ตำรวจสิงคโปร์ได้มีคำสั่งให้เมตา (Meta) ต้องออกมาตรการต่อต้านการหลอกลวงผ่านทางโฆษณา บัญชี โปรไฟล์ และเพจธุรกิจที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลบนเครือข่ายโซเชียลมีเดีย Facebook เพื่อปราบปรามพวกแก๊งสแกมเมอร์ ตามข้อมูลจากรัฐมนตรีสิงคโปร์วันนี้ (3 ก.ย.)
เมตา อาจถูกปรับสูงสุด 1,000,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 25 ล้านบาท) หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งซึ่งอาศัยอำนาจตามกฎหมายด้วยอาชญากรรมออนไลน์ฉบับใหม่ของสิงคโปร์ที่มีผลบังคับใช้ในเดือน ก.พ. ปี 2024
“เราออกคำสั่งนี้ให้กับ เมตา เนื่องจาก Facebook เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมที่เหล่ามิจฉาชีพมักใช้เป็นช่องทางหลอกลวงผ่านการปลอมแปลงตัวตน และตำรวจประเมินว่า จำเป็นต้องมีการดำเนินการที่เด็ดขาดมากขึ้นเพื่อยับยั้งการหลอกลวงเหล่านี้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โกห์ เผย หมิง (Goh Pei Ming) ระบุในถ้อยแถลงวันนี้ (3)
เมื่อเดือน ส.ค. กระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์พบว่า การหลอกลวงทางอีคอมเมิร์ซทั้งหมดที่มีการรายงานในปี 2024 มากกว่า 1 ใน 3 เกิดขึ้นบน Facebook นอกจากนี้ Facebook Marketplace ยังถูกจัดอันดับเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีฟีเจอร์ต่อต้านการหลอกลวงที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาตลาดอีคอมเมิร์ซ 6 แห่ง
สถิติของตำรวจที่เผยแพร่ในเดือน ส.ค. ยังแสดงให้เห็นว่า การหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าเป็น 1,762 คดีในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 จากสถิติ 589 คดีในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีมูลค่าความเสียหายจากการหลอกลวงประเภทนี้รวม 126.5 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้นถึง 88% จาก 67.2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์เมื่อปีที่แล้ว
กระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์รับทราบว่า Facebook Marketplace ได้กำหนดให้มี "มาตรการยืนยันตัวตนผู้ใช้ที่เข้มงวดยิ่งขึ้น" สำหรับผู้ขายบางรายในสิงคโปร์ตั้งแต่ปี 2024 และได้เพิ่มประกาศความปลอดภัยเอาไว้ในผลิตภัณฑ์ รวมถึงใส่ประกาศระวังการหลอกลวงไว้ในฟังก์ชันการส่งข้อความเพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับความเสี่ยงของการหลอกลวงทางอีคอมเมิร์ซ
อย่างไรก็ตาม มาตรการเหล่านี้เพิ่งจะถูกนำมาใช้หลังจากที่ เมตา ถูกรัฐบาลสิงคโปร์วิพากษ์วิจารณ์เรื่องความล้มเหลวของบริษัทในการปกป้องผู้ใช้งานจากการหลอกลวง
เดือน ก.พ. ปีที่แล้ว ซุน เสว่หลิง ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์ในขณะนั้น กล่าวว่า เมตา ได้ "ต่อต้านเรื่อยมา" ต่อข้อแนะนำของกระทรวงในการใช้มาตรการต่างๆ เช่น การตรวจสอบตัวตนผู้ใช้กับบัตรประจำตัวที่ออกโดยรัฐบาล หรือการเสนอตัวเลือกการชำระเงินที่ปลอดภัยเพื่อต่อสู้กับการหลอกลวงทางอีคอมเมิร์ซบนแพลตฟอร์ม เป็นต้น
ที่มา: รอยเตอร์