เอเจนซีส์ - จาการ์ตายืนยันวันพุธ(15 ต.ค)ประเดิมดีลข้อตกลงซื้อเครื่องบินรบขับไล่จีน Chengdu J-10C ไม่ต่ำกว่า 42 ลำกับปักกิ่งเป็นครั้งแรกหลังพึ่งการทหารตะวันตกมานานหลายสิบปี สั่งซื้อยังรวมถึงเครื่องบินรบตุรกี KAAN 48 ลำ หลังเครื่องบินรบฝรั่งเศสที่สั่งไว้ 42 ลำเตรียมเริ่มส่งมอบได้ปีหน้า และเรือดำน้ำฝรั่งเศส Scorpene Evolved 2 ลำและระบบต่อต้านเรดาร์ Thales อีก 13 ระหว่างกำลังปรับปรุงกองทัพแดนอิเหนาให้ทันสมัยครั้งใหญ่
ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานวันพฤหัสบดี(16 ต.ค)ว่า อินโดนีเซียภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต ในการปรับปรุงกองทัพอิเหนาให้ทันสมัยและเพิ่มความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศของตัวเอง เขาได้ออกเดินทางไปทั่วโลกนับตั้งแต่เมื่อครั้งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซียเมื่อปี 2019 และได้เดินทางไปจีน ฝรั่งเศส รัสเซีย ตุรกี และสหรัฐฯเพื่อการจัดซื้อระบบยุทโธปกรณ์ทางการทหารและความสามารถการเฝ้าจับตาและปกป้องดินแดนของตัวเอง
สื่อผู้ดีชี้ว่าแต่ทว่าการประกาศยืนยันข้อตกลงมูลค่ากว่า 9 พันล้านดอลลาร์ในการซื้อเครื่องบินรบขับไล่จีนครั้งแรกรุ่น Chengdu J-10C มากถึง 42 ลำถือเป็นการเปลี่ยนครั้งใหญ่ของแดนอิเหนาที่เปิดฉากซื้ออาวุธจากจีนหลังแต่เดิมเคยแต่สั่งซื้อจากชาติตะวันตกมาโดยตลอดท่ามกลางความวิตกจากนักสังเกตุการณ์ที่ชี้ว่า ยิ่งจะเร่งอุณหภูมิภูมิภาคที่อ่อนไหวให้ร้อนฉ่าขึ้นรวมประเด็นความขัดแย้งทะเลจีนใต้ที่อินโดนีเซียมีหมู่เกาะนาตูนาเป็นเดิมพัน
รัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซีย ซาฟรี ซัมโซเอ็ดดิน (Sjafrie Sjamsoeddin) ยืนยันวันพุธ(15)ถึงข้อตกลงการจัดซื้อ Chengdu J-10C โดยกล่าวว่า
“พวกมันจะบินเหนือน่านฟ้าจาการ์ต้าในเร็ววันนี้”
แต่รัฐมนตรีปฎิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลง
แผนการซื้อฝูงเครื่องบินรบจีนถูกเปิดเผยครั้งแรกอย่างเป็นทางการเดือนที่แล้วโดยกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียเอง สื่อท้องถิ่นอิเหนารายงานว่า กองทัพอากาศอินโดนีเซียจะยังคงตรวจสอบเครื่องบินรบขับไล่ Chengdu J-10C เพื่อทำให้มั่นใจว่า เสริมความสามารถการป้องกันภัยทางอากาศของอินโดนีเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่รัฐมนตรีคลังอินโดนีเซีย ปูร์บายา ยูดิ ซาเดวา (Purbaya Yudhi Sadewa) ในวันเดียวกัน(15) ยืนยันงบประมาณการจัดซื้อเครื่องบินรบจีนที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 9 พันล้านดอลลาร์
“ดังนั้นทุกอย่างสมควรต้องพร้อม” ซาเดวากล่าวให้สัมภาษณ์กับนักข่าวและชี้ว่า “แต่ผมต้องขอตรวจอีกครั้งเมื่อเครื่องบินเหล่านั้นมาถึงกรุงจาการ์ต้าหลังเดินทางออกมาจากกรุงปักกิ่ง”
ดิอินดีเพนเดนท์รายงานต่อว่า การสั่งซื้อยังรวมถึงเครื่องบินรบตุรกี KAAN 48 ลำ หลังเครื่องบินรบฝรั่งเศสที่สั่งไว้ 42 ลำที่ข้อตกลงบรรลุเมื่อมกราคมปี 2024 และเตรียมเริ่มส่งมอบได้ปีหน้า และเรือดำน้ำฝรั่งเศส Scorpene Evolved 2 ลำและระบบต่อต้านเรดาร์ Thales อีก 13 ระบบ
กองทัพอินโดนีเซียปัจจุบันมีเครื่องบินรบขับไล่จากหลายประเทศรวมทั้งจาก อเมริกา รัสเซีย และอังกฤษ ซึ่งบางส่วนต้องถูกเปลี่ยนหรือปรับปรุงให้ทันสมัย
ประธานาธิบดีตุรกี เรเจป ไตยิป แอร์โด ประกาศเมื่อมิถนายนล่าสุดว่า ตุรกีจะส่งออกเครื่องบินรบขับไล่ KAAN ของตัวเองจำนวน 48 ลำไปอินโดนีเซียตามการสั่งซื้อ
เครื่องบินรบขับไล่ KAAN ทั้งหมดจะผลิตภายในตุรกีก่อนส่งไปแดนอิเหนา อ้างอิงจากแถลงการณ์ของแอร์โดอันบนแพลตฟอร์ม X
ด้าน เบนนี ซูคาดิส (Beni Sukadis) นักวิเคราะห์ทางการทหารจากสถาบันอินโดนีเซียเพื่อการป้องกันประเทศและการศึกษาทางยุทธศาสตร์ (Indonesia Institute for Defense and Strategic Studies) ออกมาเตือนจาการ์ต้าว่า ถึงแม้รัฐบาลอินโดนีเซียจะคงดำเนินตามนโยบายไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่ไม่ควรประมาทผลกระทบทางการเมืองเชิงภูมิศาสตร์ต่อสิงที่รัฐบาลซูเบียนโตได้เลือก
เขากล่าวว่า การสั่งซื้อยุทโธปกรณ์ครั้งมโหฬารจากปักกิ่งสามารถถูกแปลความหมายเป็นการหันเหทิศทางความมั่นคงของอินโดนีเซียท่ามกลางการเพิ่มขึ้นในอิทธิพลทางการทหารและการทูตของจีนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นักวิเคราะห์เตือนว่า ความเคลื่อนไหวสามารถทำให้เกิดความอ่อนไหวระดับภูมิภาคต่อทะเลจีนใต้ที่จีนมีผลประโยชน์โดยตรง
ทั้งนี้หมู่เกาะนาตูนา (Natuna Islands) พื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ระหว่างอินโดนีเซียและจีน แต่ปัจจุบันหมู่เกาะอยู่ภายใต้การควบคุมของจาการ์ตา VOA ของสหรัฐฯเคยรายงานเมื่อวันที่ 24 ต.ค ปีที่แล้วว่า เรือยามฝั่งจีนรุกล้ำอธิปไตยน่านน้ำหมู่เกาะนาตูนาถึง 2 ครั้งแต่ได้รับการผลักดันออกไป