xs
xsm
sm
md
lg

ในที่สุด! อังกฤษจับ “ชายวัย 40” เชื่อมโยงวินาศกรรมแฮกระบบเช็กอินผดส.ทำสนามบินใหญ่ทั่วยุโรปป่วน เชื่อเป็นบททดสอบก่อนเกิดมรสุมใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – ตำรวจอังกฤษวันพุธ(24 ก.ย)แถลงการจับกุมชายวัยราว 40 ปีที่ยังไม่เปิดเผยชื่อในเวสต์ ซัสเซกซ์ (West Sussex)คดีก่อวินาศกรรมแฮกระบบเช็กอินผู้โดยสารกระทบสนามบินใหญ่ๆทั่วยุโรประนาวสัปดาห์ที่แล้วทั้งสนามบินฮีทโธรว์ สนามบินโคเปนเฮเกน สนามบินออสโล สนามบินดับลิน และสนามบินเบอร์ลินที่มาจนถึงวันนี้ยังวุ่นไม่เลิก ผู้เชี่ยวชาญเชื่ออาจเป็นบททดสอบก่อนเกิดเหตุครั้งใหญ่

เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันพุธ(24 ก.ย)ว่า สำนักงานอาชญากรรมแห่งชาติอังกฤษ NCA (National Crime Agency)กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า เจ้าหน้าที่อังกฤษจับกุมชายผู้ต้องสงสัยวัยราว 40 ปีได้ที่เวสต์ ซัสเซกซ์ (West Sussex) ในคดีก่อวินาศกรรมระบบเช็กอินผู้โดยสารสำหรับสายการบินซึ่งเป็นซอฟท์แวร์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอากาศยานและอาวุธของสหรัฐฯ Collins Aerospace

NCA และเจ้าหน้าที่ต่างๆจากหน่วยอาชญากรรมองค์กรจับชายผู้ต้องสงสัยที่ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อในค่ำวันอังคาร(24) ในข้อหาละเมิดกฎหมายการใช้คอมพิวเตอร์อย่างมิชอบ (Computer Misuse Act)

ชายดังกล่าวในเวลาต่อมาได้ประกันตัวออกไปภายใต้เงื่อนไข

เหตุการณ์โจมตีทางไซเบอร์ครั้งร้ายแรงที่กระทบเป็นวงกว้างตั้งแต่ฝั่งตะวันตกของยุโรปอังกฤษ ไอร์แลนด์ ไปจนถึงยุโรปกลาง เยอรมัน และยุโรปเหนือ เดนมาร์ก และนอร์เวย์ ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันประเทศและนายกรัฐมนตรีเดนมาร์กเชื่อว่า “รัสเซีย” อาจอยู่เบื้องหลัง

รอยเตอร์รายงานว่า สนามบินเบอร์ลินที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักมาจนถึงวันนี้ยังกู้ระบบเช็กอินและระบบจัดการกระเป๋าผู้โดยสารไม่ได้ส่งผลทำให้ในวันนี้(24)ที่สนามบินเบอร์ลินยังคงเห็นเที่ยวบินล่าช้าและอาจมีการยกเลิกเที่ยวบิน อ้างอิงจากแถลงการณ์สนามบินเบอร์ลิน

สื่ออังกฤษชี้ว่า สนามบินมากมายใช้ระบบซอฟท์แวร์ Muse ของบริษัท Collins Aerospace ที่เกิดล่มจากการโจมตีมัลแวร์เรียกค่าไถ่ส่งผลทำสายการบินต้องเช็กอินผู้โดยสารโดยใช้เจ้าหน้าที่แทนคอมพิวเตอร์

พอล ฟอสเตอร์ (Paul Foster) ผู้ช่วยผู้อำนวยการ NCA และหัวหน้าหน่วยอาชญากรรมทางไซเบอร์ของอังกฤษกล่าวว่า “ถึงแม้การจับกุมครั้งนี้จะถือเป็นก้าวย่างที่ถูกต้อง แต่ทว่าการสอบสวนในคดีนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและยังคงกำลังเดินหน้า”

เขากล่าวว่า “อาชญากรรมทางไซเบอร์เป็นภัยคุกคามระดับโลกที่ยังคงเกิดขึ้นที่จะยังคงสร้างความติดขัดครั้งใหญ่ต่อไปให้กับอังกฤษและพร้อมกับพันธมิตรของพวกเราที่นี่และต่างแดน โดยทาง NCA นั้นมีพันธะต้องลดภัยคุกคามนี้เพื่อปกป้องประชาชนอังกฤษ”

เหตุโจมตีทางไซเบอร์สนามบินทั่วยุโรปเกิดเมื่อสุดสัปดาห์นี้อาจเป็นบททดสอบเริ่มต้นต่อการก่อวินาศกรรมครั้งร้ายแรงที่ใหญ่กว่าในอนาคตผู้เชี่ยวชาญเตือน

เมโทรของอังกฤษรายงานในวันเสาร์( 20) ว่า เป็นการแสดงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญจากการที่ระบบ Muse เป็นระบบมาตรฐานทางอุตสาหกรรมที่ใช้แพร่หลายในสนามบินราว 150 แห่งทั่วโลก

และอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้อาชญากรใช้โจมตีเพื่อสร้างความโกลาหลสำหรับการทดสอลต่อการโจมตีที่ใหญ่กว่ามากที่สามารถทำให้ระบบทั่วโลกเป็นอัมพาต

ศาสตราจารย์ อลัน วูดเวิร์ด (Alan Woodward) ศาสตราจารย์อาคันตุกะด้านคอมพิวเตอร์ประจำมหาวิทยาลัยเซอร์เรย์ (University of Surrey) แสดงความเห็นว่า การปราศจากความโปร่งใสเกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าระบบซอฟท์แวร์ดังกล่าวตกเป็นเป้าของคนร้ายพวกอาชญากรที่มีความเป็นไปได้อาจมีผู้เล่นเป็นรัฐบาลต่างชาติอยู่เบื้องหลัง

ศาสตราจารย์กล่าวว่า “นี่เป็นการทดสอบ”

เมโทรรายงานว่า มีบางส่วนเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่โจมตีอาจมีรัฐบาลต่างชาติอยู่เบื้องหลัง

พันเอกฟิลิป อิงแกรม (Philip Ingram) อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองกองทัพอังกฤษแสดงความเห็นว่า มันมีความเป็นไปได้ที่ “เครมลิน” อาจเชื่อมโยงต่อเหตุการณ์ที่เกิด

เขาเปิดเผยต่อเดลีเมลของอังกฤษว่า “มันมีเครื่องหมายรับประกันที่บ่งชี้ว่าพวกรัสเซียอาจอยู่เบื้องหลัง”

ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองอังกฤษสอดคล้องกับนายกรัฐมนตรีเดนมาร์กที่ในวันอังคาร(24) ตามการรายงานของโพลิติโกระบุว่า โคเปนเฮเกนจะไม่ตัดความเป็นไปได้ว่า “รัสเซีย” ไม่เกี่ยวข้องกับเหตโจมตีไซเบอร์นี้ถึงแม้เครมลินจะส่งโฆษกออกมาแถลงปฎิเสธก็ตาม


กำลังโหลดความคิดเห็น