ทารกชายหญิงวัยแรกเกิด 2 คนเสียชีวิตหลังถูก "หนู" คลานเข้าไปกัดถึงในเปลที่แผนกศัลยกรรมเด็กของโรงพยาบาล Maharaja Yeshwantrao ซึ่งเป็นสถานพยาบาลรัฐในรัฐมัธยประเทศของอินเดีย
รายงานข่าวระบุว่า เด็กทารกทั้งสองถูกหนูกัดในคืนวันที่ 30 และ 31 ส.ค. โดยทารกคนหนึ่งถูกกัดที่มือ และอีกคนหนึ่งถูกกัดที่ไหล่
ทารกเพศชายเสียชีวิตในวันที่ 2 ก.ย. ส่วนทารกเพศหญิงเสียชีวิตในวันถัดมา
อย่างไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลยืนยันว่าเด็กทั้งสองเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนแต่กำเนิด และไม่ใช่เพราะถูกหนูกัด
ดร. อโศก ยาดาฟ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ระบุว่า ทารกทั้งสองมีภาวะโลหิตจางแต่กำเนิด และถูกส่งตัวมาจากสถานพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง
แม้จะมีร่องรอยถูกหนูกัด แต่แพทย์ผู้นี้ยืนยันว่าไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เด็กเสียชีวิต
ดร. ยาดาฟ เอ่ยเสริมว่า ทารกเพศชายมีอวัยวะที่พัฒนาไม่สมบูรณ์ ฮีโมโกลบินต่ำ และยังอ้างว่าเขาถูกพ่อแม่ปล่อยทิ้งไว้ระหว่างการรักษา
ในส่วนของทารกเพศหญิงก็มีอาการโลหิตจางแต่กำเนิด มือพิการ รวมถึงปอดและลำไส้พัฒนาไม่สมบูรณ์
เธอได้รับการผ่าตัดเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนเสียชีวิต และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจหลังจากที่อาการไม่ดีขึ้น
ดร. จิเตนทรา เวอร์มา แพทย์อีกคนหนึ่ง เน้นย้ำว่าการถูกหนูกัดทำให้เด็กบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย และไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต
อย่างไรก็ตามที เหตุการณ์นี้ได้จุดกระแสความไม่พอใจเกี่ยวกับความปลอดภัยและสุขอนามัยในโรงพยาบาลของรัฐที่ใหญ่ที่สุดในรัฐมัธยประเทศ
เจ้าหน้าที่ยอมรับว่าพบเห็นหนูตัวใหญ่เดินเพ่นพ่านอยู่ในหอผู้ป่วยทารกแรกเกิดวิกฤต (NICU) เป็นเวลาหลายวันแล้ว ทว่าไม่ใครยื่นร้องเรียนอย่างเป็นทางการ
ดร. อาร์วินด์ กังโกเรีย คณบดีวิทยาลัยแพทยศาสตร์ MGM ยอมรับว่า ทางโรงพยาบาลขาดการควบคุมดูแลที่ดี
“พยาบาลไม่ได้แจ้งรายงานการพบเห็นหนู ซึ่งอาจช่วยป้องกันโศกนาฏกรรมครั้งนี้ได้” เขากล่าว พร้อมยืนยันว่าโรงพยาบาลแห่งนี้มีการกำจัดพวกสัตว์รบกวนทุกๆ 15 วัน
หลังมีทารกเสียชีวิต พยาบาลเวรกลางคืน 2 คนได้ถูกพักงาน และหัวหน้าพยาบาลถูกปลดออกจากงาน
ราเชนทรา ชุกลา รองมุขมนตรีรัฐมัธยประเทศ ยืนยันว่า ทางการได้สั่งปรับหน่วยงานควบคุมสัตว์รบกวนจำนวน 100,000 รูปี พร้อมออกหนังสือเลิกจ้าง โดยย้ำว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องร้ายแรง ขณะที่ โมฮัน ยาดาฟ มุขมนตรีรัฐมัธยประเทศ ได้สั่งการให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนระดับสูง
ที่มา: must share news