สหประชาชาติเมื่อวันเสาร์(27ก.ย.) ลงมติคืนสถานะปิดล้อมทางอาวุธและมาตรการคว่ำบาตรอื่นๆที่กำหนดเล่นงานอิหร่าน ตามหลังกระบวนการหนึ่งที่ดำเนินการโดยบรรดาชาติมหาอำนาจยุโรปหลักๆ ซึ่งโหมกระพือเสียงเตือนจากเตหะรานว่าจะตอบโต้อย่างหนักหน่วง
ฝรั่งเศส, สหราชอาณาจักรและเยอรมนี กระตุ้นให้เกิดการกลับมาคว่ำบาตรอิหร่าน ณ ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ต่อคำกล่าวหาที่ว่าเตหะรานละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ที่มีเป้าหมายหยุดอิหร่านจากการพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ แม้ทางเตหะรานยืนกรานปฏิเสธว่าไม่มีเสาะหาอาวุธนิวเคลียร์
การสิ้นสุดลงของข้อตกลงนิวเคลียร์ที่มีอายุยาวนาน 1 ทศวรรษ ที่เบื้องต้นเจรจาโดยอิหร่าน, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, สหรัฐฯ, รัสเซีย และจีน มีความเป็นไปได้ที่จะซ้ำเติมสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ไม่กี่เดือนหลังจากอิสราเอลและสหรัฐฯเพิ่งทิ้งบอมบ์ถล่มที่ตั้งนิวเคลียร์ของอิหร่าน
มาตรการคว่้ำบาตรของสหประชาชาติที่กำหนดโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติระหว่างปี 2006 ถึง 2010 จะคืนสู่สถานะบังคับใช้ ณ เวลา 20.00 อีดีที. ในวันเสาร์(ตรงกับเมืองไทย 07.00น.วันอาทิตย์) หลังจากมีความพยายามเตะถ่วงการคืนมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดที่กำหนดเล่นงานอิหร่าน ณ รอบนอกการประชุมประจำปีของพวกผู้นำโลก ณ ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในสัปดาห์นี้ ประสบความล้มเหลว
"เราเรียกร้องอิหร่านและทุกประเทศยึดถืออย่างเต็มรูปแบบต่อญัตติเหล่านี้" รัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศส สหราชอาณาจักรและเยอรมนี กล่าวในถ้อยแถลงร่วมหลังเส้นตายผ่านพ้น อย่างไรก็ตามรัสเซียโต้แย้งความเคลื่อนไหวดังกล่าว
"มันไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่อาจมีผลบังคับใช้" เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียบอกกับพวกผู้สื่อข่าว ณ เวทียูเอ็น ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์(27ก.ย.) พร้อมเผยว่าเขาได้เขียนหนังสือถึง อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ เตือนว่ามันจะเป็นความผิดพลาดใหญ่หลวงสำหรับเขา ที่ยอมรับการคืนชีพมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติที่กำหนดเล่นงานอิหร่าน
บรรดาชาติมหาอำนาจยุโรปเสนอเลื่อนการคืนสถาะมาตรการคว่ำบาตรออกไปสูงสุด 6 เดือน เพื่อเปิดช่องให้มีการรเจรจาข้อตกลงระยะยาว หากว่าอิหร่านยอมกลับมาให้คณะผู้ตรวจสอบนิวเคลียร์ของสหประชาชาติเข้าถึงโครงการนิวเคลียร์อีกครั้ง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับคลังยูเรเนียมแปรรูปของเตหะราน
"ประเทศของพวกเราจะยังคงแสวงหาเส้นทางด้านการทูตและการเจรจา การคืนชีพมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติไม่ใช่จุดจบด้านการทูต" บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศสและเยอรมนี ระบุในถ้อยแถลง "เราเรียกร้องให้อิหร่านละเว้นไว้ซึ่งการกระทำที่โหมกระพือความตึงเครียดใดๆ แล้วคืนสู่การปฏิบัติตามพันธสัญญาที่มีผลผูกพันตามกฎหมายของพวกเขา"
เตหะรานเตือนถึงการตอบโต้หนักหน่วง แต่ทางประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียน ยืนยันในวันศุกร์(26ก.ย.) ว่าอิหร่านไม่มีความตั้งใจถอนตัวจากสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตามในวันเสาร์(27ก.ย.) อิหร่านได้เรียกเอกอัครราชทูตประจำสหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส และเยอรมนี กลับประเทศ เพื่อปรึกษาหารือ
เศรษฐกิจของอิหร่านประสบปัญหาหนักอยู่ก่อนแล้ว หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ครั้งดำรงตำแหน่งสหรัฐฯสมัยแรก ถอนอเมริกาออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ ในปี 2018 ตามด้วยการคืนชีพมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯที่กำหนดเล่นงานเตหะราน
ส่วนในการคืนชีพมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ ทาง อิหร่าน จะอยู่ภายใต้การปิดล้อมทางอาวุธอีกรอบและถูกห้ามเสริมสมรรถนะยูเรเนียมทั้งหมด เช่นเดียวกับการนำเชื้อเพลิงยูเรเนียมใช้แล้วกลับมาเสริมสมรรถนะใหม่ และความเคลื่อนไหวใดๆที่เกี่ยวข้องกับขีปนาวุธที่มีศักยภาพปล่อยอาวุธนิวคเลียร์ ในนั้นรวมถึงการปล่อยขีปนาวุธ
นอกจากนี้แล้วมาตรการอื่นๆที่ถูกคืนชีพ ยังรวมถึงการแบนด้านการเดินทางบุคคลอิหร่านหลายสิบราย การอายัดทรัพย์นิติบุคคลหลายแห่งและบุคคลชาวอิหร่านหลายสิบราย เช่นเดียวกับแบนซัพพลายใดๆที่อาจถูกนำไปใช้ในโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ ทุกประเทศมีอำนาจยึดและกำจัดรายการต้องห้ามเหล่านั้น และอิหร่านจะถูกห้ามจากการได้มาซึ่งผลประโยชน์ใดๆ ในกิจกรรมการค้าต่างๆนานาในประเทศอื่น ที่เกี่ยวข้องกับเหมืองยูเรเนียม, การผลิตหรือใช้วัสดุนิวเคลียร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์
(ที่มา:รอยเตอร์)