เอเจนซีส์ – นายกรัฐมนตรีโปรตุเกสแถลงยืนยันจะต้องทำให้การสอบสวนคดีรถรางกระเช้าเหลืองสัญลักษณ์กรุงลิสบอนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกที่เกิดตกรางอย่างไม่คาดฝันวันพุธ(3 ก.ย)นั้นต้องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและถี่ถ้วนหลังตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 16 รายล่าสุดรวมต่างชาติมีพลเมืองเกาหลีใต้รวมอยู่ในนั้น
เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันพฤหัสบดี(4 ก.ย)ว่า นายกรัฐมนตรีโปรตุเกส ลูอิส มอนเตเนโกร( Luís Montenegro) ชี้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดเป็นหนึ่งในโศกนาฎกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของโปรตุเกสพร้อมรับปากจะเร่งการสอบสวนอย่างละเอียดและรวดเร็วต่อเหตุรถรางกระเช้าสีเหลืองชื่อดังของกรุงลิสบอนที่ตกรางวันพุธ(7) ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 16 คน และบาดเจ็บอีก 21 คน
อัยการโปรตุเกสได้เข้าสอบสวนถึงสาเหตุการตกรางของรถรางกระเช้าโด่งดังไปทั่วโลกที่รู้จักสาย Glória funicular
เหตุตกรางเกิดขึ้นหลังเวลา 18.00 น.ของวันพุธ(7)ซึ่งนายกเทศมนตรีกรุงลิสบอนได้เรียก Carris บริษัทขนส่งสาธารณะกรุงลิสบอนที่เป็นผู้ให้บริการรถรางกระเช้าเหลืองลิสบอนทำการสอบสวนหาสาเหตุ
รถรางกระเช้าลิสบอน Glória ให้บริการประชาชนร่วม 3 ล้านต่อปีนั้นเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวและประชาชนกรุงลิสบอน
รถรางกระเช้าลิสบอนมี 2 คันและแต่ละคันสามารถรับผู้โดยสารได้ถึง 40 คนนั้นติดกับเคเบิล
บริษัทขนส่งสาธารณะ Carris แถลงยืนยันว่า มีการบำรุงรักษาทุกประการเป็นไปตามกำหนดรวมถึงตามประจำเดือนและประจำสัปดาห์รวมถึงการตรวจสอบแต่ละวัน
ค่ำวันพฤหัสบดี(8) อัยการโปรตุเกสแถลงว่า มีพลเมืองโปรตุเกส 5 คน ชาวเกาหลีใต้ 2 คน และชาวสวิสอีก 1 คนรวมอยู่ในจำนวนผู้เสียชีวิตหลังมีรถรางกระเช้า 1 คันจากทั้งหมด 2 คันเกิดตกรางและพุ่งชนเข้ากับตึกหลังหนึ่ง
ผู้บาดเจ็บซึ่งนอกเหนือจากพลเมืองโปรตุเกสแล้วยังรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากได้แก่ชาวเยอรมัน 2 คน ชาวสเปน 2 คน และ 1 คนจากแคนาดา ,ฝรั่งเศส, เคป เวอร์ดา, อิตาลี, โมร็อกโก, เกาหลีใต้ และสวิตเซอร์แลนด์
นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่คุมเบรกบนรถซึ่งเป็นพนักงานของ Carris เสียชีวิตในการชนวานนี้(4)
เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า มีคนบาดเจ็บ 5 คนจากทั้งหมดได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกส่งไปรักษาตัวตามโรงพยาบาลไม่กี่แห่งทั่วภูมิภาคลิสบอน และ 1 ในผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่สุดเสียชีวิตในชั่วข้ามคืนที่ผ่านมาที่โรงพยาบาลส่งให้ยอดเสียชีวิตเพิ่มจาก 15 คนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 16 คนล่าสุดและยอดผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 21 คน
ทั้งนี้เจ้ากรุงลิสบอนได้สั่งปิดการให้บริการรถรางกระเช้าสายอื่นๆทั่วกรุงเพื่อความปลอดภัยในการตรวจเช็กความปลอดภัยหลังเกิดเหตุตกรางไม่คาดฝัน
ซึ่งสำหรับรถรางกระเช้าเส้นทางที่เกิดเหตุนี้ให้บริการที่ย่านใจกลางกรุงลิสบอนที่มีลักษณะเป็นเนินเขาโดยมี 1 คันให้บริการขึ้นเขาที่ชันและอีกคันให้บริการในทิศตรงกันข้าม
ภาพข่าวที่ปรากฏแสดงให้เห็นถึงซากพังยับของรถรางกระเช้าสีเหลืองและขาวที่กองอยู่ด้านข้างของถนนสายแคบๆที่รถรางวิ่งผ่านโดยมีลักษณะเห็นได้ชัดว่าเหมือนตัวรถวิ่งชนตึกอย่างชัดเจนในช่วงหัวโค้งของถนน ซึ่งส่วนต่างๆของรถรางที่ส่วนใหญ่ทำจากโลหะพังยับ
พยานต่างๆที่ได้เห็นเหตุการณ์ต่างกล่าวว่า รถรางกระเช้าเหลืองลิสบอนกำลังวิ่งลงบนเนินเขาและดูเหมือนจะควบคุมไม่ได้ “มันชนเข้ากับตึกอย่างแรงและพังยับกระจายออกเป็นชิ้นๆไม่ต่างจากกล่องกระดาษ” เทเรซา ดาโว (Teresa d’Avó) ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ SIC
ส่วนพยานอีกคนคือ บรูโน เปเรอีรา (Bruno Pereira) เปิดเผยกับ CNN ภาคภาษาโปรตุเกสว่า รถรางที่อยู่ด้านล่างของเนินเขาจู่ๆก็เกิดกระตุกและกระเด็นออกจากรางก่อนพุ่งไปที่ฟุตบาทแค่อึดใจก่อนที่รถรางกระเช้าอีกคันที่วิ่งอยู่ในทิศตรงข้ามเดินทางมาถึงและเหมือนควบคุมไม่ได้ก่อนที่จะพุ่งชนเข้ากับตึกอย่างแรง
เขาเล่าว่า “เกิดการตื่นตระหนกไปทั่ว พวกเราต่างวิ่งหนีทุกคนที่นั่น มีประชาชนบางส่วนพยามดึงคนให้ออกจากใต้รถราง..มีก้อนหินกระจายไปทั่วและรางที่เป็นเหล็กเส้นที่รถรางวิ่งโผล่ออกมา”