อดีตผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชารายหนึ่ง กล่าวหาทหารไทยโจมตีอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนและทำลายบ้านเรือนในค่ายผู้ลี้ภัยแห่งหนึ่ง ที่หลบหนีภัยสงครามกลางเมือง ในช่วงระหว่างทศวรรษ 1980
นายมีช โสวันนระ (Meach Sovannara) ซึ่งเวลานี้เป็นประธานพรรคคนรุ่นใหม่กัมพูชา เขียนบนเพจเฟซบุ๊ก อ้างว่าเมื่อวันที่ 5 มกราคม 1980 ทหารราบติดอาวุธหนักของไทยภายใต้การสนับสนุนโดยปืนใหญ่และอากาศยาน ทำการโจมตีค่ายผู้ลี้ภัยหนองจาน พร้อมระบุการโจมตีดังกล่าวได้เผาพลาญบ้านเรือนที่เป็นของพวกผู้ลี้ภัยกัมพูชาหลายพันหลัง แทบไม่มีอะไรเหลือเลย
ทางนายมีช กล่าวอ้างต่อว่านายแก้ว คต ซึ่งเป็นหัวหน้าค่ายผู้ลี้ภับชั่วคราวบ้านหนองจาน ณ ขณะนั้น และ Chhea Rithychhut สมาชิกแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติประชาชนเขมร ได้รับบาดเจ็บสาหัสในการโจมตีดังกล่าว
ในบัญชีเฟซบุ๊ก นายมีช อ้างว่าครั้งหนึ่งบ้านหนองจานเป็นถิ่นฐานผู้ลี้ภัยกัมพูชาตามแนวชายแดนไทย โดยในช่วงเวลาดังกล่าว มันบริหารงานโดยบรรดาแกนนำของแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติประชาชนเขมร ในนั้นรวมถึงนายซอน ซาน, นายพลสักตสขันธ์ และนายพลเดียน เดล พร้อมเล่าว่าในปีแรกๆ มีชาวกัมพูชามากกว่า 3,600 คน พักอาศัยอยู่ที่นั่น ภายใต้แกนนำ Chhea Rithychhut ที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าค่าย
นายมีช อ้างว่าตนเองเข้าไปพักอาศัยในค่ายผู้ลี้ภัยหนองจาน ระหว่างปี 1979 ถึง 1981 ก่อนท้ายที่สุดแล้วมันจะถูกทหารเวียดนามบุกรุก ต่อมาเขาย้ายไปที่แหล่งลี้ภัยแห่งใหม่ ที่เรียกกันว่า "หนองจานใหม่" ในจังหวัดพระตะบอง ในปี 1982
ทั้งนี้ข้อเท็จจริงตามการสืบค้นของ mgronline พบว่าค่ายผู้อพยพหนองจานหรือศูนย์พักพิงหนองจาน อยู่ในเขตประเทศไทย ตั้งอยู่ในบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เป็นหนึ่งในค่ายผู้อพยพที่จัดตั้งขึ้นเป็นแห่งแรก ๆ บนชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อรองรับผู้ลี้ภัยชาวเขมรหลายพันคนต้องการหาอาหารและการรักษาพยาบาลหลังจากหนีสงครามกัมพูชา–เวียดนาม
ค่ายนี้ถูกทำลายโดยกองทัพเวียดนามในช่วงปลายปี 1984 หลังจากนั้นประชากรของค่ายจึงถูกย้ายไปยังพื้นที่อพยพที่ 2
เดอะแคมโบเดียเดลี สื่อมวลชนกัมพูชา รายงานว่าคำกล่าวอ้างของนายมีช โสวันนระ ปรากฏขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความตึงเครียดรอบใหม่เกี่ยวกับที่ดินตามแนวชายแดนกัมพูชาและไทย โดยเมื่อวันที่ 1 กันยายน หนังสือพิมพ์ข่าวสดรายงานว่านายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว อนุญาตให้ชาวบ้านไทยใช้ที่ดิน 6 แปลง ภายในดินแดนของกัมพูชา หลังทหารไทยวางแนวลวดหนามกั้้นฟื้นที่ดังกล่าว
รายงานข่าวระบุว่าเจ้าหน้าที่ไทยได้บอกกับพลเมือง ให้แจ้งล่วงหน้าก่อนเข้าไปยังที่ดินดังกล่าวในเหตุผลด้านความปลอดภัย พร้อมยืนยันว่าได้ทำการรังวัดที่ดินทั้ง 6 แปลงที่อยู่ติดกับหลักเขตแดนที่ 46-47 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตามเดอะแคมโบเดียเดลี ระบุว่าพวกเจ้าหน้าที่กัมพูชาส่งเสียงคัดค้าน โดย นายอุม เรียตรีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบันทายมีชัย ส่งหนังสือประท้วงไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วในวันที่ 25 สิงหาคม คัดค้านการจัดสรรสิทธที่ดินกำหินแก่ชาวบ้านคนไทย และแม้ทำการประท้วงไปแล้ว แต่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดของไทย ยังอนุญาตให้เดินหน้าใช้ที่ดินดังกล่าว
(ที่มา:เดอะแคมโบเดียเดลี/mgronline)