เอเจนซีส์ – การพูดคุยกระซิบข้างหูระหว่างผู้นำสหรัฐฯและประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ปราโบโว ซูเบียนโต ที่พิธีลงนามสันติภาพกาซาที่อียิปต์วานนี้(13 ต.ค)กลายเป็นข่าวดังเมื่อผู้นำแดนอิเหนาเอ่ยปากขอทรัมป์ขอพบลูกชาย เอริค ทรัมป์ โดยอ้างเหตุปัญหาภูมิภาคไม่ปลอดภัย ส่งผลทำให้ผู้นำสหรัฐฯพูดจะให้ลูกชายโทรติดต่อไปหา สร้างความฉงนไปทั่ว ด้านนายกฯแดนเสือเหลือง อันวาร์ อิบราฮิม แจงสาเหตุ มาเลเซียไม่ได้ถูกเชิญเข้าร่วมจากสนับสนุนแผน 20 ข้อสันติภาพกาซาแบบมีเงื่อนไข
เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันอังคาร(14 ต.ค)ว่า กลายเป็นประเด็นร้อนเมื่อผู้นำแดนอิเหนาได้กล่าวต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ในงานพิธีลงนามสันติภาพกาซาที่เมืองชาร์ม เอล-ชีค (Sharm El-Sheikh) ในวันจันทร์(13) ถามออกไปว่าเขาจะสามารถพบบุตรชายผู้นำสหรัฐฯ เอริค ทรัมป์ ได้หรือไม่ระหว่างที่บรรดาผู้นำทั่วโลกจากชาติมหาอำนาจพากันมารวมตัวที่อียิปต์ที่มีเป้าหมายเพื่อคว้าข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงครามกาซาที่ยืดเยื้อ
ทั้งนี้ปราโบโวดูเหมือนไม่รู้ว่าไมค์กำลังเปิดอยู่และได้อัดเสียงสนทนาของเขาไว้ โดยในคำสนทนาระหว่างกันที่มีบางส่วนไม่ได้ยินแต่ทว่าพบว่า ผู้นำอิเหนาได้พูดและอ้างไปถึงภูมิภาคว่า “ไม่ปลอดภัย เหตุผลด้านความมั่นคง” พร้อมกันนั้นได้ถามประธานาธิบดีทรัมป์ว่า “ ผมจะพบเอริคได้ไหม?”
และทำให้ผู้นำสหรัฐฯตอบกลับมาว่า “ผมจะให้เอริคโทรกลับนะ ผมควรทำเช่นนั้นใช่ไหม? เขาเป็นเด็กดี ผมจะให้เอริคโทรหา”
เดอะการ์เดียนรายงานว่า บริษัท Trump Organization, Inc ของตระกูลทรัมป์ที่มีเอริค ทรัมป์ และโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ นั่งเป็นผู้บริหารบริษัทระดับสูงที่ธุรกิจของตระกูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ของบริษัทนั้นได้มีการเปิดสนามกอล์ฟภายใต้ชื่อทรัมป์เมื่อมีนาคมโดยเป็นความร่วมมือกับบริษัทอินโดนีเซีย ขณะที่อีกแห่งที่ระบุว่าเป็นรีสอร์ทในบาหลีนั้นถูกระบุว่าจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้
นับตั้งแต่กลับคืนสู่ทำเนียบขาวรอบ 2 ผู้นำสหรัฐฯเผชิญหน้ากับการตรวจสอบผลประโยชน์ทางธุรกิจของเขารอบใหม่พร้อมข้อกล่าวหาว่าเขาหาประโยชน์จากตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯด้วยผลประโยชน์ทับซ้อนทางธุรกิจผ่านอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตอยู่รอบโลก
เดลีเมลของอังกฤษรายงานว่า อ้างอิงจากการวิเคราะห์การแจ้งภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์โดย CREW พบว่าธุรกิจของทรัมป์นั้นมีความสัมพันธ์มั่งคั่งกับอินโดนีเซีย โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯมีรายได้ 14 ล้านดอลลาร์จากผลประโยชน์ทางธุรกิจของเขาในแดนอิเหนาระหว่างปี 2015 – ปี 2019
เดอะการ์เดียนรายงานต่อว่า ประธานาธิบดีอินโดนีเซียยังกล่าวต่อทรัมป์ต่อว่า “พวกเราจะมองหาสถานที่ดีกว่า” และผู้นำสหรัฐฯตอบกลับมาว่า “ผมจะให้เอริคโทรศัพท์มาหาคุณ”
ส่งผลทำให้ปราโบโวตอบกลับมาว่า “เอริคหรือดอน จูเนียร์ก็ได้”
สื่ออังกฤษชี้ว่า ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการสนทนาระหว่างกันนี้เกี่ยวข้องกับบริษัท Trump Organization หรือข้อตกลงทางธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีสหรัฐฯหรือครอบครัวของเขา
เดลีเมลของอังกฤษรายงานว่า ผู้นำทั้วงสองสนทนาต่อแต่ทว่าเสียงสนทนาไม่สามารถจับใจความได้เป็นส่วนใหญ่ แต่ทว่าก่อนที่จะสิ้นสุดการสนทนา มีเสียงทรัมป์พูดกับปราโบโวว่า “ยอดเยี่ยม”
และผู้นำสหรัฐฯได้กล่าวในตอนท้ายว่า “ขอขอบคุณเพื่อนของผม ผมชอบที่คุณบอกผมเช่นนั้น พวกเราไม่ต้องการ”
ทั้งนี้ขณะเดียวกันในประเทศเพื่อนบ้านมาเลเซีย อ้างอิงจากมาเลย์เมลรายงานวันนี้(14) นายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม ออกมายอมรับว่า มาเลเซียไม่ได้รับเชิญไปในงานวันจันทร์(13)ที่อียิปต์ โดยเขาอ้างว่าการประชุมสันติภาพกาซาที่ชาร์ม เอล-ชีค ที่มีสหรัฐฯและอียิปต์เป็นเจ้าภาพร่วมนี้เหล่าบรรดาประเทศที่ได้รับเชิญนั้นให้การสนับสนุน 100% ต่อแผนสันติภาพ 20 ข้อของทำเนียบขาวในขณะที่กัวลาลัมเปอร์นั้นรับรองแบบมีเงื่อนไข
อันวาร์กล่าวว่า จุดยืนของมาเลเซียในการสนับสนุนโดยยืนยันว่าความริเริ่มสันติภาพกาซาใดๆต้องรวมถึงทางออกที่ครอบคลุมที่ต้องรับรองปาเลสไตน์ในฐานะรัฐที่มีอธิปไตยและการให้หลักประกันต่อสิทธืการกลับคืนมาของเหล่าปาเลสไตน์พลัดถิ่น