ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุประท้วงต่อต้านการทุจริตคอรัปชันในเนปาลเพิ่มเป็นอย่างน้อย 51 รายในสัปดาห์นี้ ตามข้อมูลจากทางตำรวจ หลังสถานการณ์ได้ลุกลามบานปลายกลายเป็นเหตุจลาจลเผาบ้านเผาเมืองและทำให้รัฐบาลถูกโค่นล้ม
การเจรจาระหว่างประธานาธิบดี กองทัพ ตัวแทนกลุ่มผู้ประท้วง และบุคคลสำคัญที่อาจได้รับเลือกเข้ามาทำหน้าที่หัวหน้ารัฐบาลชุดเปลี่ยนผ่านยังคงดำเนินอยู่ หลังจากที่กองทัพเนปาลได้ประกาศเคอร์ฟิวและเข้าควบคุมความสงบเรียบร้อยบนท้องถนน
ผู้ประท้วงอย่างน้อย 21 รายอยู่ในกลุ่มผู้ที่เสียชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติการปราบปรามของตำรวจในวันจันทร์ (8 ก.ย.) ต่อกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งออกมาแสดงพลังต่อต้านมาตรการแบนโซเชียลมีเดีย พฤติกรรมทุจริตคอรัปชันของพวกนักการเมือง และการบริหารประเทศที่ย่ำแย่
ในวันอังคาร (9) กลุ่มผู้ประท้วงได้บุกเข้าไปเผาอาคารรัฐสภา และนายกรัฐมนตรี เคพี ชาร์มา ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง ก่อนที่กองทัพจะเข้าควบคุมสถานการณ์
กองทัพเนปาลระบุวันนี้ (12) ว่า ได้ยึดอาวุธปืนกว่า 100 กระบอกที่ถูกปล้นสะดมระหว่างการจลาจล ซึ่งจะเห็นว่ามีกลุ่มผู้ประท้วงที่ถือปืนไรเฟิลอัตโนมัติด้วย
บินอด กิมิเร โฆษกตำรวจ บอกกับเอเอฟพีว่า "มีผู้เสียชีวิตจากการประท้วง 51 รายในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงผู้ประท้วงอย่างน้อย 21 รายและตำรวจ 3 นาย"
กิมิเร เสริมว่า นักโทษกว่า 12,500 คนที่หลบหนีจากเรือนจำหลายแห่งทั่วประเทศในช่วงที่เกิดความวุ่นวายยังคงหลบหนีอยู่
"มีนักโทษหลบหนีประมาณ 13,500 คน ซึ่งบางคนถูกจับตัวได้แล้ว และอีก 12,533 คนยังคงหลบหนีอยู่" กิมิเรกล่าว
ผู้เสียชีวิตยังรวมถึงนักโทษที่ถูกสังหารระหว่างหรือหลังการหลบหนีจากการปะทะกับกองกำลังความมั่นคงของเนปาล
ผู้หลบหนีบางคนพยายามข้ามพรมแดนเข้าไปยังอินเดีย ซึ่งกองกำลังชายแดนของอินเดียได้จับกุมผู้ต้องสงสัยไว้เป็นจำนวนมาก
ที่มา: เอเอฟพี