงพอและปกป้องรัฐมนตรีมหาดไทยของตนเอง ที่ถูกขึ้นบัญชีดำเช่นกัน
กระทรวงการคลังสหรัฐฯและกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรเมื่อวันอังคาร(14ต.ค.) กำลังมาตรการคว่ำบาตร ในความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เล่นงานปฏิบัติการฉ้อโกงทางไซเบอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในนั้นรวมถึงกัมพูชาและพม่า
ทางกระทรวงการคลังสหรัฐฯระบุว่า เฉิน จื้อ (CHEN ZHI) หรือ วินเซนต์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป สร้างอาณาจักรอาชญากรรมผ่านการหลอกลวงลงทุนทางออนไลน์ โดยมีเป้าหมายที่ชาวอเมริกาและคนอื่นๆทั่วโลก ทำการฟอกขาวทรัพย์สินที่ได้มาโดยมิชอบจากธุรกิจต่างๆนาในกัมพูชา ผ่านเครือข่ายที่ซับซ้อน บริษัทเชลล์ (Shell Corporation) หรือบริษัทหรือนิติบุคคลที่ไม่มีสินทรัพย์หรือการดำเนินงานที่สำคัญใดๆ และบริษัทโฮลดิ้งกว่า 100 แห่งทั่วโลก
รายได้จากอาชญากรรมถูกนำไปใช้สนับสนุนกิจการธุรกิจที่ถูกกฎหมายต่างๆนานา ในนั้นรวมถึง ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป, ธนาคารปรินซ์ แบงค์ และบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Prince Huan Yu Real Estate Cambodia Group
สหราชอาณาจักรอายัดคฤหาสน์หรูในลอนดอน มูลค่า 172 ล้านดอลลาร์ ที่เชื่อมโยงกับ เฉิน จื้อ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้บงการศูนย์สแกมทั้งหลายในกัมพูชา ส่วนอัยการสหรัฐฯทำการอายัดทรัพย์ในบิตคอยน์มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ และเวลานี้ทรัพย์สินเหล่านั้นถูกยึดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทัช สุขะ โฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา อ้างว่า เฉิน จื้อ ไม่ต่างจากพวกนักธุรกิจคนอื่นๆที่มาลงทุนในประเทศ จำเป็นต้องยึดถือปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบ ชี้ว่าประเทศของเขาให้ไฟเขียวกับนักลงทุนทุกคนที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์
"มันเกินกว่าศักยภาพของเราในการคาดเดาเกี่ยวกับพฤติกรรมบางอย่าง ที่บุคคลรายหนึ่งๆจะทำ" เขากล่าว "แต่เรายืนหยัดด้วยกฎหมายมาตลอดและปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทางกฎหมายที่มีอยู่ ก่อนอนุญาตให้ใครก็ตามดำเนินกิจกรรมบางอย่างในประเทศของเรา"
สุขะ แสดงความหวังว่าข้อกล่าวหาต่างๆนานาของสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ จะได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานที่เพียงพอและอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ "กัมพูชาจะร่วมมือบนพื้นฐานของกฎหมาย หลักฐานที่เพียงพอและกฎหมายระหว่างประเทศ เราจะไม่ปกป้องการกระทำผิดกฎหมายหรือสนับสนุนพวกที่ละเมิดกฎหมาย" เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม โฆษกรายนี้ชี้แจงว่าคำอธิบายของเขาไม่ได้หมายความว่าเขากล่าวหา เฉิน จื้อ ฉ้อโกงทางออนไลน์ ตามคำกล่าวอ้างของสหรัฐฯและสหราชอาณาจักร โดยบอกว่ากัมพูชายึดหลักของกฎหมายครั้งที่จัดการกับประเด็นปัญหาใดๆ
ในร่างกฎหมายคว่ำบาตรของสภาคองเกรส "Dismantle Foreign Scam Syndicates Act" ปรากฏชื่อ ซาร์ สุขะ รัฐมนตรีมหาดไทย อยู่ในรายนามบุคคลต่างชาติที่จะถูกคว่ำบาตรด้วยถ้าเข้าเกณฑ์ ในเรื่องนี้ทาง ทัช สุขะตอบโต้ว่าธุรกิจของ ซาร์ สุขะ ไม่เกี่ยวข้องกับ เฉิน จื้อ และคำกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง "พวกเขาสามารถมอบหลักฐาน และเขาจะร่วมมือโดยปราศจากความกลัว เพราะเขาบริสุทธิ์ เคยมีหลายคดีที่มีคนใช้ชื่อของเขาไปใช้อำนาจโดยมิชอบ"
