เอเจนซีส์/รอยเตอร์/MGRออนไลน์ – สนามบินมิวนิกของเยอรมันในช่วงข้ามคืนพฤหัสบดี(2 ต.ค)มาจนถึงเช้าวันศุกร์(3 ต.ค) ต้อง
ปิดลงหลังเจอโดรนป่วน แต่สนามบินสามารถกลับมาเปิดได้ตอนตี 5 พบเที่ยวบินแรกมีกำหนดบินลงเป็นเครื่องสายการบินลุฟท์ฮันซ่าเที่ยวบิน DLH773 / LH773 มาจาก "กรุงเทพฯ โดยการปิดสนามบินชั่วคราวกระทบ 17 เที่ยวบินโดนสั่งห้ามบินขึ้น ผู้โดยสารเกือบ 3,000 คนติดอยู่ไปไหนไม่ได้ ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียวานนี้(2 ต.ค) ยืนกรานว่า สงครามกับโลกตะวันตกที่เป็นอยู่ในเวลานี้ไม่ใช่สงครามเย็นแต่เป็นสงครามที่ร้อนแรงที่กำลังเริ่มเปิดฉาก
CNN ของสหรัฐฯรายงานวันนี้(3 ต.ค)ว่า เที่ยวบินทั้งหมด 17 เที่ยวถูกสั่งห้ามขึ้นบินไม่นานหลังเวลา 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของเมืองมิวนิก ทางใต้ของเยอรมันในวันพฤหัสบดี(2) เกิดขึ้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิก ซึ่งเป็นฐานของสายการบินลุฟฮานซาชื่อดังหลังพบโดรนป้วนเปี้ยน กระทบผู้โดยสารร่วมเกือบ 3,000 คนที่ไม่สามารถออกเดินทางได้ตามกำหนด อ้างอิงจากการแถลงของท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิก
นอกเหนือจากนี้พบว่ามีอีก 15 เที่ยวที่กำลังจะเดินทางมาต้องถูกสั่งให้ไปบินลงไปยังเมืองอื่นๆแทนทั้ง ชตุตต์การ์ต นูเรมเบิร์ก และแฟรงก์เฟิร์ต และไปไกลถึงกรุงเวียนนา ออสเตรีย อ้างอิงจากแถลงการณ์
เว็บไซต์ติดตามเที่ยวบิน Flightradar แสดงให้เห็นว่ามีเครื่องบินไม่กี่ลำกำลังบินวนสนามบินเมื่อเวลาราว 23.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นก่อนมุ่งหน้าไปสู่จุดหมายปลายทางอื่นแทน
เดลีเมลของอังกฤษรายงานว่า อ้างอิงจากสื่อท้องถิ่นเยอรมันพบว่า ฝูงโดรนปรากฎตัวครั้งแรกให้เห็นในเวลาราว 21.30 น. ก่อนที่รันเวย์ทั้งหมดจะปิดในเวลา 22.30 น.
