แรงงานกัมพูชาเกือบ 1 ล้านคนที่แห่แหนกลับสู่กัมพูชา ท่ามกลางความหวั่นกลัวความขัดแย้งด้านชายแดนและการถูกเลือกปฏิบัติในไทย กำลังก่อแรงกดดันอย่างหนักต่อตลาดแรงงานและทำให้กัมพูชาสูญเสียเงินที่พวกแรงงานส่งกลับประเทศ เฉลี่ยแล้วราวๆ 1,500 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 48,000 ล้านบาท) ต่อปี ท่ามกลางความเป็นไปได้ของภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในปีนี้
การลดลงอย่างกะทันหันของยอดเงินที่แรงงานส่งกลับประเทศ ซึ่งประมาณการราวๆ 1% ถึง 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) เป็นตัวแทนของคลื่นความช็อคอย่างรุนแรงในระยะสั้น และความเกี่ยวพันอย่างกว้างขวางต่อวิถีชีวิต ธุรกิจขนาดเล็กและเสถียรภาพทางการเงินของกัมพูชา ตามรายงานของสำนักข่าวคิริโพสต์ อ้างอิงรายงานฉบับหนึ่งที่มีหัวข้อ ‘From Remittances to Resilience: Harnessing Returning Migrant Workers for Cambodia’s Growth’ ที่เผยแพร่โดยบริษัทหลักทรัพย์ Yuanta Securities (Cambodia) Plc.
อย่างไรก็ตามรายงานระบุแม้ภาพของสถานการณ์ค่อนข้างเลวร้าย แต่ยังมีมุมมองในแง่บวกซ่อนอยู่ ธนาคารเพื่อการลงทุนชี้ว่าสถานการณ์แรงงานอพยพครั้งใหญ่ อีกด้านหนึ่งก็เป็นโอกาสของการเปลี่ยนแแปลง การดูดซับแรงงานเข้าสู่ภาคแรงงานอย่างเหมาะสม ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนและค้ำยันการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ภายในปี 2027 จีดีพีอาจแปรผันสู่ด้านบวกอย่างแข็งแกร่ง จากการติดลบเล็กน้อยในปี 2025 ก่อเศรษฐกิจหนึ่งๆที่มีพื้นฐานอย่างครอบคลุมและพึ่งพาตนเอง แทนที่จะเอาแต่พึ่งเงินโอนกลับประเทศจากภายนอก รายงานระบุ
"มันไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้" Yuanta Securities ระบุ อ้างคำกล่าวของกระทรวงแรงงานและการฝึกอาชีพกัมพูชา พร้อมอ้างว่ามีตำแหน่งงานว่างมากกว่า 250,000 อัตรา ตามโรงงานต่างๆที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานทั่วประเทศ
"มันต่างจากกระแสเงินโอนกลับประเทศ ที่สนับสนุนการบริโภคทางอ้อม การบูรณการแรงงานเข้าสู่เศรษฐกิจภายในประเทศ จะก่อช่องทางการเติบโตแบบคู่ขนาน โดยทางตรงก็คือจะช่วยเพิ่มมูลค่าเพิ่มรวม ( GVA ) ผ่านการผลิตและเสริมการขับเคลื่อนเป็นทวีคูณผ่านการบริโภคภาคครัวเรือน" รายงานระบุ
ชาวกัมพูชา ส่วนใหญ่เป็นพวกที่อยู่ในจังหวัดต่างๆที่อยู่ตามแนวชายแดน โยกย้ายถิ่นฐานไปทำงานในบรรดาชาติเพื่อนบ้านมาช้านาน อย่างเช่นไทยและเวียดนาม เพื่อค่าจ้างที่สูงขึ้นและสิทธิประโยชน์ที่ดีกว่าเดิม อย่างไรก็ตามแน่นอน ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะส่งรายได้กลับประเทศทั้งหมด โดยทาง Yuanta Securities เน้นย้ำว่าแรงงานเหล่านั้นใช้จ่ายค่าแรงในไทยราวๆ 50% ถึง 60% แล้วค่อยส่งที่เหลือกลับประเทศ