ฟิล โรเบิร์ตสัน ผู้อำนวยการคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชีย (AHRC) บอกว่าความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯและสหราชอาณาจักร ถือเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามระดับนานาชาติ ในการขุดรากถอนโคนเขตล้อมรั้งสแกมเมอร์ที่แผ่ขยายอยู่ทั่วกัมพูชา พร้อมชี้ว่ามันควรถูกใช้เป็นสัญญาณเตือนปลุกรัฐบาลกัมพูชา ให้ดำเนินการอย่างแข็งขันกว่าเดิมในประเด็นนี้
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ารัฐบาลกัมพูชาจะใช้มาตรการใดให้เป็นไปตามกรอบของสหรัฐฯและสหราชอาณาจักร และพอผู้สื่อข่าวติดต่อสอบถามไปยังรัฐบาล ทาง เพ็ญ โบนา โฆษกรัฐบาลกลับปฏิเสธแสดงความคิดเห็น บอกว่าเขาไม่มีข้อมูลใดๆที่จะพูดถึงเรื่องนี้
อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ทางปรินซ์กรุ๊ป เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ ไม่ว่าจะเป็นขู่กรรโชกทางเพศ, ฟอกเงิน, คอรัปชัน, การพนันผิดกฎหมาย และค้ามนุษย์แรงงานทาสในกัมพูชา กิจกรรมเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในปฏิบัติการของบริษัท ที่มีเขตล้อมรั้งสแกมเมอร์อย่างน้อยๆ 10 แห่ง
"พวกสแกมเมอร์ก่อความเสียหายร้ายแรงแก่บุคคลที่อ่อนแอ ด้วยการขโมยบ้านของพวกเขาในลอนดอนและใช้เงินทุนของพวกเขาเพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน" อีเวตต์ คูเปอร์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักรกล่าว "ร่วมกับพันธมิตรสหรัฐของเรา จะกำลังดำเนินการอย่างหนักแน่นต่อสู้กับภัยคุกคามข้ามชาติของเครือข่ายนี้ที่เติบโตขึ้นเรื่อย เราจะยึดมั่นสิทธิมนุษยชน ปกป้องพลเมืองสหราชอาณาจักรและกีดกันเงินสกปรกออกจากบ้านเมืองของเรา"
ด้าน สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่าการยกระดับความหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆของการฉ้อโกงข้ามชาติ ก่อความสูญเสียทางการเงินอย่างมหาศาลแก่ชาวอเมริกา ซึ่งเงินเก็บทั้งชีวิตต้องสูญหายไปภายในพริบตา
ทั้งนี้ความสูญเสียของชาวสหรัฐฯที่มีต่อกลโกงด้านการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก แตะระดับ 16,600 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่พวกสแกมเมอร์ที่มีฐานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นต้นตอทำให้เกิดความสูญเสียเพิ่มขึ้นถึง 66% ในปี 2024
กลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเช่น ปรินซ์ กรุ๊ป จัดตั้งขึ้นมาเพื่อโกยเงินจากปฏิบัติการฉ้อโกงทางไซเบอร์ทั้งหลาย ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในกัมพูชา ควบคุมกระแสเงินผิดกฎหมายหลายหมื่นล้านดอลลาร์
ตามหลังมีข่าวว่าธนาคารปรินซ์ แบงค์ มีความเชื่อมโยงกับ เฉิน จื้อ ทางธนาคารต้องรุดออกมาชี้แจงว่า มาตรการดังกล่าวของสหรัฐฯและสหราชอาณาจักร จะไม่ส่งผลกระทบต่อปฏิบัติการของพวกเขา ชี้ว่ามีการแยกกันอย่างชัดเจนระหว่างพวกผู้ถือหุ้นกับฝ่ายบริหาร
อย่างไรก็ตามหนึ่งวันหลังจากข่าวปรากฏขึ้นมา แอปพลิเคชันทางโทรศัพท์มือถือและเว็บไซต์ของธนาคารประสบปัญหาใช้งานไม่ได้ สร้างความผิดหวังแก่ลูกค้าเป็นอย่างมาก ธนาคารรับประกันกับลูกค้าว่ามันเกิดจากปัญหาทางเทคนิคและกำลังจัดการอย่างเร่งด่วน พร้อมรับประกันว่าพวกเขาดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล
(ที่มา:พนมเปญโพสต์)