เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีอิหร่าน มาซูด เปเซชเคียน วันพฤหัสบดี(2 ก.ย) แถลงกำลังวางแผนการเพื่อย้ายเมืองหลวงออกจากกรุงเตหะรานไปยังที่ใหม่แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียด อ้างปัญหาวิกฤตขาดแคลนน้ำ ยืนยันได้แจ้งต่อผู้นำจิตวิญญาณสูงสุดอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ถึงการย้ายที่ตั้งเมืองหลวงแล้ว
เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันพฤหัสบดี(2 ต.ค)ว่า ประธานธิบดีอิหร่าน มาซูด เปเซชเคียน อ้างว่า อิหร่านไม่มีทางเลือกนอกจากต้องย้ายเมืองหลวงจากกรุงเตหะรานออกไปทางใต้ของประเทศหลังจากที่เมืองหลวงมีการขยายตัวมากจนเกินไป เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างหนักเพื่ออุปโภคและบริโภครวมไปถึงภัยคุกคามที่มากขึ้นจากการทรุดตัวของดิน
ทั้งนี้ผู้นำเตหะรานแถลงวานนี้(2)ว่า เขาได้แจ้งเรื่องแผนย้ายเมืองหลวงต่อผู้นำจิตวิญญาณสูงสุดอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ตั้งแต่ปีที่แล้ว และในการเปิดเผยยังยอมรับว่าได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก แต่แย้งว่าอย่างไรก็ตามรัฐบาลอิหร่านไม่มีทางเลือกจำเป็นต้องย้ายออกไปจากกรุงเตหะรานอย่างแน่นอน
เป็นการออกมาเปิดเผยระหว่างการเดินทางไปเยือนจังหวัดฮอร์โมสกัน (Hormozgan) ตั้งบนอ่าวเปอร์เซียและอยู่ตรงข้ามกับเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
dpa ของเยอรมันรายงานเพิ่มเติมว่า อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์อิหร่าน Shargh ระบุว่าเปเซชเคียนกำลังพิจารณาว่าจะย้ายเมืองหลวงไปที่เมืองชายฝั่งอ่าวเปอร์เซียทางใต้หรือทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ
แต่เขาไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดหรือชื่อเมืองที่ต้องการจะย้าย ทว่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญแสดงความเห็นเชื่อว่า ว่าเปเซชเคียนน่าจะเลือกจังหวัดจังหวัดซิสตานและบาลูจิสถาน (Sistan and Balochistan) หรือ จังหวัดฮอร์โมสกัน
สื่อเยอรมันชี้ว่า กรุงเตหะรานปัจจุบันมีประชากรอาศัยอย่างหนาแน่นร่วม 15 ล้านคนแต่ทว่ามีปัญหามากมายทั้งวิกฤตขาดแคลนน้ำ ปัญหาค่าเช่าราคาแพง ดินทรุด และวิกฤตมลพิษทางอากาศมหาศาลนั้นล้วนเป็นเหตุผลที่ต้องการย้ายที่ตั้งของรัฐบาลอิหร่านออกไปจากกรุงเตหะราน