ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ปฏิเสธอนุมัติแพ็คเกจอาวุธสำหรับไต้หวัน ตามรายงานของวอชิงตันโพสต์ในวันศุกร์(19ก.ย.) อ้างอิงแหล่งข่าวใกล้ชิกับประเด็นนี้
วอชิงตันโพสต์โยงการตัดสินใจดังกล่าวกับความพยายามของทรัมป์ ในการเจรจาข้อตกลงการค้ากับปักกิ่ง และความเป็นไปได้ที่เขาจะพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ซึ่งคาดหมายว่าจะมีขึ้นรอบนอกการประชุมเอเปกในเดือนหน้า
ข้อตกลงอาวุธ ซึ่งมีรายงานข่าวว่ามีมูลค่ากว่า 400 ล้านดอลลาร์ ถูกให้คำจำกัดความว่าเป็นอาวุธร้ายแรงกว่าการส่งมอบที่ผ่านๆมา ตามรายงานของวอชิงตันโพสต์ อย่างไรก็ตามคณะทำงานของทรัมป์เชื่อว่าไต้หวันควรซื้ออาวุธของตนเอง สะท้อนถึงแนวทางการดำเนินการในนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีรายนี้
กระนั้นเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งบอกว่าการตัดสินใจดังกล่าวยังไม่ได้เป็นข้อสรุปสุดท้ายใดๆ ตามรายงานขอวอชิงตันโพสต์
ปักกิ่ง ซึ่งมองไต้หวัน เกาะปกครองตนเอง ในฐานะส่วนหนึ่งของดินแดนที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ ส่งเสียงคัดค้านอย่างแข็งกร้าวต่อความช่วยเหลือทางทหารจากต่างชาติใดๆที่มอบแก่ไทเป ในขณะที่ประธานาธิบดีสี เคยบอกว่าจีนเสาะแสวงหาการรวมชาติอย่างสันติ แต่ขอสงวนไว้ซึ่งการใช้กำลังถ้าจำเป็น
ในเดือนธันวาคม กระทรวงการต่างประเทศจีนเตือนไทเปว่า "การพึ่งพาสหรัฐฯต่อการหาทางเป็นเอกราช และการใช้หนทางด้านการทหารในการเสาะหาเอกราช คือเส้นทางแห่งการทำลายล้างตนเอง"
กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวของวอชิงตันโพสต์ แต่บอกว่า "ไต้หวันและสหรัฐฯคงไว้ซึ่งกลไกลความร่วมมือด้านความมั่นคงใกล้ชิด ด้วยทุกโครงการแลกเปลี่ยนทั้งหมดดำเนินไปตามกำหนด เพื่อเสริงสร้างระบบป้องกันตนเองอย่างครอบคลุม"
ที่ผ่านมา วอชิงตัน อนุมัติขายอาวุธแก่ไต้หวันหลายต่อหลายรอบในช่วงหลายปีหลัง ในนั้นรวมถึงการส่งมอบระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ NASAMS
(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)