เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – วอชิงตันเตือนรัฐบาลดัตช์ในศึกสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนทางความก้าวหน้าเทคโนโลยีความเสี่ยงต่อปัญหาความมั่นคงตามหลังอังกฤษ ชี้ปัญหาซีอีโอบริษัทแม่จีน Wingtech นั่งบริหารเองในบริษัทลูกที่เป็นบริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์ Nexperia ในเนเธอร์แลนด์ ยืนยันถ้าซีอีโอใหญ่จีน จาง ซูเจิง (Zhang Xuezheng) ยังนั่งต่อไป จะไม่สามารถส่งเข้าไปขายในอเมริกาได้ ด้านปักกิ่งยั้วจัดชี้เป็นเหมือนการปล้นตามกฎหมายเชื่อโลกตะวันตกหวั่นไหวต่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีน
เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันอังคาร(14 ต.ค)ว่า เอกสารศาลเนเธอร์แลนด์แสดงว่า เจ้าหน้าที่อเมริกันเตือนรัฐบาลเฮกเมื่อมิถุนายนว่า Nexperia อาจไม่สามารถส่งออกไปสหรัฐฯได้หากว่าทางบริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์จีนที่มีฐานในเนเธอร์แลนด์ยังคงมีซีอีโอใหญ่เป็นชาวจีน จาง ซูเจิง (Zhang Xuezheng)
ทั้งนี้ในช่วงคืนดึกวันอาทิตย์(12) รัฐบาลดัตช์ประกาศงัดกฎหมายยุคสงครามเย็นเพื่อควบคุมกิจการบริษัท Nexperia ในทันที โดยอ้างถึงไม่เป็นไปตามมาตรฐานรัฐบาลขั้นร้ายแรงของบริษัทที่อาจเป็นอันตรายทางความมั่คงต่อระบบซัพพลายเชนต่อโรงงานต่างๆของยุโรป
และจากจุดนั้นพบว่า จางได้ถูกสั่งถอดออกจากตำแหน่ง ซึ่งบริษัท Nexperia นั้นเป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทจีน Wingtech ซึ่งมีรัฐบาลปักกิ่งเข้าถือหุ้นบางส่วน
อ้างอิงจากวีกีพีเดีย Wingtech มีฐานใน เจียซิง(Jiaxing) มณฑลเจ้อเจียง ก่อตั้งโดย จาง ซูเจิง อดีตพนักงานจีนที่เคยทำงานให้กับ STMicroelectronics ของสวิตเซอร์แลนด์
คำสั่งศาลดัตช์เบื้องต้นที่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะในวันอังคาร(14)นั้นมีรายละเอียดรวมไปถึงการประชุมเมื่อวันที่ 12 มิ.ยที่ผ่านมาที่ซึ่ง US Bureau of International Security and Nonproliferation และ กระทรวงต่างประเทศเนเธอร์แลนด์
“ข้อเท็จจริงที่ซีอีโอของบริษัทยังคงเป็นเจ้าของชาวจีนคนเดียวกันนั้นเป็นปัญหา...มันเกือบเป็นที่แน่นอนว่าซีอีโอจะต้องโดนเปลี่ยนตัว”
ทั้งนี้ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานก่อนหน้าว่า การเข้าควบคุมกิจการบริษัทเซมิคอนดักเตอร์จีนนี้เกิดขึ้นด้วยจากความเชื่อที่ว่าอาจเสี่ยงต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจยุโรปหลังพบการไม่เป็นไปตามมาตรฐานรัฐบาลขั้นร้ายแรงของบริษัท
ตามการแถลงของกระทรวงเศรษฐกิจเนเธอร์แนด์ที่ออกมาในวันอาทิตย์(12) แถลงอ้างเหตุผลการเข้าควบคุมกิจการ Nexperia ว่ากระทำไปเพราะเป็นภัยคุกคามต่อป้องกันต่อความรู้ทางเทคโนโลยีและความสามารถของดัตช์และดินแดนยุโรปที่ยังคงดำเนินอยู่