ตามข้อสันนิษฐานผนวกแรงงานเหล่านั้นกลับสู่ภาคแรงงานกัมพูชา คาดหมายว่าการบริโภคภายในประเทศโดยรวมของพวกเขา จะเพิ่มขึ้นจาก 130 ล้านดอลลาร์ในปี 2025 สู่ระดับ 3,800 ล้านดอลลาร์ ในปี 2030 ท่ามกลางการจ้างงานเพิ่มขึ้นและค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ตามคำกล่าวอ้างของ Yuanta Securities
Yuanta Securities อ้างโมเดลการวิจัยของพวกเขา บ่งชี้เพิ่มเติมว่าผลกระทบในแง่ลบต่อจีดีพี จากการสูญเสียเงินโอนกลับประเทศ อาจสามารถชดเชยได้ ในกรณีที่แรงงานที่เดินทางกลับประเทศ ได้รับการจ้างงานคิดเป็นสัดส่วนแค่ 20% ซึ่งหากพวกพวกเขาได้รับการจ้างงานจริง ก็จะเป็นตัวส่งเสริมจีดีพี อีก 7,800 ล้านดอลลาร์ในปี 2030 หรือคิดเป็น 9.9% ของจีดีพี
Arnaud Darc ซีอีโอของ Thalias Group บอกว่าการสูญเสียเงินที่แรงงานส่งกลับประเทศ แม้จะเป็นจำนวนมหาศาล แต่อยู่ในขอบเขตที่เศรษฐกิจสามารถบริหารจัดการได้ ถ้ามีการประสานงานนโยบายต่างๆเป็นอย่างดี "ประวัติศาสตร์เคยบ่งชี้มาก่อน หากประสบสำเร็จในการดูดซับแรงงาน พวกแรงงานที่เดินทางกลับประเทศจะเป็นตัวส่งเสริมจีดีพี ได้มากกว่าครั้งที่พวกเขาทำงานในต่างแดนเสียอีก"
จนถึงตอนนี้มีผู้คนเดินทางกลับประเทศราวๆ 920,000 ราย แต่ทาง ซุน เมษา กระทรวงแรงงานและการฝึกอาชีพกัมพูชา อ้างว่าในนั้นเป็นเด็กๆที่อยู่ในวัยเรียน 500,000 คน และอีก 250,000 คน มีอายุ 45 ปีหรือมากกว่านั้น
ในนั้นราว 160,000 คน ถึง 200,000 คน ได้รับโอกาสการทำงานผ่านกระทรวงฯและบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้ไม่ได้เป็นตัวแทนของแรงงานทั้งหมดที่เดินทางกลับจากไทย เพราะบางส่วนได้รับสัญญาจ้างงานจากบริษัทต่างๆแยกต่างหาก หรือไม่ก็ได้งานในภาคก่อสร้างและภาคอื่นๆ ที่ไม่ได้ลงทะเบียน สำนักข่าวคิริโพสต์รายงานคำกล่าวอ้างของซุน เมษา
แม้มีมุมมองในแง่บวก แต่ข้อเท็จจริงตามรายงานของคิริโพสต์ก็คือ สภาพแวดล้อมต่างๆในตลาดแรงของกัมพูชายังคงท้าทายอย่างมาก แรงงานจำนวนมากส่งเสียงคร่ำครวญว่ายังไม่ได้งานทำ ขณะที่เมื่อเดือนสิงหาคม ทางสถาบันพัฒนาทรัพยากรกัมพูชา เผยแพร่รายงานฉบับหนึ่ง ระบุในบรรดาแรงงานที่เดินทางกลับจากไทย มีเพียงแค่ 21% เท่านั้นที่ได้งานทำ และมีอีกกว่าครึ่งล้านคนยังตกงาน
สถาบันพัฒนาทรัพยากรกัมพูชาระบุว่าท่ามกลางข้อสันนิษฐานสถานการณ์เช่นนี้จะลากยาวต่อไป มีความเป็นไปได้ว่าความขัดสนในหมู่ครัวเรือนที่เดินทางกลับจากไทย อาจเพิ่มจาก 30% สู่ระดับ 50% และมันไม่ใช่แค่ก่อความทุกข์ทรมานแก่ตัวบุคคลเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจชนบทของกัมพูชา ซึ่งพึ่งพิงมาช้านานต่อเงินที่แรงงานในต่างแดนส่งกลับบ้าน
(ที่มา:คิริโพสต์)