รัฐบาลเบลเยียมจะประกาศให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ตามคำยืนยันจาก แมกซิม พรีโวต รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเบลเยียมวันนี้ (2 ก.ย.) ซึ่งทำให้อิสราเอลเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้นหลังจากออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา และฝรั่งเศส ได้ประกาศจุดยืนเดียวกันไปก่อนหน้านี้
นอกจากจะถูกทั่วโลกวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำสงครามเข่นฆ่าพลเรือนปาเลสไตน์ในกาซาแบบไม่เลือกหน้าแล้ว รัฐบาลอิสราเอลยังต้องโมโหเดือดดาลจากการที่พันธมิตรหลายประเทศเตรียมหันไปรับรองสถานะรัฐปาเลสไตน์ในการประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนนี้
พรีโวต ได้โพสต์ข้อความบน X ว่า เบลเยียมจะเป็นหนึ่งในชาติที่ร่วมลงนามในปฏิญญานิวยอร์ก (New York Declaration) ว่าด้วยการปูทางไปสู่ทางออกแบบ 2 รัฐ (two-state solution) ซึ่งหมายถึงการมีรัฐปาเลสไตน์ดำรงอยู่ควบคู่กับอิสราเอลอย่างสันติ
การตัดสินใจดังกล่าว “คำนึงถึงโศกนาฏกรรมด้านมนุษยธรรมที่เกิดขึ้นในปาเลสไตน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกาซา และเพื่อตอบโต้ความรุนแรงที่อิสราเอลกระทำโดยขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ” พรีโวต ระบุ
เบลเยียมมีความตั้งใจที่จะรับรองรัฐปาเลสไตน์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของความริเริ่มด้านการทูตที่นำโดยฝรั่งเศสและซาอุดีอาระเบีย ความเคลื่อนไหวที่ให้ผลในเชิงสัญลักษณ์เพื่อประณามการขยายถิ่นฐานชาวยิวและปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในดินแดนปาเลสไตน์
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมาวิจารณ์การตัดสินใจของแคนาดาในการหนุนรัฐปาเลสไตน์ ขณะที่ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ชี้ว่าฝรั่งเศสตัดสินใจอย่างขาดความรอบคอบ
ล่าสุด ทำเนียบขาวยังไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ต่อคำแถลงของเบลเยียม
เบลเยียมยังเตรียมใช้มาตรการคว่ำบาตรที่ “หนักแน่น” 12 ประการกับอิสราเอล เช่น การห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์จากถิ่นฐานชาวยิว และทบทวนนโยบายจัดซื้อสินค้าจากบริษัทของอิสราเอล เป็นต้น ขณะเดียวกันก็จะประกาศให้เหล่าแกนนำฮามาสเป็น “บุคคลไม่พึงประสงค์” (persona non grata) ในเบลเยียมด้วย
บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปยังคงมีความเห็นต่างอย่างรุนแรงในการประชุมที่โคเปนเฮเกนเมื่อวันเสาร์ (30 ส.ค.) เกี่ยวกับสงครามในกาซา โดยบางคนเรียกร้องให้อียูเพิ่มมาตรการกดดันทางเศรษฐกิจต่ออิสราเอล ขณะที่บางคนคัดค้านอย่างหนักแน่น
ชาวปาเลสไตน์พยายามเรียกร้องไปสู่การจัดตั้งรัฐของตนเองในเขตเวสต์แบงก์ที่อิสราเอลยึดครองอยู่ รวมถึงในดินแดนกาซา โดยมีเยรูซาเลมตะวันออกเป็นเมืองหลวง ขณะที่สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นพันธมิตรของยิวยืนยันว่า การสถาปนารัฐปาเลสไตน์ต้องเกิดขึ้นผ่านกระบวนการเจรจาทางตรงระหว่างชาวปาเลสไตน์และชาวอิสราเอลเท่านั้น
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (29) สหรัฐฯ ประกาศห้ามไม่ให้ประธานาธิบดี มะห์มูด อับบาส แห่งองค์การบริหารแห่งชาติปาเลสไตน์ (Palestinian Authority) เดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นที่นิวยอร์ก ขณะที่ชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ หลายประเทศแสดงจุดยืนว่าจะใช้เวทีนี้ให้การรับรองสถานะรัฐปาเลสไตน์
เมื่อเดือน ส.ค. รอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อิสราเอล 3 คนซึ่งระบุว่า อิสราเอลกำลังพิจารณาผนวกเวสต์แบงก์เพื่อตอบโต้ที่ฝรั่งเศสและชาติอื่นๆ ให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์
เมื่อปี 2024 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ได้มีคำวินิจฉัยว่า การยึดครองดินแดนปาเลสไตน์โดยอิสราเอล ซึ่งรวมถึงพื้นที่เวสต์แบงก์ ตลอดจนการขยายถิ่นฐานชาวยิวที่นั่นเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และควรที่จะถูกเพิกถอนทันทีโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ที่มา: รอยเตอร์