ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เสนอประจำการ "กองกำลังรักษาสันติภาพจีน" ในยูเครน เพื่อตรวจตราข้อตกลงสันติภาพใดๆระหว่างทหารรัสเซียกับทหารยูเครน หากทั้ง 2 ฝ่ายเจรจาหาทางออกความขัดแย้งได้สำเร็จ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส อ้างอิงแหล่งข่าวที่ได้รับฟังรายงานสรุปในเรื่องนี้
ไฟแนเชียลไทม์ส อ้างแหล่งข่าว 4 คน ระบุ ทรัมป์ แนะนำให้ประจำการทหารจีน ในโซนกึ่งกลางในอนาคต ตามแนวหน้าที่ครอบคลุมระยะทางกว่า 1,300 กิโลเมตร ส่วนหนึ่งในทางออกสันติภาพกับรัสเซีย รายงานข่าวบอกว่าข้อเสนอนี้เกิดขึ้นระหว่างการประชุมร่วมกับบรรดาผู้นำยุโรปและประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ที่ทำเนียบขาว เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งในรัฐบาลทรัมป์ ปฏิเสธรายงานข่าวนี้ว่าเป็น "เท็จ" และเน้นย้ำว่าไม่มีการพูดคุยหารือในประเด็นดังกล่าว
รายงานข่าวระบุว่าความคิดนี้ต้องเจอกับเสียงคัดค้านจากบรรดาผู้นำอียู และเคยถูกปฏิเสธมาก่อนโดยเซเลนสกี ผู้ซึ่งกล่าวหาปักกิ่ง ล้มเหลวในการขัดขวางความขัดแย้งทั้งในปี 2014 และ 2022
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ, ยูเครนและยุโรป ได้หารือเกี่ยวกับแนวคิดเขตปลอดทหารที่ลาดตระเวนโดยกองกำลังรักษาสันติภาพที่เป็นกลาง ในฐานะแนวทางขั้นแรกของทางออกแห่งสันติ นอกจากนี้แล้วยังมีข่าวเกี่ยวกับแนวคิดประจำการทหารตะวันตกเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว แต่มันก็ถูกมอสโกคัดค้านอย่างแข็งกร้าวเช่นกัน
เมื่อช่วงกลางเดือน กระทรวงการต่างประเทศจีน ปฏิเสธรายงานข่าวที่บอกว่าปักกิ่งแสดงความตั้งใจเข้าร่วมว่าที่กองกำลังสันติภาพใดๆในยูเครน ทั้งนี้นับตั้งแต่ความขัดแย้งยูเครนเริ่มต้นขึ้น ปักกิ่งวางตัวในฐานะคนกลางมาตลอด เรียกร้องคู่สงครามให้ยุติความเป็นปรปักษ์และเน้นย้ำถึงความจำเป็นต้องสนับสนุนทางออกทางการเมืองที่ยั่งยืนของวิกฤตยูเครน
แม้รัสเซียบ่งชี้ในหลักการ ว่าไม่คัดค้านการที่ตะวันตกจะรับประกันความมั่นคงแห่งยูเครน แต่พวกเขายืนกรานว่าข้อตกลงใดๆควรได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในนั้นรวมถึงจีน พร้อมเน้นย้ำว่ามันไม่ควรเป็นการรับประกันความมั่นคงแต่เพียงฝ่ายเดียว และมีเป้าหมายควบคุมรัสเซีย
มอสโก คัดค้านการประจำการทหารนาโตในยูเครน ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม โดยชี้ว่าการแผ่ขยายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของนาโต คืบคลานเข้าหาชายแดนของรัสเซีย คือหนึ่งในต้นตอหลักๆของความขัดแย้ง
(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)