ศาลแห่งหนึ่งในจีน ลงโทษประหารชีวิตสมาชิก 11 คนของตระกูลมาเฟียชื่อดัง ที่ดูแลศูนย์สแกมเมอร์หลายแห่งในพม่า ตามรายงานสำนักข่าวบีบีซีอ้างอิงสื่อมวลชนแห่งรัฐของจีน ความเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่าปักกิ่งกำลังจริงจังจัดการอย่างเด็ดขาดกับธุรกิจสแกมเมอร์
สมาชิกหลายสิบคนของแก๊งตระกูลหมิง ถูกพบว่ามีความผิดฐานดำเนินกิจกรรมทางอาญา โดยนอกจากพวกที่ถูกสั่งประหารชีวิตในข้างต้นแล้ว มีอีกหลายคนต้องโทษจำคุกเป็นเวลานาน
ตระกูลหมิง เป็น 1 ใน 4 ตระกูล ที่ควบคุมดูแลเมืองเล่าก์ก่าย เมืองเล็กๆที่อยู่ห่างไกลของพม่า ติดกับชายแดนจีน แล้วเปลี่ยนมันกลายเป็นศูนย์กลางของการพนัน ยาเสพติดและศูนย์สแกมเมอร์
ท้ายที่สุดแล้วพม่าได้ลงมือปราบปราม จับกุมสมาชิกในตระกูลเหล่านี้ไปมากมายในปี 2023 และส่งตัวพวกเขาให้กับพวกเจ้าหน้าที่จีน
สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี สื่อมวลชนแห่งรัฐจีน รายงานว่ารวมแล้วมีสมาชิกตระกูลหมิง 39 ราย ที่ถูกพิพากษาในเมืองเวินโจว ทางตะวันออกของประเทศในวันจันทร์(29ก.ย.) โดยนอกเหนือจาก 11 คนที่ถูกตัดสินประหารชีวิต มี 5 คนที่ถูกพิพากษาประหารชีวิตเช่นกันแต่โทษให้รอลงอาญา 2 ปี และอีก 11 คนต้องโทษจำคุกประหารชีวิต ส่วนที่เหลือโดนลงโทษจำคุกระหว่าง 5 ปี ถึง 24 ปี
ศาลพบว่า ตระกูลหมิงและแก๊งอาชญากรรมอื่นๆ มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางอาญา ซึ่งรวมถึงการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม บ่อนการพนันผิดกฎหมาย การค้ายาเสพติด และการค้าประเวณี มาตั้งแต่ปี 2015 แล้ว โดยบ่อนและการหลอกลวงของพวกเขา ทำเงินมากกว่า 1 หมื่นล้านหยวน(ราว 45,000 ล้านบาท)
สหประชาชาติเคยเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่า "scamdemic" (การระบาดของการหลอกลวง) ซึ่งทำให้มีชาวต่างชาติมากกว่า 100,000 คน โดยส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ถูกล่อลวงไปยังศูนย์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถูกกักขังและบีบบังคับให้ทำงานเป็นเวลานาน เพื่อทำการฉ้อโกงออนไลน์ที่มีความซับซ้อน โดยมีเป้าหมายที่เหยื่อทั่วโลก
ขณะเดียวกันศาลยังพบด้วยว่าตระกูลหมิงและแก๊งอาชญากรรมอื่นๆอยู่เบื้องหลังการตายของคนงานศูนย์สแกมเมอร์หลายคน ในนั้นรวมถึงเหตุยิงใส่พวกแรงงาน ในความพยายามขัดขวางไม่ให้พวกเขาเดินทางกลับจีน
เดิมทีบ่อนในเมืองเล่าก์ก่าย ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อฉวยประโยชน์จากความต้องการเล่นพนันของชาวจีน เนื่องจากการพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศจีนและประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายชาติ ก่อนที่บ่อนจะพัฒนาไปเป็นฉากหน้าที่มีกำไรงามสำหรับการฟอกเงิน การค้ามนุษย์ และศูนย์หลอกลวงทางโทรศัพท์อีกหลายสิบแห่ง
ตระกูลหมิง เคยเป็นหนึ่งในตระกูลทรงอิทธิพลที่สุดในรัฐฉานของเมียนมา และควบคุมดูแลศูนย์สแกมเมอร์หลายแห่งในเล่าก์ก่าย ซึ่งมีพนักงานอย่างน้อย 10,000 คน โดยสถานที่อื้อฉาวที่สุดคืออาคารชุดที่รู้จักกันในชื่อ Crouching Tiger Villa (คฤหาสน์เสือหมอบ) บริเวณที่พวกพนักงานถูกทำร้ายและทรมานเป็นประจำ
จนกระทั่งเมื่อ 2 ปีก่อน กลุ่มพันธมิตรกบฏเปิดฉากโจมตีและขับไล่กองทัพรัฐบาลพม่าออกจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐฉาน และเข้ายึดเมืองเล่าก์ก่าย โดยสันนิษฐานกันว่า จีน ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อกลุ่มเหล่านี้ เป็นผู้อนุญาตให้มีปฏิบัติการดังกล่าว
มีรายงานว่า หมิง เซวี่ยฉาง หัวหน้าตระกูล ได้ปลิดชีพตนเอง ส่วนสมาชิกคนอื่นๆถูกส่งมอบตัวให้กับพวกเจ้าหน้าที่จีน บางส่วนสารภาพด้วยความสำนึกผิด นอกจากนี้แล้วพนักงานหลายพันคนของศูนย์สแกมเมอร์ต่างๆก็ถูกส่งมอบแก่ตำรวจจีนเช่นกัน
ด้วยบทลงโทษที่หนักหน่วง เชื่อว่ามันเป็นการส่งสัญญาณของจีนถึงความมุ่งมั่นในการจัดการอย่างเด็ดขาดกับธุรกิจสแกมเมอร์ตามแนวชายแดน โดยสำนักข่าวบีบีซีระบุว่าแรงกดดันจากปักกิ่ง ยังเคยบีบให้ไทยต้องจัดการกับพวกศูนย์สแกมเมอร์ตามแนวชายแดนไทยติดกับพม่าเมื่อช่วงต้นปี
รายงานของบีบีซีระบุว่าธุรกิจสแกมเมอร์ได้มีการปรับตัว โดยเวลานี้ส่วนใหญ่ปฏิบัติการอยู่ในกัมพูชา แต่มันยังคงมีอยู่ดาษเดื่อนในพม่า
(ที่มา:บีบีซี)