xs
xsm
sm
md
lg

ยังไม่รู้ตัว!เตือนสติเขมรพึ่งจีนเกินไป ความจริงปักกิ่งให้ความสำคัญน้อยกว่าชาติอื่นในอาเซียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จีนกลายมาเป็น "อำนาจทรงอิทธิพลที่สุด" ในกัมพูชา ขับเคลื่อนโดยไพ่ใบสำคัญที่สุด นั่นคือ "อิทธิพลทางเศรษฐกิจ" จากความเห็นของสถาบันวิจัยอิสระแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย พร้อมแนะว่าพนมเปญจำเป็นต้องต้องหาที่พึ่งที่หลากหลาย ไม่ใช่จากแค่คู่หูรายเดียวในปัจจุบัน และเน้นย้ำข้อเท็จจริงที่ว่าปักกิ่งมีความสำคัญใกล้ชิดกับชาติอื่นๆในอาเซียน ในนั้นรวมถึงไทย มากกว่ากัมพูชาเสียอีก

รายงานของสำนักข่าวคิริโพสต์ สื่อมวลชนกัมพูชาภาคภาษาอังกฤษ อ้างอิงดัชนีอิทธิพลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของสถาบันวิจัยโลวี พบว่าจีนอยู่เหนือสหรัฐฯเล็กน้อย ในฐานะ "ชาติที่มีอิทธิพลมากที่สุด" ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้คะแนน 65 เต็ม 100 มากกว่าคู่แข่งอย่างอเมริกาอยู่ 1 คะแนน

ในรายงานที่ค้นพบร่วมกันโดย ซูซานนาห์ แพทตัน, แจ็ค ซาโต และ ราห์มาน ยาค็อบ พบว่าจีน มีอิทธิพลมากที่สุดในกัมพูชา, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, พม่า, ไทย และเวียดนาม อ้างอิงดัชนีอิทธิพลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเน้นว่าสำหรับในกัมพูชาแล้ว อิทธิพลของวอชิงตันแทบเทียบไม่ได้เลยกับปักกิ่ง

รายงานระบุว่า "ในกัมพูชา อิทธิพลของจีนอยู่เหนืออิทธิพลของสหรัฐฯราวๆ 60%" พร้อมเน้นว่าสถานะของสหรัฐฯในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในนั้นรวมถึงกัมพูชา ดูเหมือนจะอ่อนแอลงขึ้นไปอีก สืบเนื่องจากนโยบายรีดภาษีทั่วโลกของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เช่นเดียวกับการปรับลดความช่วยเหลือต่างๆนานาและในการศึกษาระหว่างประเทศ

ทั้งนี้รายงานพบว่า แม้ไม่มีประเทศไหนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พึ่งพิงแค่คู่หูภายนอกเพียงชาติเดียว แต่หลายชาติต้องพึ่งพาจีนค่อนข้างสูง ในภาคอุตสากรรมต่างๆบางภาคอุตสาหรรม อาทิเช่น การท่องเที่ยว, การลงทุน หรือ การค้า

ดัชนีเน้นย้ำว่าบางขอบเขตที่จำเป็นต้องพึ่งพาคู่หูเพียงรายเดียวมาเป็นเวลานาน ทำให้ความพยายามเพิ่มความหลากหลายกระจายความเสี่ยง เป็นเพียงแต่ความทะเยอทะยานไม่ใช่ความเป็นจริง "โดยในกัมพูชา สินค้าจากจีนคิดเป็นสัดส่วนถึง 48% ของสินค้านำเข้าทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากระดับ 41% ของปี 2017 และคิดเป็น 44% ของกระแสทุนต่างชาติ เพิ่มขึ้นจากระดับ 22%" รายงานระบุ

Aun Chhengpor นักวิจัยด้านนโยบายจาก Future Forum ชี้ว่า จีน ยังมีบทบาทสำคัญทั้งในด้านความมั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจของกัมพูชา แม้พนมเปญมีความพยายามอย่างแข็งขันในการป้องกันความเสี่ยงระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจและมุ่งหามหาอำนาจที่เป็นกลางอื่นๆ

อย่างไรก็ตามเขาเน้นว่าความขัดแย้งตามแนวชายแดนกับไทยในเวลานี้ ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนสำหรับกัมพูชา ให้พยายามมากยิ่งขึ้นในการกระจายความเสี่ยงด้านความสัมพันธ์กับต่างชาติ และหลบหลีกสถานการณ์ไม่พึ่งปรารถนาแห่งการที่พึ่งพิงมหาอำนาจหนึ่งๆมากจนเกินไป

"กัมพูชาต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพื่อลดความเสี่ยงของตนเองจากทั้ง 2 ชาติมหาอำนาจ นำแผนการไปสู่การปฏิบัติในด้านยุทธศาสตร์การค้า เศรษฐกิจและความมั่นคง ด้วยการกระจายความเสี่ยงกับคู่หูอื่นๆ ซึ่งอาจเป็นมหาอำนาจขนาดกลางหรือขนาดเล็ก" Chhengpor ระบุ

ขณะเดียวกัน Seun Sam นักวิเคราะห์การเมืองจากราชบัณฑิตยสถานแห่งกัมพูชา กล่าวว่า จีน มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชาติอื่นๆในอาเซียนมากกว่ากัมพูชา โดยชี้ถึงกรณีที่เมื่อเร็วๆนี้ชาวมาเลเซียได้รับสิทธิ์ยกเว้นวีซ่าขาเข้าจีน และการที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เดินทางเยือนเวียดนามไปแล้ว 5 รอบ แต่เยือนกัมพูชา เพียงแค่ 2 รอบ

"นักท่องเที่ยวและนักลงทุนจีนที่เข้ามายังกัมพูชา ถือว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับมาเลเซีย ไทยและเวียดนาม" เขากล่าว

ในขณะที่ จีน และ อาเซียน จะลงนามในความตกลง FTA 3.0 ในเดือนตุลาคมปีนี้ Sam เชื่อว่าจีนจะเดินหน้าเพิ่มอิทธิพลไม่ใช่เฉพาะกับกัมพูชา แต่รวมถึงประเทศต่างๆในอาเซียน "ส่วนสหรัฐฯไม่กระตือรือร้นยกระดับความร่วมมือกับอาเซียน ไม่ใช่แค่กับกัมพูชาเท่านั้น"

"แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่อิทธิพลของจีนเหนือกัมพูชา ผมคิดว่าเราควรให้ลำดับความสำคัญกับความจำเป็นทางเศรษฐกิจและการเติบโตของกัมพูชา เช่นเดียวกับรับประกันสันติภาพและความมั่นคงทั่วทุกชาติอาเซียน" Seun Sam กล่าว

(ที่มา:คิริโพสต์)


กำลังโหลดความคิดเห็น