เป็นความเคลื่อนไหวที่ยกระดับความตรึงเครียดระหว่างโลกตะวันตกและจีนต่อเซคเตอร์เทคโนโลยีระดับสูงเช่น เซมิคอนดักเตอร์รุ่นชั้นสูงและแร่แรร์เอิร์ท
เดอะการ์เดียนรายงานว่า รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้ใช้กฎหมายสมัยสงครามเย็นที่ไม่เคยใช้มาก่อนภายใต้ชื่อ กฎหมาย Availability of Goods Act เพื่อป้องกันการตัดสินใจที่อาจเป็นภัยของซีอีโอบริษัท
และยังบ่งชี้ว่า บริษัท Nexperia นั้นมีบริษัทลูกไม่กี่แห่งกระจายทั่วยุโรปรวมทั้งในเมืองแมนเชสเตอร์ อังกฤษ และเมืองฮัมบูร์ก เยอรมัน
ศาลพาณิชย์อัมสเตอร์ดังได้ออกคำพิพากษาในความเห็นเบื้องต้นว่า “มีเหตุผลอย่างชอบธรรมต่อข้อสงสัยต่อนโยบายที่ถูกต้องและการปฎิบัติที่ถูกต้องของการปฎิบัติดำเนินกาของบริษัท”
ทั้งนี้วอชิงตันได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทเซมิคอนดักเตอร์จีน Wingtech ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท Nexperia จากเหตุผลภัยคุกคามความมั่นคงสหรัฐฯปีที่แล้ว จากการที่ช่วยเหลือความพยายามรัฐบาลจีนเพื่อให้ได้มาซึ่งความสามารถชั้นสูงในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์
Wingtech นี้มี 30% เป็นเจ้าของโดยชาวจีนและรัฐบาลระดับภูมิภาคของจีนนั้นได้ซื้อกิจการบริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์จาก บริษัทฟิลิปส์ของดัตช์
และในวันที่ 30 ก.ย การขึ้นบัญชีดำนั้นรวมไปถึงบรรดาบริษัทลูกของ Wingtech ที่หมายความว่า Nexperia จะเสี่ยงต่อการโดนคว่ำบาตรภายในสิ้นพฤศจิกายนนี้
การเข้ามาควบคุมกิจการของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์เกิดขึ้นหลังก่อนหน้าเมื่อราวปีครึ่งก่อนหน้า รัฐบาลอังกฤษออกคำสั่งเด็ดขาดให้ Wingtech ต้องขายหุ้นทั้งหมด 86%ที่ถืออยู่ในโรงงานผลิตชิปที่นิวพอร์ตในแคว้นเวลส์ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตชิปที่ใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจากสาเหตุวิตกต่อภัยคุกคามทางความมั่นคง
เดอะการ์เดียนรายงานว่า Wingtech ออกมาตอบโต้มาตรการเข้าควบคุมกิจการของรัฐบาลดัตช์ว่า เป็นการเข้าแทรกแซงที่มากเกินไปที่มาจากอคติทางการเมืองเชิงภูมิศาสตร์โลก
ในวันอังคาร(14) จีนได้ประกาศห้าม Nexperia และบริษัทรับเหมาเช่าช่วงจากการส่งออกชิ้นส่วนเพื่อประกอบในจีนจากความตรึงเครียดกับสหรัฐฯทวีคูณ
ทั้งนี้หนังสือพิมพ์จีนพีเพิลเดลีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน CCP ได้ออกมาโจมตีว่า เป็นการปล้นที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อคลุมแห่งตุลาการ พร้อมเตือนว่าพวกตะวันตกกำลังใช้เหตุผล”ความมั่นคงประเทศ” เป็นข้ออ้างเพื่อแก้ตัวความล้มเหลวในการแข่งกับจีน