เอเจนซีส์ – ผู้ว่าการรัฐยูทาห์ สเปนเซอร์ ค็อกซ์ (Spencer Cox) แถลงข่าวเช้าวันอาทิตย์(14 ก.ย) ยืนยันว่ามือปืนผิวขาววัย 22 ปี ไทเลอร์ โรบินสัน (Tyler Robinson) อยู่ในคุกมาร่วม 33 ชั่วโมงไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ไม่รับสารภาพความผิดพบมีความสัมพันธ์ออกเดทกับรูมเมทเพื่อนชายเป็นสาวทรานใกล้แปลงเพศ พบกระสุนเจาะลำคอเคิร์กระหว่างนั่งการตอบคำถามเกี่ยวข้องกับการยิงสังหารหมู่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเกย์พอดี
บีบีซีของอังกฤษรายงานวันอาทิตย์(14 ก.ย)ว่า ผู้ว่าการรัฐยูทาห์ สเปนเซอร์ ค็อกซ์ (Spencer Cox) ให้สัมภาษณ์กับเอบีซีนิวส์ของสหรัฐฯเปิดเผยว่า คนที่อยู่รอบตัวมือสไนเปอร์ ไทเลอร์ โรบินสัน (Tyler Robinson) ให้ความร่วมมือในการสอบสวนคดีลอบสังหาร ชาร์ลี เคิร์ก (Charlie Kirk) ผู้นำแกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวคนรุ่นใหม่อนุรักษ์นิยม MAGA และซีอีโอองค์กรรณรงค์ความคิดอนุรักษ์นิยมอเมริกันผิวขาว Turning Pint USA ซึ่งในขณะเกิดเหตุเขากำลังอยู่ระหว่างการเดินสายทัวร์ American Comeback Tour ตามมหาวิทยาลัยต่างๆทั่วสหรัฐฯ และเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขาเดินสายขึ้นพูดที่มหาวิทยาลัย Utah Valley University เมื่อวันพุธ(10)
นิวยอร์กโพสต์ของสหรัฐฯรายงานวันเสาร์(13)ว่า โรบินสันได้เคยพูดโอ้อวดกับอดีตเพื่อนร่วมงานถึงความสามารถการยิงระยะไกลของเขา ทั้งนี้พบว่ามือปืนวัย 22 ปีซุ่มอยู่บนหลังคาศูนย์โลซี (Losee Center) ในมหาวิทยาลัยที่เกิดเหตุห่างออกไปราว 200 หลา(130 เมตร)จากเป้าสังหาร ชาร์ลี เคิร์ก ที่นั่งอยู่ในเตนท์ร่วมกับผู้ฟังราว 3,000 คน เป็นการยิงปลิดชีพด้วยกระสุนเพียงนัดเดียวเจาะลำคอเป้าหมาย
บีบีซีของอังกฤษรายงานว่า ผู้ว่าการรัฐยูทาห์เช้าวันอาทิตย์(14)ถูกถามเกี่ยวกับรายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สว่า มือปืนแอบพูดคุยคนอื่นๆหลังการลอบสังหารผ่านแพลตฟอร์มแชต Discord เป็นที่พูดคุยของเหล่าเกมเมอร์ รวมไปถึงมือปืนเคยพูดตลกล้อเล่นในกลุ่มออนไลน์เกมเมอร์ด้วยว่าเป็นมือปืน
ค็อกซ์เปิดเผยว่า หนึ่งในความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่คือรูมเมทเพื่อนร่วมห้องของ ไทเลอร์ โรบินสัน นั้นให้ความร่วมมือที่ดีมากและกำลังทำงานร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในเวลานี้ และผู้ว่าการรัฐยูทาห์ยังยืนยันว่า รูมเมทคนนี้เป็นชายที่กำลังอยู่ระหว่างการแปลงเพศจากชายเป็นหญิง
เดลีเทเลกราฟของอังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า มีรายงานว่า มือยิง ชาร์ลี เคิร์ก วัย 22 ปีกำลังอยู่ในความสัมพันธ์เดทกับเพื่อนรูมเมทสาวทรานรายนี้ แสดงให้รู้ถึงแรงจูงใจการลอบสังหารครั้งนี้ซึ่งในเวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯยังคงต้องสอบหาแรงจูงใจก่อเหตุ
เพื่อนบ้านที่อาศัยใกล้อพาร์ทเมนท์ของโรบินสันซึ่งได้ทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Utah State University เห็นมือปืนเดินกุมมือเพื่อนชายเพื่อนร่วมห้องที่มีรายงานว่ามาจากครอบครัวคอนเซอร์เวตีฟคริสเตียนเหมือนเช่นเคิร์กที่มาจากครอบครัวนับถือศาสนาคริสต์นิกายมอร์มอน ซึ่งในตอนแรกมีรายงานเปิดเผยไปทั่วถึงกระสุนที่มีการสลักคำพูดเกี่ยวกับการแสดงทัศนคติสนับสนุนกลุ่มเพศที่ 3 แต่ทว่าในเวลาต่อมามีการแก้ข่าวเปิดเผยว่าเป็นแค่คำตลกเสียดสีจากพวกสังคมอินเตอร์เนตอเมริกันเท่านั้น
เดลีเทเลกราฟรายงานว่าถึงแม้ยังไม่เป็นที่เด่นชัดแต่ทว่า ชาร์ลี เคิร์ก คนสำคัญของกลุ่มคนรุ่นใหม่สาย MAGA ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เจดี แวนซ์ นั้นขึ้นชื่อว่าต่อต้านสิทธิของกลุ่มเพศทางเลือก และอีกทั้ง Turning Point USA ที่เขาเป็นผู้ก่อตั้งร่วมได้รณรงค์ต่อต้านสิทธิ์การรักษาทางแพทย์ของกลุ่มเกย์ และเมื่อเมษายนปี 2024 เคิร์กได้เปรียบหมอที่ให้การรักษาทางด้านเพศสภาพให้กับพวกเพศที่ 3 เป็นเสมือนนาซีกำลังก่ออาชญากรรมสงคราม
โดยช่วงเวลาที่เขาถูกยิงโดยโรบินสันที่ซุ่มอยู่บนหลังคาพบว่า ชาร์ลี เคิร์ก กำลังตอบคำถามเกี่ยวกับการยิงสังหารหมู่ที่เกี่ยวข้องกับชาวเพศที่ 3 หรือพวกคนกลุ่มทราน(กลุ่มข้ามเพศ)
CNN ของสหรัฐฯรายงานว่า มีการสั่งปลดออกหรือสั่งพักงานชั่วคราวจากบริษัทและองค์กรในสหรัฐฯสำหรับคนที่ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเสียชีวิตของชาร์ลี เคิร์ก เป็นต้นว่า แสดงความคิดเห็นว่า ไม่รู้สึกสงสารหรือเห็นใจต่อการเสียชีวิตของเคิร์ก ทำให้สื่อชื่อดังของสหรัฐฯตั้งคำถามถึงเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นในอเมริกาที่ถูกระบุไว้่ตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ แต่ทว่าในรายงานกล่าวว่า ธุริกจเอกชนสามารถไล่พนักงานออกโดยที่ไม่ต้องแสดงเหตุผลที่อาจกล่าวอ้างว่า เป็นการขัดต่อเป้าหมายหรือนโยบายของบริษัท
https://youtu.be/cYziNWYD2y4?t=2


