xs
xsm
sm
md
lg

ผวาซัดกันเอง!ทรัมป์รุดหย่าศึกตำหนิเนทันยาฮูโจมตีฮามาสในกาตาร์ รับประกันกับโดฮาจะไม่เกิดขึ้นอีก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ส่งเสียงตำหนิ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล แบบที่ไม่พบเห็นบ่อยนักในวันอังคาร(9ก.ย.) ต่อกรณีที่รัฐยิวโจมตีเล่นงานพวกผู้นำฮามาสในกาตาร์ พร้อมยืนยันว่าเขาไม่มีบทบาทใดๆในเหตุ 2 ชาติพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯเล่นงานกันเอง ขณะเดียวกันก็พยายามหย่าศึก โดยการรับประกันกับโดฮา ว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก

ทรัมป์ อ้างว่าเขาพยายามแล้ว "แต่เคราะห์ร้ายที่สายเกินไป" ในการหยุดยั้งอิสราเอลโจมตีกาตาร์ รัฐในอ่าวอาหรับ ซึ่งเป็นคนกลางที่สำคัญยิ่งในการเจรจายุติสงครามในกาซาระหว่างอิสราเอลกับฮามาส

"มันเป็นการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู มันไม่ใช่การตัดสินใจของผม" ทรัมป์โพสต์ข้อความบนทรุตช์ โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง "ผมมองกาตาร์ในฐานะพันธมิตรที่แข็งแกร่งและเป็นเพื่อนของสหรัฐฯ และรู้สึกแย่มากๆเกี่ยวกับตำแหน่งการโจมตี" เขากล่าว แต่บอกว่าการกำจัดพวกฮามาสยังคงเป็นเป้าหมายที่คู่ควร

ปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอลในโดฮา ส่อเป็นประเด็นอ่อนไหวยิ่งขึ้นไปอีก โดยนอกเหนือจากบทบาทของพวกเขาในการเจรจายุติศึกในกาซาแล้ว กาตาร์ยังเป็นที่ตั้งฐานทัพขนาดใหญ่ของสหรัฐฯและเคยเป็นเจ้าภาพให้การต้อนรับทรัมป์ ระหว่างออกทัวร์ตะวันออกกลางเมื่อช่วงต้นปี

นอกจากนี้แล้ว เมื่อไม่นานที่ผ่านมา ประเทศที่่ร่ำรวยจากเชื้อเพลิงฟอสซิลแห่งนี้ ยังได้มอบเครื่องบินหรู "โบอิ้ง 747-8" แก่ ทรัมป์ สำหรับใช้เป็นเครื่องบินประธานาธิบดี แม้ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้โหมกระพือคำถามเกี่ยวกับจริยธรรม

ในถ้อยแถลงของแคโรไลน์ ลีวิตต์ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาว ระบุว่า ทรัมป์ กำลังพิจารณาทบทวนความเป็นไปได้ที่การโจมตีครั้งนี้อาจก่อความเสียหายใดๆ ต่อความพยายามของเขาในการยุติสงครามในกาซา

ทรัมป์ เสริมว่า "การทิ้งระเบิดแต่เพียงฝ่ายเดียวภายในกาตาร์ ชาติอธิปไตยและเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯ ซึ่งทำงานอย่างหนักและกล้าเสี่ยงเคียงข้างเราในการเป็นคนกลางสันติภาพ ไม่ได้ส่งเสริมเป้าหมายของอิสราเอลหรือเป้าหมายของอเมริกา"

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีสหัฐฯรายนี้บอกด้วยว่าเขารู้สึกเสียใจที่วอชิงตัน ไม่ทันตั้งตัวและไม่อาจหยุดยั้งการโจมตีของอิสราเอลได้ "ผมสั่งการทันทีให้ทูตพิเศษสตีฟ วิตคอฟฟ์ แจ้งกับกาตาร์ว่าการโจมตีใกล้เข้ามาแล้ว ซึ่งเขารีบดำเนินการ อย่างไรก็ตาม เคราะห์ร้าย มันสายการเกินที่จะหยุดการโจมตี"

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ เผยว่าเขาได้พูดคุยกับ เนทันยาฮู หลังจากนั้น และพยายามหาแง่บวกจากเรื่องที่เกิดขึ้น "นายกรัฐมนตรีบอกกับผมว่า เขาต้องการสร้างสันติภาพ ผมเชื่อว่าเหตุการณ์อันโชคร้ายนี้ อาจกลายเป็นโอกาสแห่งสันติ" ทรัมป์ระบุ

เสียงตำหนิของทรัมป์ที่มีต่อเนทันยาฮู ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่พบเห็นบ่อยนัก เนื่องจากประธานาธิบดีสหรัฐฯรายนี้มอบแรงสนับสนุนต่อผู้นำอิสราเอลแบบแทบไม่มีขีดจำกัด นับตั้งแต่กลับเข้ารับตำแหน่งในทำเนียบขาวเมื่อเดือนมกราคม

ท่ามกลางเสียงโวยวายของกาตาร์ต่อการโจมตี ทรัมป์บอกว่าเวลานี้เขาสั่งการให้ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ดำเนินการหาข้อสรุปในข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหมกับโดฮา

นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังเผยด้วยว่าเขาได้ให้คำรับประกันกับ ชีค ทามิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ ระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์ ตามหลังการโจมตีของอิสราเอล ว่า "เหตุการณ์ลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในแผ่นดินของพวกเขา"

ก่อนหน้านี้ โดฮา เปิดเผยว่าพวกเขาแทบไม่ได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้าใดๆเกี่ยวกับการโจมตี "สายโทรศัพท์ที่มาจากเจ้าหน้าที่วอชิงตัน มาพร้อมกับเสียงระเบิดจากการโจมตีของอิสราเอลในโดฮา" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกาตาร์ระบุ

แม้มีความพยายามเด็ดหัวถึงในกาตาร์ แต่ฮามาสระบุในถ้อยแถลง ยืนยันว่าพวกผู้นำของกลุ่มรอดชีวิตในเหตุโจมตีของอิสาเอล "เรายืนยันว่าพวกศัตรูล้มเหลวในความพยายามลอบสังหารพี่น้องของเรา ในคณะตัวแทนเจรจา" พร้อมบอกต่อว่า "การโจมตีครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันอย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่า เนทันยาฮูและรัฐบาลของเขา ไม่ต้องการบรรลุข้อตกลงใดๆเพื่อสันติภาพ"

อย่างไรก็ตามในถ้อยแถลงเผยว่ามีคนอื่นๆเสียชีวิต 6 รายในเหตุโจมตี "รัฐบาลสหรัฐฯต้องรับผิดชอบร่วมกับพวกผู้ยึดครองสำหรับอาชญากรรมครั้งนี้ สืบเนื่องจากพวกเขายังคงให้การสนับสนุนการรุกรานอย่างไม่ลดละ รวมถึงสนับสนุนการก่ออาชญากรรมของผู้รุกรานที่กระทำต่อประชาชนของเรา"

(ที่มา:เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น