เอพี – อิหร่านกำลังชั่งใจในการหาวิธีตอบโต้ หลังถูกยูเอ็นฟื้นมาตรการแซงก์ชันต่อโครงการนิวเคลียร์ โดยสมาชิกสภาคนหนึ่งแนะเตหะรานถอนตัวจากสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
การฟื้นมาตรการแซงก์ชันของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ส่งผลให้สินทรัพย์ของอิหร่านที่อยู่นอกประเทศถูกอายัด เช่นเดียวกับข้อตกลงซื้อขายอาวุธ เพื่อลงโทษสำหรับการพัฒนาโครงการขีปนาวุธของเตหะราน โดยดำเนินการผ่านกลไกที่เรียกว่า “การตีกลับ” ซึ่งรวมถึงข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 กับมหาอำนาจหลายชาติ
การดำเนินการนี้ยังเกิดขึ้นขณะที่เศรษฐกิจอิหร่านกำลังซวนเซ โดยขณะนี้ค่าเงินเรียลของอิหร่านทำสถิติต่ำสุด เพิ่มความกดดันต่อราคาอาหาร ทั้งเนื้อสัตว์ ข้าว และอาหารหลักอื่นๆ ส่งผลให้ชีวิตประจำวันของประชาชนยากลำบากมากขึ้น
นอกจากนั้นประชาชนยังกังวลกับการสู้รบรอบใหม่ระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล และอาจรวมถึงการสู้รบกับอเมริกา ขณะที่ที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของเตหะรานที่ถูกโจมตีระหว่างสงคราม 12 วันเมื่อเดือนมิถุนายนขณะนี้ดูเหมือนได้รับการปรับปรุงแล้ว
ในวันอาทิตย์ (28 ก.ย.) อิสมาอิล โคซารี สมาชิกรัฐสภาอิหร่าน ให้สัมภาษณ์กับยัง เจอร์นัลลิสต์ คลับ ซึ่งเกี่ยวข้องกับสถานีทีวีของทางการอิหร่านว่า รัฐสภาจะพิจารณาการถอนตัวจากสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของทางการอิหร่านรายงานว่า โมฮัมหมัด บาเกอร์ คาลิบัฟ ประธานสภาผู้แทนอิหร่าน เตือนก่อนเปิดประชุมรัฐสภาในวันอาทิตย์ว่า ประเทศที่เล็งปฏิบัติตามมาตรการแซงก์ชันผิดกฎหมายของยูเอ็น รวมถึง 3 ชาติยุโรปที่เป็นผู้ริเริ่มการดำเนินการผิดกฎหมายนี้จะต้องเผชิญการตอบโต้รุนแรงจากเตหะราน
3 ชาติที่ว่าคือ ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร ที่ริเริ่มกลไกการตีกลับต่ออิหร่านเมื่อ 30 วันก่อน หลังจากอิหร่านเพิ่มข้อจำกัดการตรวจสอบโครงการนิวเคลียร์ของตนเอง และความล้มเหลวในการเจรจากับอเมริกา
ทั้งนี้ อิหร่านยุติการอนุญาตให้ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) เข้าตรวจสอบหลังจากการสู้รบกับอิสราเอลในเดือนมิถุนายน ซึ่งในระหว่างนั้นอเมริกาได้โจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่านด้วย
ขณะเดียวกัน เตหะรานยังคงจัดเก็บยูเรเนียมเสริมสมรรถนะที่มีความบริสุทธิ์ 60% ใกล้ถึงระดับ 90% ที่ใช้ผลิตอาวุธได้ และในปริมาณที่มากพอสำหรับการผลิตระเบิดนิวเคลียร์หลายลูกหากอิหร่านเลือกเดินหน้าโครงการอาวุธ
อิหร่านยืนกรานมาตลอดว่า โครงการนิวเคลียร์ของตนมีวัตถุประสงค์ด้านสันติ แม้ตะวันตกและไอเออีเอระบุว่า อิหร่านมีโครงการอาวุธจนถึงปี 2003 ก็ตาม
ในวันอาทิตย์ มหาอำนาจ 3 ชาติของยุโรปประกาศว่า ได้พยายามอย่างเต็มที่และต่อเนื่องเพื่อหลีกเลี่ยงการเริ่มกลไกการตีกลับ แต่อิหร่านไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบของไอเออีเอเข้าถึงที่ตั้งทางนิวเคลียร์ หรือจัดทำรายงานการจัดเก็บยูเรเนียมเสริมสมรรถนะและส่งมอบให้ไอเออีเอ
ทั้งสามชาติยังตั้งข้อสังเกตว่า อิหร่านเสริมสมรรถนะยูเรเนียมถึงระดับที่ไม่ใช่โครงการนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพอีกต่อไป
เมื่อถูกยัง เจเนอรัลลิสต์ คลับสอบถามว่า การถอนตัวจากสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์หมายความว่า อิหร่านจะเดินหน้าพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์หรือไม่ โคว์ซารีตอบว่า อิหร่านไม่ได้หมายความเช่นนั้น และจะพิจารณาเรื่องนี้แยกต่างหากต่อไป แต่อาจบรรจุในวาระการประชุมหากจำเป็น
เตหะรานยังยืนว่า กลไกการตีกลับไม่ควรเกิดขึ้น โดยอ้างการถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ฝ่ายเดียวของอเมริกาเมื่อปี 2018 ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกาสมัยแรก
ทางด้านมาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยกย่องสามชาติยุโรปสำหรับการดำเนินการอย่างเด็ดขาดในฐานะผู้นำโลก และเสริมว่า อิหร่านยังมีทางเลือกคือยอมรับการเจรจาโดยตรง