เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนแถลงเมื่อวันจันทร์ (15 ก.ย.) ว่าได้บรรลุข้อตกลงว่าด้วยกรอบการทำงานเพื่อเปลี่ยนแอปพลิเคชัน TikTok ให้มาอยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐฯ โดยข้อตกลงจะได้รับการยืนยันภายหลังการพูดคุยโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนในวันศุกร์นี้ (19)
ข้อตกลงเกี่ยวกับแอปแชร์วิดีโอสั้นยอดนิยมซึ่งมีผู้ใช้งานราว 170 ล้านคนในสหรัฐฯ ถือเป็นความก้าวหน้าที่ได้มาอย่างยากยิ่งในการเจรจาซึ่งกินเวลานานหลายเดือนระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งต่างพยายามที่จะคลี่คลายสงครามการค้าที่ยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อตลาดโลก
ภายหลังการประชุมกับคณะผู้แทนจีนที่กรุงมาดริดของสเปน สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ แถลงว่ากำหนดเส้นตายในวันที่ 17 ก.ย. ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปฏิบัติการของ TikTok ในสหรัฐฯ เป็นแรงกระตุ้นให้คณะผู้แทนจีนยอมรับข้อตกลงที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
เบสเซนต์ กล่าวว่า กำหนดเส้นตายดังกล่าวอาจขยายออกไปอีก 90 วันเพื่อให้ข้อตกลงนี้เสร็จสิ้น แต่ยังปฏิเสธที่จะหารือถึงรายละเอียดของข้อตกลง
รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวเสริมว่า เงื่อนไขเชิงพาณิชย์ของข้อตกลงที่จะแถลงออกมานั้นจะคงไว้ซึ่งแง่มุมทางวัฒนธรรมของ TikTok ที่คณะผู้เจรจาฝ่ายจีนให้ความสำคัญ
“พวกเขาสนใจคุณลักษณะแบบจีนของแอปฯ ซึ่งพวกเขาคิดว่ามันเป็นซอฟต์พาวเวอร์ แต่เราไม่สนใจคุณลักษณะแบบจีน เราสนใจความมั่นคงของชาติมากกว่า” เบสเซนต์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังเสร็จสิ้นการเจรจานาน 2 วัน
เมื่อถูกสื่อตั้งคำถามว่า จีนจะถือหุ้นในบริษัทหรือไม่? ประธานาบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ตอบว่า “เรายังไม่ได้ตัดสินใจ แต่สำหรับผมแล้วก็เป็นไปได้ และผมจะพูดคุยกับประธานาธิบดี สี ในวันศุกร์นี้ (19) เพื่อยืนยันเรื่องนี้”
นี่เป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ที่สหรัฐฯ และจีนประกาศว่ากำลังใกล้บรรลุข้อตกลงเรื่อง TikTok หลังจากที่คำแถลงเมื่อเดือน มี.ค. ไม่ได้ผลลัพธ์ใดๆ
ข้อตกลงนี้อาจต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสที่พรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมาก โดยเมื่อปี 2024 คองเกรสได้ผ่านกฎหมายกำหนดให้มีการขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ เนื่องจากเกรงว่าข้อมูลผู้ใช้ TikTok ในสหรัฐฯ อาจถูกรัฐบาลจีนเข้าถึง ทำให้ปักกิ่งสามารถสอดแนมชาวอเมริกันหรือใช้อิทธิพลผ่านแอปนี้ได้
อย่างไรก็ดี รัฐบาล ทรัมป์ ปฏิเสธที่จะปิดแอปนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะเกรงว่าจะทำให้ผู้ใช้งานนับร้อยล้านคนในสหรัฐฯ ไม่พอใจและรบกวนการสื่อสารทางการเมือง
ทรัมป์ ให้เครดิต TikTok ว่าเป็นช่องทางที่ช่วยให้เขาชนะศึกเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว และบัญชี TikTok ส่วนตัวของเขามีผู้ติดตามมากถึง 15 ล้านคน ขณะที่ทำเนียบขาวก็ได้เปิดตัวบัญชี TikTok อย่างเป็นทางการเมื่อเดือน ส.ค.
"มีการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับบริษัท "แห่งหนึ่ง" ที่คนหนุ่มสาวในประเทศของเราปรารถนาอย่างยิ่งที่จะช่วยเหลือ พวกเขาจะต้องมีความสุขมาก! ผมจะพูดคุยกับประธานาธิบดี สี ในวันศุกร์นี้ (19) ความสัมพันธ์ยังคงแข็งแกร่งมาก!!!" ทรัมป์เขียนบนแพลตฟอร์ม Truth Social
เบสเซนต์ ไม่ได้ระบุว่า ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok จะโอนการควบคุมเทคโนโลยีพื้นฐานของแอปให้กับผู้ซื้อในสหรัฐฯ ที่ยังไม่เปิดเผยชื่อหรือไม่ ขณะที่ หวัง จิ่งเทา เจ้าหน้าที่หน่วยงานกำกับดูแลไซเบอร์สเปซของจีน ระบุว่า ข้อตกลงนี้อาจอนุญาตให้มีการใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงอัลกอริทึม
นอกจาก TikTok แล้ว สหรัฐฯ ยังอ้างถึงข้อกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติเพื่อสกัดกั้นการขนส่งเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆ ไปยังจีน และสั่งแบนสินค้าจีนที่วอชิงตันเชื่อว่าอาจถูกนำไปใช้สอดแนมชาวอเมริกัน หรือรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง
ที่มา: รอยเตอร์