ผู้ประท้วงหลายหมื่นคนรวมตัวชุมนุมทั่วอินโดนีเซียในวันจันทร์(1ก.ย.) ขณะที่ทหารถูกส่งเข้าประจำการในเมืองหลวง หลังมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย ระหว่างการชุมนุมทั่วประเทศ อันมีต้นตอจากความขุ่นแค้นที่มีต่อการมอบสิทธิพิเศษอันเลยเถิดแก่พวกสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร
มีผู้ประท้วงอย่างน้อย 500 คนรวมตัวกันรอบนอกอาคารรัฐสภาของประเทศในกรุงจาการ์ตา ภายใต้การจับตามองของทหารและตำรวจตลอดวัน ก่อนสลายตัวไป หลังจากประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต เตือนพวกผู้ประท้วงให้ยุติการชุมนุมก่อนพระอาทิตย์ตกดิน
อย่างไรก็ตามการประท้วงในที่อื่นๆยังคงอ่อนไหว ในเมืองโกรอนตาโล บนเกาะสุลาเวสี พวกผู้ชุมนุมเปิดฉากปะทะกับตำรวจ กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำเข้าใส่ ตามรายงานของเอเอฟพี ส่วนในเมืองบันดุง บนเกาะชวา เหล่าผู้ประท้วงขว้างปาระเบิดเพลิงและพลุไฟเข้าใส่อาคารสภาจังหวัด
พบเห็นพวกผู้ชุมนุมอีกหลายพันคนรวมตัวกันที่เมืองปาเลมบัง บนเกาะสุมาตรา และอีกหลายร้อยคนชุมนุมแยกกันในเมืองบันจาร์มาซิน บนเกาะบอร์เนียว, ในเมืองยอกยาการ์ตาบนเกาะชวา และเมืองมากัสซาร์ บนเกาะสุลาเวสี อ้างอิงรายงานจากผู้สื่อข่าวเอเอฟพีทั่วอินโดนีเซีย
"เป้าหมายหลักของเราคือปฏิรูปรัฐสภา" นาฟตา คีสยา เคมาเลีย วัย 20 ปี ผู้ประท้วงและนักศึกษามหาวิทยาลัย บอกกับเอเอฟพี บริเวณด้านนอกของอาคารรัฐสภา ก่อนที่การประท้วงจะหยุดยิง
ในเจนีวา เมื่อวันจันทร์(1ก.ย.) สหประชาชาติเรียกร้องให้สืบสวนคำกล่าวหามีการใช้กำลังเกินกว่าเหตุกับพวกผู้ประท้วงอินโดนีเซีย "เราติดตามอย่างใกล้ชิดต่อเหตุความรุนแรงในอินโดนีเซีย ในบริบทการประท้วงต่อต้านเบี้ยเลี้ยงรัฐสภา มาตรการรัดเข็มขัด มีคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับการใช้กำลังที่เกินความจำเป็นและไม่สมสัดสมส่วนโดยกองกำลังด้านความมั่นคง" โฆษกสำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าว "เราเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพูดคุยจัดการความกังวลของประชาชน"
การประท้วงนองเลือด ซึ่งถือเป็นเหตุความไม่สงบรั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ ปราโบโว เข้ารับอำนาจเมื่อราวๆ 1 ปีก่อน เริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว หลังรัฐสภาอนุมัติเพิ่มสิทธิประโยชน์ของบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร เป็นเกือบ 10 เท่าของค่าแรงขั้นต่ำในจาการ์ตา บีบให้ประธานาธิบดีและพวกผู้นำในรัฐสภา ต้องกลับลำยอมหั่นสิทธิพิเศษดังกล่าว
เหตุประท้วงเริ่มขึ้นโดยสันติ แต่มันเลี้ยวเข้าสู่ความรุนแรง มีการใช้กำลังกับหน่วยตำรวจกึ่งทหารของประเทศ หลังไรเดอร์ขับจักรยานยนต์ส่งของวัย 21 ปีรายหนึ่ง เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติการตำรวจ ณ จุดประท้วง เมื่อช่วงเย็นวันพฤหัสบดี(28ส.ค.)
ตำรวจจัดตั้งจุดตรวจหลายแห่งทั่วเมืองหลวงในวันจันทร์(1ก.ย.) เจ้าหน้าที่และทหารทำการลาดตระเวนทั่วประเทศ และประจำการพลซุ่มยิงในสถานที่สำคัญๆ ขณะที่ท้องถนนสายต่างๆที่เคยติดหนึบ อยู่ในภาวะที่เงียบเชียบกว่าปกติ เนื่องจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่างๆในกรุงจาการ์ตา ปรับเปลี่ยนไปจัดการเรียนการสอนทางออนไลน์อย่างน้อยๆจนถึงวันอังคาร(2ก.ย.) และบรรดาข้าราชการถูกร้องขอให้ทำงานจากที่บ้าน
พวกผู้เชี่ยวชาญบอกว่าการกลับลำของปราโบโว ในถ้อยแถลงเมื่อวันอาทิตย์(31ส.ค.) และท่าทีของรัฐสภาที่ถอนสิทธิพิเศษบางอย่างของสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ไม่เพียงพอที่จะปัดเป่าความไม่สงบ "รัฐบาลอินโดนีเซียยุ่งเหยิง คณะรัฐมนตรีและรัฐสภาไม่ฟังเสียงวิงวอนของประชาชน" สุชาร์ดี พ่อค้าวัย 60 ปีกล่าว "พวกเขาโกหกเราอยู่ตลอด"
วิกฤตครั้งนี้กระตุ้นให้ทาง ปราโบโว ยกเลิกโปรแกรมเดินทางไปยังจีนในสัปดาห์นี้ เพื่อร่วมพิธีสวนสนามในวาระสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในขณะที่ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา รัฐมนตรีคลังของประเทศและสมาชิกรัฐสภาหลายคน รายงานว่าบ้านเรือนของพวกเขาถูกปล้น
มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย ในเหตุพวกผู้ประท้วงจุดไฟเผยอาคารสภาท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ในเมืองมาคัสซาร์ เมื่อวันศุกร์(29ส.ค.) ส่วนอีกคนถูกสังหารโดยฝูงม็อบในเมืองเดียวกัน สืบเนื่องจากความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสายลับ นอกจากนี้แล้วยังมีคำยืนยันพบผู้เสียชีวิตอีกราย เป็นนักศึกษาในยอกยาการ์ตา ท่ามกลางเหตุกระทบกระทั่ง
(ที่มา:เอเอฟพี)