บริษัทรับจัดงานศพในไต้หวันเผาศพผิดร่าง จนเป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาทใหญ่โตกับครอบครัวผู้เสียชีวิต
ความผิดพลาดของบริษัทรับจัดงานศพในเมืองซินจู๋ (Hsinchu) ของไต้หวันนำไปสู่การเผาศพผิดร่าง และทำให้ญาติพี่น้องเสียใจอย่างหนักจนเกิดการทะเลาะวิวาทกับเจ้าหน้าที่
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (4 ก.ย.) โดยศพของหญิงชราแซ่หลัว (Luo) มีกำหนดจัดพิธีเผาในช่วงบ่าย
อย่างไรก็ตาม ศพของเธอกลับถูกนำไปเผาอย่างผิดพลาดตั้งแต่ตอนเช้า หลังถูกเข้าใจว่าเป็นศพของหญิงอีกคนหนึ่งที่จัดงานในช่วงเช้าของวันเดียวกัน
ครอบครัวในพิธีตอนเช้าก็ไม่ทราบถึงความผิดพลาดนี้ จึงทำพิธีอำลาและเผาศพต่อไป
เมื่อครอบครัวของนาง หลัว มาถึงในเวลาต่อมาเพื่อประกอบพิธีตามกำหนดการ พวกเขาก็พบว่าผู้หญิงที่อยู่ในโลงศพไม่ใช่เธอ
“นี่ไม่ใช่อาม่าของผม” หลานชายของเธอร้องออกมาในระหว่างการสวดอภิธรรมครั้งสุดท้าย
จากนั้นครอบครัวได้รับแจ้งว่า ร่างของนาง หลัว ถูกเผาไปเรียบร้อยแล้วต้งแต่เช้า ทำให้พวกเขาพลาดโอกาสสุดท้ายที่จะกล่าวคำอำลา
ความจริงดังกล่าวทำให้ญาติมิตรผู้ตายทั้งโศกเศร้าและโกรธแค้น โดยหนุ่มแซ่ หลิน วัย 28 ปีที่เป็นหลานชายของนาง หลัว ถึงกับโผเข้าทำร้ายร่างกายเจ้าของบริษัทจัดงานศพวัย 58 ปี รวมถึงพนักงานหญิงวัย 25 ปีอีกคนหนึ่ง
ภาพจากที่เกิดเหตุยังแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่จัดงานศพพยายามเข้าห้ามปราม ขณะที่สถานการณ์เริ่มวุ่นวายมากขึ้น
พนักงานหญิงได้รับบาดเจ็บบริเวณซี่โครงและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และมีการโทรแจ้งตำรวจเพื่อยุติการเผชิญหน้า
แม้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บจะตัดสินใจไม่แจ้งความ แต่ตำรวจระบุว่าผู้ก่อเหตุยังคงถูกควบคุมตัวในข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายการรักษาความสงบเรียบร้อยทางสังคม
บริษัทจัดงานศพยอมรับในภายหลังว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่จำเป็น เพื่อยืนยันตัวตนของผู้เสียชีวิต
บริษัทยืนยันว่าได้บรรลุข้อตกลงกับครอบครัวของนาง หลัว เรื่องค่าชดเชย และรับปากว่าจะเพิ่มมาตรการฝึกอบรมพนักงานเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดลักษณะนี้อีก
บริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันตั้งข้อสังเกตว่า ความผิดพลาดครั้งนี้อาจเกิดจากสายรัดข้อมือที่มีรหัส QR ซึ่งใช้ยืนยันตัวตนของศพที่เข้าและออกจากร้าน ถูกถอดออกเร็วเกินไป
กรมกิจการพลเรือนเมืองซินจู๋ยืนยันว่า ผู้ประกอบการงานศพที่ทำสัญญาจ้างได้ให้บริการ 2 งานในวันเดียวกัน แต่ไม่ได้ตรวจสอบตัวตนของศพอย่างถูกต้องก่อนดำเนินการ
ทางกรมฯ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด และลงโทษผู้รับจ้าง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สถานประกอบการจัดงานศพแห่งนี้ถูกตรวจสอบ
เมื่อปี 2023 เจ้าหน้าที่บริษัทนี้ได้นำศพออกจากห้องเย็นไปละลายน้ำแข็งผิดศพ จนเกือบนำไปสู่การชันสูตรพลิกศพผิดร่าง
ตอนนั้นทางการตั้งใจจะตรวจสอบศพของคนงานชาวเวียดนามวัย 29 ปี แต่บริษัทกลับนำศพคนงานชาวอินโดนีเซียวัย 39 ปี ไปวางบนโต๊ะชันสูตรแทน
เคราะห์ดีที่ความผิดพลาดนี้ถูกตรวจพบได้ทัน แต่ผู้อำนวยการร้านก็ได้ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ
ที่มา: must share news