เดนิส ชไมฮาล รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมยูเครน ระบุเมื่อวันเสาร์ (13 ก.ย.) ว่ายูเครนจะต้องใช้งบประมาณอย่างน้อย 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับการป้องกันประเทศในปี 2026 ขณะที่สงครามกับรัสเซียยืดเยื้อเข้าสู่ปีที่ 4
ชไมฮาล กล่าวว่า เงินทุนดังกล่าวมีความจำเป็นต่อการบำรุงรักษาแนวป้องกันประเทศ การผลิตโดรนและอาวุธอื่นๆ การปกป้องน่านฟ้า ตลอดจนการยับยั้งการรุกรานของรัสเซียที่อาจเกิดขึ้นอีก
“เศรษฐกิจในยุคสงครามแสดงให้เห็นว่า หากเราใช้งบประมาณน้อยกว่ารัสเซีย เราก็จะเริ่มจ่ายด้วยดินแดนของเรา และที่สำคัญที่สุดคือด้วยชีวิตของเรา” ชไมฮาล กล่าวในการประชุมประจำปีที่กรุงเคียฟ
การใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศของยูเครนพุ่งสูงขึ้นหลังถูกมอสโกเปิดศึกรุกรานเต็มขั้นในเดือน ก.พ. ปี 2022 และปัจจุบันยูเครนใช้จ่ายมากกว่า 31% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไปกับกองทัพ
งบประมาณของรัฐในปีนี้วางแผนไว้อย่างน้อย 63,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศ รวมถึงอาวุธจากพันธมิตรตะวันตกของเคียฟ
ร็อกโซลานา พิดลาซา ประธานคณะกรรมการงบประมาณแห่งรัฐสภายูเครนยอมรับว่า ต้นทุนของสงครามยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เธอระบุว่า ในปี 2025การทำสงคราม 1 วันมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 172 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปง 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวันในปี 2024 โดยตัวเลขนี้รวมถึงค่าจ้างทหาร อาวุธ และเงินช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตในสนามรบ
"ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องระดมทุนจากแหล่งเงินทุนที่จำเป็นทั้งหมด" เธอกล่าว
แม้ว่าจะยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับแหล่งเงินทุนเพิ่มเติม แต่เจ้าหน้าที่ยูเครนได้ร้องขอให้พันธมิตรหาวิธีธีนำทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัดไว้มาช่วยเหลือเคียฟด้านการเงิน
สงครามกับรัสเซียทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยมีการสู้รบอย่างดุเดือดตลอดแนวรบกว่า 1,000 กิโลเมตร และกองทัพรัสเซียเริ่มยกระดับโจมตีทางอากาศต่อเมืองต่างๆ ของยูเครนที่อยู่ไกลแนวหน้าออกไป
ความพยายามทางการทูตเพื่อยุติสงครามยังไม่ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
สัปดาห์นี้ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นอีกขั้น เมื่อเครื่องบินรบนาโตพยายามยิงโดรนรัสเซียหลายลำที่ละเมิดน่านฟ้าของโปแลนด์เมื่อวันพุธ (10)
“จนกว่าจะหาทางออกทางการทูตได้ เราจะต้องสู้ต่อไป และเพื่อที่จะสู้ต่อไป เราต้องการเงินทุน และการป้องกันประเทศย่อมมีต้นทุนทางการเงินมหาศาล” พิดลาซา กล่าว
ที่มา: รอยเตอร์