เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเชิงยุทธศาสตร์ของโลกและความขัดแย้งในภูมิภาคผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารและเทคโนโลยีประจำสถาบันธิงแทงก์ Bill Graham Centre ของมหาวิทยาลัยโตรอนโต แคนาดาชี้ "รัสเซีย" กลับเข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกครั้ง เริ่มซ้อมรบกับลาวที่มีพรมแดนติดกับไทยระหว่างการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชายังระอุ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหาร Shahryar Pasandideh ประจำสถาบันธิงแทงก์ Bill Graham Centre ของมหาวิทยาลัยโตรอนโต แคนาดา และเคยตีพิมพ์ผลงานที่ NATO Association of Canada ที่เกี่ยวข้องกับองค์การแอตแลนติกเหนือสำหรับแคนาดาก่อตั้งเมื่อปี 1966 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม ได้วิเคราะห์การเข้ามาภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ “รัสเซีย” ผ่านบทความ Laos-Russia Bilateral Military Training Event Draws Attention To Potential Proliferation Of Armed "FPV" Multirotor Drones In Southeast Asia บนเว็บไซต์ spasconsulting เมื่อวันที่ 29 ก.ย ที่ผ่านมา
โดยชี้ว่า เชื่อว่าจากการซ้อมรบระดับทวิภาคีระหว่างลาว-รัสเซียทำให้ชี้ไปว่า “โดรน FPV แบบหลายมอเตอร์(FPV Multirotor Drone)แบบติดอาวุธของรัสเซียจะเข้ามามีบทบาทในความมั่นคงในภูมิภาคที่กำลังเกิดความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา
กองทัพลาวและรัสเซียเริ่มต้นซ้อมรบร่วมระหว่างวันที่ 15 ก.ย - วันที่ 25 ก.ย ที่ผ่านท่ามกลางความสัมพันธ์ที่แนบแน่นมากขึ้นระหว่างเวียงจันทน์-รัสเซียท่ามกลางการรายงานก่อนหน้าว่า มอสโกต้องการทหารลาวเข้าไปช่วยรบในยูเครน และรัสเซียยังเข้ามาเปิดโรงเรียนในระดับชั้นการศึกษาปกติแต่สอนเป็นภาษารัสเซียทั้งหมด
มีรายงานว่าลาวซึ่งตั้งอยู่ระหว่าง 2 ชาติพันธมิตรเหนียวแน่นของสหรัฐฯและนาโตได้แก่ ไทย และ เวียดนาม อ้างอิงจาก united24media รายงานเมื่อวันที่ 9 ก.ย ว่าลาวได้ส่งหน่วยเก็บกู้ระเบิดของตัวเองไปแคว้นคูร์สก์ในรัสเซีย
Pasandideh ชี้ว่าการซ้อมรบร่วมระหว่างลาว-รัสเซียเป็นที่น่าจับตาและยังเกิดขึ้นระหว่างความขัดแย้งทางพรมแดนระหว่างไทย-กัมพูชาที่มีการสู้รบทางการทหารเกิดขึ้นระหว่างกันและมีผู้เสียชีวิต
อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการกองทัพรัสเซียพบว่า ปฎิบัติการซ้อมรบ Laros 2025 นี้จะมีการซ้อมให้ทหารลาวฝึกยิงการรบในเมืองที่มีการยิงอย่างหนักและการฝึกหย่อนของตกทางอากาศจากเฮลิคอปเตอร์
ในขณะที่ ลาวนั้นกำลังแนบแน่นกับรัสเซียแต่กัมพูชาที่พึ่งพามหาอำนาจใหญ่ในภูมิภาคเช่น “จีน” ที่มีอิทธิพลใน “ไทย” เช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า พนมเปญซึ่งกำลังรบกับไทยตกอยู่ในสถานะที่อึดอัดที่เศรษฐกิจของประเทศต้องอยู่ในกำมือของปักกิ่งและแม้กระทั่งการสนับสนุนทางการทหาร(ในทางสันติ) ในลักษณะที่ไม่มีความแตกต่างจากลาว โดยที่ไม่สามารถได้รับการรับรองทางความมั่นคงอย่างหนักแน่นจากปักกิ่งจากการที่จีนยังคงให้ความสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่ง-ไทย
