ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศในวันจันทร์ (29 ก.ย.) ว่านายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ได้ตกลงสนับสนุนข้อเสนอสันติภาพที่สหรัฐฯ จัดทำขึ้นเพื่อยุติสงครามในกาซาที่ดำเนินมาเกือบ 2 ปี แต่ยังคงมีคำถามว่า กลุ่มฮามาสที่ปกครองกาซาจะยอมรับแผนดังกล่าวหรือไม่
ในการแถลงข่าวร่วมที่ทำเนียบขาวภายหลังการประชุมกับเนทันยาฮู ทรัมป์ กล่าวว่า พวกเขา "ใกล้บรรลุข้อตกลงสันติภาพที่ยากจะบรรลุได้" สำหรับดินแดนปาเลสไตน์ ขณะเดียวกันก็เตือนกลุ่มฮามาสว่า อิสราเอลจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากสหรัฐฯ ในปฏิบัติการใดๆ ก็ตามที่สหรัฐฯ เห็นว่าจำเป็น หากกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ปฏิเสธข้อเสนอนี้
ทำเนียบขาวได้เผยแพร่เอกสาร 20 ประเด็นที่เรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันที แลกเปลี่ยนตัวประกันที่ฮามาสจับไว้กับนักโทษปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอลคุมขังอยู่ การที่อิสราเอลจะถอนตัวออกจากกาซาแบบเป็นขั้นตอน การปลดอาวุธฮามาส และการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลที่นำโดยองค์กรระหว่างประเทศ
ทรัมป์ เข้าร่วมการประชุมเมื่อวันจันทร์ (29) เพื่อพยายามแก้ไขข้อกังวลของ เนทันยาฮู เกี่ยวกับแผนบางส่วน ยังไม่เป็นที่แน่ชัดในทันทีว่ารัฐบาล ทรัมป์ และอิสราเอลได้คลี่คลายความเห็นต่างทั้งหมดแล้วหรือไม่ รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการตั้งรัฐปาเลสไตน์ในอนาคตซึ่งเป็นสิ่งที่ เนทันยาฮู ปฏิเสธอย่างหนักแน่น และบทบาทขององค์การบริหารแห่งชาติปาเลสไตน์ (Palestinian Authority) ในการปกครองดินแดนปาเลสไตน์หลังสงคราม
ทรัมป์ กล่าวขอบคุณ เนทันยาฮู "ที่เห็นด้วยกับแผนดังกล่าว และเชื่อมั่นว่าหากเราทำงานร่วมกัน เราจะสามารถยุติความตายและการทำลายล้างที่เราเห็นมานานหลายปี หลายทศวรรษ หรือแม้กระทั่งหลายศตวรรษได้"
เนทันยาฮู ซึ่งยืนเคียงข้าง ทรัมป์ ตอบว่า "ผมสนับสนุนแผนของคุณที่จะยุติสงครามในฉนวนกาซา ซึ่งช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายในสงคราม"
"แผนดังกล่าวจะนำตัวประกันทั้งหมดของเรากลับคืนสู่อิสราเอล รื้อถอนขีดความสามารถทางทหารของฮามาส ยุติอำนาจทางการเมืองของพวกเขา และรับรองว่ากาซาจะไม่เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลอีกต่อไป" เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม ท่าทีของฮามาสยังคงเป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันข้อเสนอสันติภาพของ ทรัมป์
การที่กลุ่มฮามาสไม่ได้มีส่วนร่วมในวงพูดคุย และการปฏิเสธที่จะปลดอาวุธซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของแผนดังกล่าว
อิสราเอลกล่าวโทษฮามาสว่าเป็นชนวนเหตุให้เกิดสงคราม ด้วยการบุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปี 2023 และปัจจุบันก็ยังคงจับตัวประกันเอาไว้ 48 คน โดย 20 คนยังมีชีวิตอยู่
"ฮามาสยังไม่ได้รับทราบแผนอย่างเป็นทางการ ไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากการเผยแพร่ของสื่อ" เจ้าหน้าที่ฮามาสบอกกับรอยเตอร์
