ผู้สมัครสภาคองเกรสจากกลุ่ม MAGA ที่สนับสนุนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังถูกชาวเน็ตรุมสับเละ หลังจากเธอออกมาประกาศว่าเป็นคนแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ (ICE) เกี่ยวกับการละเมิดกฎในสถานที่ทำงานที่โรงงานฮุนไดในรัฐจอร์เจีย จนนำมาสู่การบุกจับแรงงานเมื่อเกือบ 2 สัปดาห์ที่แล้ว
Tori Branum วัย 47 ปี ซึ่งเป็นทหารผ่านศึกนาวิกโยธินสหรัฐฯ และครูฝึกสอนอาวุธปืน โพสต์จ้อความผ่านโซเชียลมีเดียและให้สัมภาษณ์สื่อว่า เธอได้แจ้งเบาะแสเรื่องโรงงานแบตเตอรีฮุนไดซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างใกล้กับเมืองซาวานนาห์ให้ ICE ทราบหลายเดือน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเปิดปฏิบัติการบุกจับคนเข้าเมืองในสถานที่ทำงานครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิที่นั่น
ปฏิบัติการดังกล่าวทำให้มีแรงงานถูกควบคุมตัวประมาณ 475 คน รวมถึงชาวเกาหลีใต้ 300 คน
การบุกจับครั้งนี้สร้างความไม่พอใจต่อเกาหลีใต้ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดที่ตกลงลงทุนในสหรัฐฯ มูลค่า 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือน ก.ค. เพื่อแลกกับการที่ ทรัมป์ ลดภาษีนำเข้าสินค้าจากเกาหลีใต้จาก 25% เหลือ 15% ภาษีนำเข้าเหล่านี้จ่ายโดยบริษัทอเมริกัน และสุดท้ายต้นทุนส่วนใหญ่ก็จะถูกผลักภาระไปยังผู้บริโภค
“ฉันได้รับอีเมลแสดงความเกลียดชังจากทั่วประเทศ มีคนบอกฉันให้ไปตาย หรือให้ฉันต้องใช้ชีวิตด้วยความกลัว” บรานัม เขียนบนเฟซบุ๊ก “ดิฉันทำงานรับใช้ประเทศนี้ และพร้อมที่จะจมลงไปกับเรือลำนี้ ก่อนจะยอมให้ใครมาปิดปากฉัน”
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอยังถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าบ่อนทำลายวาระทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดี ทรัมป์ และสร้างเรื่องอื้อฉาวทางการทูตกับพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดรายหนึ่งของสหรัฐฯ
โรงงานแบตเตอรีที่ถูกบุกจับจะดำเนินงานร่วมกันโดย ฮุนได และแอลจี เอ็นเนอร์จี โซลูชัน ผู้ผลิตแบตเตอรีจากเกาหลีใต้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนมูลค่า 12,600 ล้านดอลลาร์ในรัฐจอร์เจีย ซึ่งรวมถึงโรงงานผลิตรถยนต์ใกล้เคียงด้วย
“MAGA เรียกร้องภาษีศุลกากรเพื่อนำการผลิตกลับสู่สหรัฐอเมริกา แต่เมื่อบริษัทหนึ่งพยายามเปิดโรงงานที่นี่ MAGA กลับบ่อนทำลาย คุณได้พิสูจน์อีกครั้งแล้วว่า กลุ่มของคุณสร้างความอับอายให้กับประเทศของเรามากแค่ไหน” ผู้ใช้รายหนึ่งเขียนใต้โพสต์อินสตาแกรมของ เบรนัม
"ลองนึกภาพนะว่า คุณสนับสนุนนโยบาย 'นำงานกลับคืน' ของทรัมป์ แต่ดันไปเชียร์ปฏิบัติการของ ICE ที่ทำลายโรงงานฮุนไดมูลค่า 4,300 ล้านดอลลาร์ในจอร์เจีย คนงานถูกจับกุม 475 คน ตำแหน่งงานหายไป 40,000 ตำแหน่ง นั่นไม่ใช่นโยบายอเมริกาต้องมาก่อน แต่เป็นการฆ่าตัวตายทางเศรษฐกิจต่างหาก คุณคือตัวตลกและความขัดแย้งที่เดินได้” ผู้ใช้อีกรายหนึ่งเขียน
“คุณได้สร้างปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ร้ายแรงระหว่างเรากับเกาหลีใต้ด้วยการกระทำที่โง่เขลาของคุณ” ผู้ใช้อีกรายหนึ่งแสดงความคิดเห็น
บัญชีอินสตาแกรมของ Branum ถูกตั้งค่าเป็นส่วนตัวแล้ว
การจับกุมแรงงานฮุนไดเกิดขึ้นเพียง 10 วันหลังจากที่ อี แจมยอง ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ ได้พบกับ ทรัมป์ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งทั้งคู่ให้คำมั่นว่าจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างทั้งสองประเทศ
การจับกุมโรงงานของฮุนไดเกิดขึ้นเพียง 10 วันหลังจากที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ นายอี แจ มยอง พบกับทรัมป์ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งทั้งคู่ให้คำมั่นว่าจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างทั้งสองประเทศ
ประชาชนในกรุงโซลต่างไม่พอใจกับปฏิบัติการดังกล่าว โดยภาพจากการตรวจค้นเผยให้เห็นรถหุ้มเกราะและคนงานที่ถูกใส่กุญแจมือ
รอยเตอร์รายงานเมื่อวันจันทร์ (8 ก.ย.) ว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ได้เจรจาเรื่องการปล่อยตัวพลเมืองของตน และเช่าเครื่องบินเหมาลำเพื่อส่งตัวพวกเขากลับประเทศ
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า สื่อท้องถิ่นโจมตี เบรนัม และกล่าวหาเธอว่าใช้การตรวจค้นครั้งนี้เพื่อสร้างกระแสหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเขต 12 ของรัฐจอร์เจีย
ที่มา: The Daily Beast