จีนจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมท่าเรือสำหรับเรือที่สหรัฐฯ เป็นเจ้าของ ดำเนินการ สร้าง หรือติดธง ตั้งแต่วันอังคารที่ 14 ต.ค. เป็นต้นไป โดยเป็นมาตรการตอบโต้การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมท่าเรือของสหรัฐฯ สำหรับเรือที่เชื่อมโยงกับจีนที่จะเริ่มมีผลในวันเดียวกัน ตามถ้อยแถลงจากกระทรวงคมนาคมของจีนวานนี้ (10)
ต่อมาในวันเดียวกัน ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศว่าเขาจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 100% และกำหนดมาตรการควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์สำคัญ เพื่อเป็นการตอบโต้ข้อจำกัดการส่งออกแร่ธาตุหายาก (แรร์เอิร์ธ) ของจีน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า แม้เรือที่สร้างโดยสหรัฐฯ หรือติดธงสหรัฐฯ ที่ทำการค้าระหว่างประเทศจะมีอยู่ค่อนข้างน้อย ทว่ามาตรการของจีนจะส่งผลกระทบต่อเรือจำนวนมากขึ้น เนื่องจากมีการเรียกเก็บภาษีจากบริษัทที่มีกองทุนรวมในสหรัฐฯ ถือหุ้นหรือที่นั่งในคณะกรรมการ 25% ขึ้นไป
“เรื่องนี้มีผลอย่างกว้างขวาง และอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทเดินเรือสาธารณะหลายแห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ” เอริก โบรคฮุยเซน ผู้จัดการฝ่ายวิจัยและให้คำปรึกษาทางทะเลของบริษัทนายหน้าซื้อขายเรือ Poten & Partners กล่าว
“ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นมีนัยสำคัญ” เขาย้ำ
ตั้งแต่วันอังคารหน้า (14) เรือที่ต่อขึ้นในจีนหรือที่ดำเนินการโดยหรือเป็นเจ้าของโดยนิติบุคคลจีนจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมที่ท่าเรือแรกที่เข้าเทียบท่าในสหรัฐอเมริกาเช่นกัน
ทั้งนี้ เรือบางลำต้องจ่ายค่าธรรมเนียมทั้งฝั่งจีนและสหรัฐฯ
บริษัทเดินเรือ Matson ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐฯ แจ้งกับลูกค้าว่า บริษัทต้องเสียค่าธรรมเนียมท่าเรือจีนใหม่ และไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงตารางการให้บริการ
ลาร์ส เจนเซน ซีอีโอของ Vespucci Maritime บริษัทที่ปรึกษาที่เน้นการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ โะสต์บน LinkedIn ว่า บริษัท American President Lines ของ CMA-CGM ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา และบริษัท Zim ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศอิสราเอล และดูเหมือนว่าจะมีบริษัทในสหรัฐฯ ถือครองหุ้นมากกว่า 25% อาจได้รับผลกระทบด้วย
เจนเซน กล่าวว่า ค่าธรรมเนียมในทั้งจีนและสหรัฐอเมริกาจะมีผลบังคับใช้กับเรือ 100 ลำที่บริษัท Seaspan ของโพไซดอนเป็นเจ้าของ และถูกเช่าเหมาลำโดยบริษัทเดินเรือขนส่งสินค้า
บริษัท Maersk Line Limited, APL, Zim และ Seaspan ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ผู้ประกอบการเรือบรรทุกน้ำมันส่วนใหญ่มักตั้งอยู่นอกสหรัฐฯ แต่ก็อาจได้รับผลกระทบจากค่าธรรมเนียมท่าเรือของจีนด้วย เนื่องจากจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา
ตัวอย่างที่น่าสนใจคือบริษัท Scorpio Tankers ซึ่งมีกองเรือที่ใหญ่ที่สุดและอายุน้อยที่สุดในอุตสาหกรรม และจดทะเบียนอยู่ในสหรัฐฯ ทว่าบริษัทก็ยังไม่ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้
โบรคฮุยเซน กล่าวในจดหมายถึงลูกค้าว่า ค่าธรรมเนียมท่าเรือของจีน "ทำให้ตลาดเรือบรรทุกน้ำมันเกิดความวุ่นวาย" พร้อมเสริมว่า เรือหลายลำที่อาจได้รับผลกระทบกำลังมุ่งหน้าไปยังจีนแล้ว
ค่าธรรมเนียมของสหรัฐฯ สำหรับเรือที่เชื่อมโยงกับจีนหลังจากการสอบสวนโดยผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะฟื้นฟูอุตสาหกรรมต่อเรือภายในประเทศ และบั่นทอนอำนาจทั้งด้านการเดินเรือและขนส่งพาณิชย์ของจีน
กระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า "การกระทำดังกล่าวถือเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน และทำลายผลประโยชน์อันชอบธรรมของอุตสาหกรรมการเดินเรือของจีนอย่างร้ายแรง ทำลายเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานโลกอย่างร้ายแรง และบั่นทอนระเบียบเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง"
ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา จีนได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ของโลกด้านการต่อเรือ โดยมีอู่ต่อเรือที่ใหญ่ที่สุดของจีนรับผิดชอบทั้งโครงการเชิงพาณิชย์และการทหาร
ที่มา: รอยเตอร์