และด้วยสาเหตุการไร้หลักประกันทางความมั่นคงที่แน่นอนนี้ส่งผลทำให้ทั้งกัมพูชาและลาวอาจจะหันไปหาผู้เล่นอื่นทางด้านความมั่นคง เป็นต้นว่า รัสเซีย ที่ถือเป็นชาติยักษ์ใหญ่ทางการทหารและการส่งออกอาวุธของโลกถือเป็นคู่ปรับของสหรัฐฯและจีนในด้านเทคโนโลยีการป้องกันประเทศอาจก้าวเข้ามาเปิดการขายอาวุธล้ำสมัยเป็นต้นว่า ระบบการป้องกันทางอากาศพิสัยไกล S-400 มิสไซล์ Iskander และโดรนทหารชื่อดัง Shahed-136 ในสมรภูมิรบยูเครน รวมยุทโธปกรณ์อื่นๆให้กับชาติเล็กๆเพื่อเพิ่มความสามารถทางการทหารของตัวเองเพื่อปกป้องตัวเองจาก “ไทย” ซึ่งเป็นชาติที่ใหญ่กว่ามีความมั่งคั่งมากกว่าและมียุทโธปกรณ์ทหารป้องกันประเทศที่เหนือกว่า กัมพูชา และ ลาว
ทั้งนี้พบว่ามอสโกเริ่มที่จะเปิดข้อเสนอที่เย้ายวนใจให้ทั้ง กัมพูชา และ ลาว ในราคาที่ต่ำกว่ามากเป็นต้นว่า โดรน FPVการทหาร แบบหลายมอเตอร์ที่ใช้ในสงครามยูเครน
Pasandideh กล่าวว่ารัสเซียนั้นอยู่ในจุดที่ดีมากโดยเฉพาะหากมีการหยุดยิงถาวรเกิดขึ้นในสงครามยูเครน โดยมอสโกหากสามารถขายให้แก่ทั้ง กัมพูชา และ ลาว สำหรับโดรน FPV แบบติดอาวุธราว 10,000หมื่นตัว ที่จะมาพร้อมกับอะไหล่ชิ้นส่วนและการฝึกสอนโดยรัสเซีย
แต่ทั้งลาวและกัมพูชาอาจต้องจ่ายสำหรับโดรนติดอาวุธรัสเซียจำนวน 10,000 ตัวในราคาราว 10 ล้านดอลลาร์ – 15 ล้านดอลลาร์
ผู้เชี่ยวชาญชี้ต่อว่า ทั้ง “รัสเซีย” และ “ยูเครน” มีช่องทางที่จะสามารถทำเงินจากการขายเทคโนโลยีโดรนทหาร FPV ที่ต่างใช้ในสงครามยูเครนที่เทคโนโลยีโดรนมีบทบาทเป็นอย่างมาก รวมถึงยังสามารถโจมตีเป้าหมายทางการทหารใหญ่ เช่น เฮลิคอปเตอร์ได้
หนังสือพิมพ์เดอะซันของอังกฤษรายงานเมื่อ 2 วันก่อนหน้าบนยูทูปว่า โดรนทหาร FPV จากกองพลน้อยที่ 59 ของกองกำลังระบบควบคุมโดยไร้มนุษย์ของยูเครนประสบความสำเร็จสามารถยิงและทำลายเฮลิคอปเตอร์โจมตีรัสเซีย Mi-28 ลำใหญ่ได้
ยูโรนิวส์รายงานเมื่อวันที่ 29 ก.ยว่า ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แถลงกลางที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติว่า ยูเครนจะใช้ประสบการณ์และความสามารถที่ได้จากสงครามรบกับรัสเซียเปิดประเทศเพื่อให้ยูเครนเป็นผู้ส่งออกอาวุธระดับโลก ซึ่งเป็นอาวุธที่ผลิตในยูเครนและทดสอบในสนามรบจริง
เขาประกาศว่า “พวกเราตัดสินใจเปิดการส่งออกอาวุธ โดยระบบอาวุธที่ทรงพลานุภาพเหล่านี้ถูกทดสอบในสงครามจริง”
ผู้นำยูเครนประกาศว่า อาวุธยูเครนนั้นมีความทันสมัยและเชื่อถือได้
“พวกคุณไม่ต้องเริ่มตั้งแต่ศูนย์ พวกเราพร้อมที่จะแบ่งปันในสิ่งที่พวกเราพิสูจน์ได้ว่าได้ผลในการป้องกันสมรภูมิจริงระดับโลก” เซเลนสกีประกาศ
ทั้งนี้ตลาดเทคโนโลยีโดรนที่สหรัฐฯนำเทคโนโลยีการทหารสำหรับโดรน MQ-9 Reaper และจีนที่เป็นผู้เล่นใหญ่ในตลาดโดรนนี้กำลังเริ่มคับคั่ง ส่งผลทำให้ประเทศเล็กที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็กและยากจนนั้น รัสเซียสามารถก้าวเข้ามามีบทบาทในการเป็นผู้ส่งออกเทคโนโลยีไปให้ชาติเหล่านี้
ผู้เชี่ยวชาญประจำสถาบันธิงแทงก์ Bill Graham Centre ของแคนาดาแสดงความเห็นว่า มอสโกน่าจะใช้การขายโดรนทหารของตัวเองเป็นเครื่องมือนำเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์กับทั้งลาวและกัมพูชา ซึ่งโดยกว้างๆเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ ซึ่งประเทศเช่นทั้ง ลาว และกัมพูชา อาจกลายเป็นชาติแรกๆที่เป็นลูกค้าโดรนติดอาวุธรัสเซียก็เป็นได้
ทั้งนี้ในช่วงต้นของความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา สื่อไทยเมื่อ 2 เดือนก่อนหน้าเคยรายงานการพบว่ามีคลิปสื่อสารเป็นภาษารัสเซียและเกิดข่าวลือไปทั่วว่าเขมรจ้างทหารรัสเซียมาช่วยบังคับโดรนรบไทย แต่ในเวลาต่อมามีรายงานอ้างว่าเป็นชาวรัสเซียไปวางระบบสื่อสารในลาว