การปรากฎตัวของโดรนใกล้สนามบินเกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่เยอรมันในวันพุธ(1) แถลงกำลังสอบสวนการรายงานอ้างว่า มีการปรากฎตัวของโดรนที่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญในรัฐชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ (Schleswig-Holstein)
ทั้งนี้ตามรานงานของสื่อเยอรมัน แดร์ ชปีกัล มีโดรนนับไม่ถ้วนปรากฎตัวเมื่อวันที่ 25 ก.ย เหนือโรงงานไฟฟ้าในเมืองคีล (Kiel) ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐ และรวมไปถึงโรงพยาบาลวิทยาลัยการแพทย์และอู่ต่อเรือ
CNN รายงานว่าอย่างไรก็ตามสนามบินมิวนิกกลับมาเปิดได้อีกครั้งในเวลาราว 05.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้(3) เมื่อเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกนั้นดูปลอดภัย
“ในเวลานี้ทุกสิ่งได้กลับคืนสู่ปกติ มีบางเที่ยวบินถูกสั่งยกเลิกแต่สนามบินได้กลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง โดยตั้งแต่เวลา 05.00 น. เป็นต้นไปเที่ยวงบินขาเข้าทั้งหมดและขาออกทั้งหมดนั้นปลอดภัย” รายงานจากแถลงการณ์ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิก
อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของสนามบินมิวนิกพบว่าเที่ยวบินแรกที่มีกำหนดจะร่อนลงจอดในเวลา 05.25 น.ของวันศุกร์(3)เป็นเที่ยวบินไกลของลุฟท์ฮันซ่าจากรูทกรุงเทพฯ-มิวนิก ซึ่งสนามบินมิวนิกถือเป็นสนามบินใหญ่แค่เฉพาะครึ่งแรกของปีมีนักท่องเที่ยวผ่านเข้าออกไปแล้วเกือบ 20 ล้านคน
อ้างอิงจากเว็บไซต์ติดตามเที่ยวบิน flightaware พบว่าเที่ยวบิน ลุฟท์ฮันซ่า DLH773 / LH773 ที่เดินทางออกมาจากสนามบินสุวรรณภูมิของไทยในวันพฤหัสบดี(2)เดินทางถึงสนามบินมิวนิกและร่อนลงจอดในเวลา 5:35 น.ตามเวลา CEST (เวลาฤดูร้อนของยุโรปกลาง)ของวันศุกร์(3) โดยเทียบท่าที่เกต GATE I48
โฆษกบริษัทสายการบินลุฟท์ฮันซ่าให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่า มี 19 เที่ยวบินโดนสั่งยกเลิกหรือต้องเปลี่ยนไปลงที่สนามบินอื่นรวมไปถึง 3 เที่ยวบินรูทไกลไปเอเชียที่ทั้งหมดต้องมีการเปลี่ยนกำหนดเที่ยวบินใหม่
ลุฟท์ฮันซ่าได้จัดหาอาหาร เครื่องดื่ม และผ้าห่มให้กับผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบ โดยภาพที่ปรากฏมาตามหน้าสื่อเป็นภาพผู้โดยสารกำลังนอนหลับบนเตียงสำหรับตั้งแคมป์ที่ตั้งเป็นแถว
มิวนิกกลายเป็นสนามบินล่าสุดที่ตกเป็นเหยื่อต้องปิดหลังพบโดรนจำนวนหนึ่งปรากฏตัวหลังสนามบินทั่วยุโรปตกเป็นเป้า รวม เดนมาร์ก
เกิดขึ้นระหว่างที่เครมลินออกแถลงยืนยันเป็นครั้งแรกว่า การยั่วยุตรงมาที่นาโตและตะวันตกนี้ไม่ใช่เป็นแพทเทิร์นภายใต้สงครามเย็นตามที่ตะวันตกเข้าใจ รอยเตอร์รายงานว่า โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซัคฮาโรวา (Maria Zakharova) วันพฤหัสบดี(2) ประกาศว่าสงครามเย็นได้สิ้นสุดแล้วและความขัดแย้งที่ร้อนแรงกับโลกตะวันตกกำลังเริ่มต้น
ซัคฮาโรวาโดนถามจากนักข่าวเกี่ยวกับข้อกล่าวหาของยุโรปปที่ว่า มอสโกบุกรุกน่านฟ้านาโต และออกปฎิบัติการบ่อนทำลายรวมไปถึงการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีการแฮกคอมพิวเตอร์ในที่ตั้งสำคัญ โดยเธอยืนยันว่า เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลแสดงให้เห็นว่าทั้ง EU และ NATO กำลังเตรียมการยั่วยุต่อรัสเซีย โดยชี้ว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงว่า พวกเขากำลังเตรียมการยั่วยุอย่างต่อเนื่องและเพื่ออ้างความชอบธรรมต่อการใช้งบประมาณทางการทหาร
และในการถามเธอยังกล่าวต่อโดยยืนยันว่า ความขัดแย้งปัจจุบันไม่ใช่เป็นสงครามเย็นอย่างแน่นอน โดยกล่าวว่า “พวกเรากำลังอยู่ในอีกรูปแบบของความขัดแย้ง ไม่มีความเย็นที่นี่มาเป็นเวลานาน มีแต่ความร้อนแรงที่นี่” เธอกล่าว