อิสราเอลยังกร่างเต็มที่ แถลงเสียงกร้าวในวันพุธ (10 ก.ย.) ว่า ศัตรูของตนจะไม่มีความปลอดภัยเลยไม่ว่าอยู่ที่ไหน หนึ่งวันหลังจากรัฐยิวปฏิบัติการโจมตีอุกอาจ พุ่งเป้าสังหารคณะผู้นำกลุ่มฮามาสขณะอยู่ในกรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ ที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดรายหนึ่งของสหรัฐฯอีกทั้งแสดงบทบาทสำคัญในการเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยเพื่อสงบศึกในกาซา จนทำให้ถูกต่อว่าต่อขานจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นเรื่องที่นานปีทีหนจะเกิดขึ้นสักครั้ง
รัฐมนตรีกลาโหม อิสราเอล แคตซ์ ของรัฐยิว โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มXในวันพุธ ประกาศลั่นว่า “แขนอันยืดยาวของอิสราเอลจะปฏิบัติการเล่นงานพวกศัตรูของตนในทุกหนทุกแห่ง” ภายหลังอิสราเอลก่อการโจมตีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายรายในวันอังคาร (9) ในเมืองหลวงของกาตาร์ รัฐริมอ่าวอาหรับซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพทางทหารแห่งใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลางของสหรัฐฯ รวมทั้งแสดงบทบาทเป็นหัวหอกในการไกล่เกลี่ยให้มีการหยุดยิงในดินแดนฉนวนกาซา ตลอดจนให้ฮามาสปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล มาแล้วหลายรอบ
“ไม่มีที่ไหนเลยที่พวกมันสามารถหลบซ่อนได้” โพสต์ของ แคตซ์ บอก “ทุกๆ คนที่เข้าร่วมในการสังหารหมู่ 7 ตุลาคม จะถูกไล่เบี้ยเอาผิดอย่างเต็มที่” ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึงเหตุการณ์ที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลในเดือนตุลาคม 2023 และเป็นชนวนทำให้เกิดสงครามกาซาที่ยืดเยื้อมาเกือบๆ 2 ปี
ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน แดนนี ดานอน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุท้องถิ่นว่า อิสราเอลไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของอเมริกาเสมอไป แม้จะมีการประสานงานกัน และยอมรับว่า ที่ผ่านมาวอชิงตันให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ทว่า บางครั้งอิสราเอลก็ตัดสินใจเองและแจ้งให้อเมริการับรู้เท่านั้น
ดานอนย้ำว่า การโจมตีเมื่อวันอังคารไม่ได้เป็นการโจมตีกาตาร์ แต่ต้องการโจมตีฮามาส ถึงแม้อเมริกาออกมาตำหนิวิจารณ์ว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นการดำเนินการฝ่ายเดียวซึ่งไม่ได้ส่งเสริมผลประโยชน์ทั้งของอเมริกาและอิสราเอล
เขาบอกอีกว่า ยังคงรอดูผลลัพธ์ของการโจมตี พร้อมยืนยันว่า เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
ตัวประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวในวันอังคาร (8) ว่า ไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าจากอิสราเอลว่า จะโจมตีกาตาร์ พร้อมกับบอกว่า ไม่ได้รู้สึกยินดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ต้องการที่จะให้มีการนำตัวประกันอิสราเอลกลับบ้านมากกว่า
ทรัมป์ยังโพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง พร้อมย้ำว่า กาตาร์คือพันธมิตรที่แข็งแกร่งและเป็นเพื่อนมิตรของอเมริกา และรู้สึกแย่มากกับการที่อิสราเอลเลือกกาตาร์เป็นเป้าหมายเข้าโจมตีครั้งนี้ ถึงแม้การกำจัดฮามาสยังคงเป็นจุดมุ่งหมายที่มีค่าก็ตาม
ทางกลุ่มฮามาส เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลคราวนี้ 6 คน โดยคนหนึ่งคือลูกชายคนโตของ คาลิล อัล-เฮย์ยา ผู้เจรจาระดับสูงของฮามาส อีกคนหนึ่งคือผู้ช่วยของเฮย์ยา และยังมีผู้คุ้มกันฮีก 3 คน แต่ผู้ตัวนำอาวุโสไม่ได้รับอันตราย ขณะที่กาตาร์ระบุว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งเสียชีวิต
แหล่งข่าววงในฮามาสเผยว่า ผู้นำฮามาส 6 คนที่รวมถึงเฮย์ยา และคาลิด เมชาล อดีตผู้นำอาวุโส อยู่ในอาคารที่เป็นเป้าหมายขณะอิสราเอลเข้าโจมตี
ด้านกาตาร์ ระบุว่า การโจมตีของอิสราเอลพุ่งเป้าที่พักของผู้นำทางการเมืองของฮามาสในกรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์
ชัยค์ โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล-ตอนี นายกรัฐมนตรีกาตาร์ ประกาศว่า อิสราเอลทรยศ และเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย ก่อนสำทับว่า กาตาร์สงวนสิทธิ์ในการตอบโต้ และชี้ว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับตะวันออกกลาง อีกทั้งอาจบ่อนทำลายการเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับฮามาส
ทางฝ่ายเนทันยาฮูเผยว่า สั่งการให้โจมตีดังกล่าวหลังจากเหตุการณ์กราดยิงที่เยรูซาเลมเมื่อวันจันทร์ (8) ที่มีผู้เสียชีวิต 6 คน และฮามาสอ้างความรับผิดชอบ
การโจมตีทางอากาศในโดฮาครั้งนี้ ยังมีขึ้นขณะอิสราเอลกำลังใช้กำลังภาคพื้นดินบุกเข้าไปยึดครองเมืองกาซาซิตี้ โดยอ้างว่ากำลังพยายามขุดรากถอนโคนฮามาส กองทัพรัฐยิวได้เตือนฉับพลันให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากเมืองใหญ่ที่สุดของดินแดนกาซาแห่งนี้ในทันที ขณะทยอยถล่มทำลายซากอาคารสูงต่างๆ ในเมืองนี้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สงครามกาซาระเบิดขึ้นหลังจากนักรบฮามาสบุกเข้าไปในอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2023 และสังหารเหยื่อ 1,219 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน รวมทั้งจับตัวประกันราว 250 คนไปคุมขังในกาซา
ขณะที่ปฏิบัติการตอบโต้ทางทหารของอิสราเอลที่ดำเนินมาจนถึงขณะนี้ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 64,605 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
(ที่มา: เอเอฟพี/รอยเตอร์)