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ที่ได้รับแจ้งเกี่ยวกับการเจรจาในภายหลังยืนยันว่า กาตาร์และอียิปต์ได้แบ่งปันเอกสารดังกล่าวให้กับฮามาส แล้ว และทางกลุ่มก็แจ้งต่อผู้ไกล่เกลี่ยทั้งสองว่า พวกเขาจะพิจารณาเอกสารดังกล่าว "ด้วยความสุจริตใจ" แล้วจึงตอบกลับ
ในการเยือนทำเนียบขาวครั้งที่ 4 ของเนทันยาฮูนับตั้งแต่ ทรัมป์ กลับมาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในเดือน ม.ค. ผู้นำหัวขวาจัดของอิสราเอลกำลังพยายามหาวิธีเสริมสร้างความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าสำคัญที่สุด หลังจากที่ผู้นำชาติตะวันตกจำนวนมากยอมรับสถานะรัฐของปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณท้าทายสหรัฐฯ และอิสราเอล
ทรัมป์ วิจารณ์อย่างรุนแรงว่า การรับรองสถานะรัฐปาเลสไตน์เท่ากับมอบรางวัลให้กลุ่มฮามาส
การประชุมเมื่อวันจันทร์ (29) ถือเป็นความพยายามทางการทูตอีกระดับของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งให้คำมั่นสัญญาในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งปี 2024 ว่าจะยุติความขัดแย้งโดยเร็ว และตั้งแต่นั้นมาก็อ้างซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าข้อตกลงสันติภาพใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว ทว่าก็ยังไม่เคยเกิดขึ้นจริง
สหรัฐฯ ได้สรุปแผนสันติภาพของเขาต่อกลุ่มประเทศอาหรับและประเทศมุสลิม ในการหารือนอกรอบระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทรัมป์ ประกาศข้อเสนอของเขาอย่างเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (29) แต่กลับไม่ยอมตอบข้อซักถามคำถามใดๆ ของสื่อมวลชน
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เคยโอ้อวดข้อตกลงระหว่างประเทศที่สุดท้ายก็ไม่ได้ให้ผลลัพธ์อย่างที่คาดการณ์ไว้ โดยเขาได้ร่วมการประชุมสุดยอดที่รัฐอะแลสกากับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเมื่อเดือน ส.ค. เพื่อผลักดันข้อตกลงหยุดยิงในสงครามยูเครน และแม้ว่าการพบปะครั้งนั้นจะไม่ให้ผลใดๆ เลย แต่ ทรัมป์ ยังให้คะแนนการประชุม "เต็มสิบ"
ในส่วนของ เนทันยาฮู แม้จะยกย่อง ทรัมป์ ในฐานะมิตรของอิสราเอล แต่ก็วางระยะห่างระหว่างตัวเขาเองกับแผนงานบางอย่างของทรัมป์ รวมถึงการปฏิรูปที่องค์การบริหารแห่งชาติปาเลสไตน์ (PA) เรียกร้อง และโอกาสในการสถาปนารัฐปาเลสไตน์ให้ดำรงคงอยู่เคียงข้างรัฐอิสราเอล
เนทันยาฮู กำลังถูกกดดันอย่างหนักจากครอบครัวของตัวประกันในกาซา และจากผลสำรวจความคิดเห็นพบว่าประชาชนชาวอิสราเอลส่วนใหญ่ก็เหนื่อยล้าจากสงคราม ขณะเดียวกันรัฐบาลผสมของ เนทันยาฮู ยังเผชิญความเสี่ยงที่จะล่มสลาย หากพวกรัฐมนตรีฝ่ายขวาจัดมองว่าเขายอมประนีประนอมมากเกินไปสำหรับข้อตกลงสันติภาพ
สตีเวน คุก สมาชิกอาวุโสของคณะทำงานวิจัยของสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (Council on Foreign Relations) ชี้ว่า การยุติสงครามอาจใกล้เข้ามาแล้ว แต่ก็เตือนว่ายังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ
“เวลานี้กาตาร์ต้องกดดันฮามาส ส่วน เนทันยาฮู ก็ต้องเอาข้อเสนอไปขายให้กับคณะรัฐมนตรีความมั่นคงของเขาให้ได้” คุก กล่าว
ที่มา: รอยเตอร์