เอพี – รัสเซียส่งโดรนและขีปนาวุธถล่มเคียฟครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ และยังเป็นหนึ่งในการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดนับจากสงครามเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2022 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน และบาดเจ็บอีก 48 คน
การโจมตีล่าสุดนี้ถือเป็นการโจมตีเมืองหลวงของยูเครนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ความพยายามผลักดันข้อตกลงสันติภาพที่มีอเมริกาเป็นแกนนำชะงักงันอีกครั้ง โดยกองทัพอากาศยูเครนเผยว่า รัสเซียส่งโดรนโจมตีและโดรนล่อเป้า 598 ลำ และขีปนาวุธ 31 ลูกถล่มทั่วยูเครน นับเป็นการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง
ทีมูร์ คาเชนโก หัวหน้าคณะบริหารเมืองเคียฟ เผยว่า ในบรรดาผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของรัสเซียที่เกิดขึ้นช่วงเช้าวันพฤหัสฯ รวมถึงเด็ก 3 คน อายุ 2 ปี, 14 ปี และ 17 ปี และคาดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้น โดยทีมกู้ภัยกำลังเร่งค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครน ประณามว่า รัสเซียเลือกขีปนาวุธแทนการเจรจา และยูเครนหวังว่า จะมีมาตรการตอบโต้จากทุกฝ่ายทั่วโลกที่เรียกร้องสันติภาพแต่มักนิ่งเฉยเป็นส่วนใหญ่
ทางด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงในวันเดียวกันว่า ได้ทำลายขีปนาวุธยูเครน 102 ลำที่รุกล้ำดินแดนเมื่อคืนวันพุธ (27 ส.ค.) และระบุว่า การโจมตีเหล่านี้ทำให้เกิดไฟไหม้โรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่งในแคว้นคราสโนดาร์และอีกแห่งในแคว้นซามารา
ช่วงหลายสัปดาห์มานี้ยูเครนระดมส่งโดรนโจมตีโรงกลั่นและโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำมันของรัสเซียบ่อยครั้งเพื่อบ่อนทำลายแหล่งรายได้ที่รัสเซียนำมาใช้ทำสงคราม ส่งผลให้ปั๊มน้ำมันในบางแคว้นของรัสเซียขาดแคลนน้ำมันและราคาพุ่งขึ้น
คาเชนโกระบุว่า รัสเซียส่งโดรนล่อเป้า ขีปนาวุธร่อน และขีปนาวุธทิ้งตัวโจมตีเป้าหมายอย่างน้อย 20 แห่งใน 7 เขตของเคียฟ ส่งผลให้อาคารเกือบ 100 หลังได้รับความเสียหาย ซึ่งรวมถึงห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใจกลางเมืองหลวงของยูเครน
ทางด้านกองทัพอากาศยูเครนเผยว่า ยิงและทำลายโดรนและโดรนล่อเป้า 563 ลำ และขีปนาวุธ 26 ลูกของรัสเซียทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ไม่บ่อยครั้งนักที่รัสเซียจะโจมตีใจกลางเมืองหลวงของยูเครนนับจากเริ่มต้นรุกรานเต็มรูปแบบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022
หน่วยรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินของยูเครนเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตและร่างผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากอาคาร โดยหน่วยงานบริการฉุกเฉินของรัฐบาลแถลงเมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีว่า ยังมีผู้สูญหายอย่างน้อย 10 คน
ขณะเดียวกัน การรถไฟยูเครนรายงานว่า โครงสร้างพื้นฐานในแคว้นวินนิตเซียและเคียฟได้รับความเสียหาย ทำให้การเดินทางล่าช้าและต้องเปลี่ยนเส้นทางรถไฟบางสาย
การโจมตีของรัสเซียในวันพฤหัสบดี ยังเป็นการโจมตีเคียฟโดยใช้ทั้งโดรนและขีปนาวุธครั้งใหญ่ที่สุดนับจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่อะแลสกาเมื่อต้นเดือน เพื่อหารือแนวทางในการยุติสงครามในยูเครน
อย่างไรก็ดี แม้การผลักดันทางการทูตดูเหมือนมีแนวโน้มที่ดีภายหลังการหารือดังกล่าว แต่กลับมีรายละเอียดน้อยมากเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปที่จะดำเนินการ
บรรดาผู้นำตะวันตกกล่าวหาปูตินเตะถ่วงความพยายามผลักดันข้อตกลงสันติภาพ และหลีกเลี่ยงการเจรจาอย่างจริงจัง ขณะที่กองทัพรัสเซียบุกเข้าสู่ดินแดนชั้นในของยูเครนลึกขึ้น โดยในช่วงสัปดาห์นี้ผู้นำทางทหารของยูเครนยอมรับว่า กองกำลังรัสเซียบุกทะลวงเข้าสู่แคว้น 8 แห่งเพื่อยึดดินแดนเพิ่ม
เซเลนสกี้นั้นคาดหวังว่า อเมริกาจะออกมาตรการแซงก์ชันรุนแรงขึ้นเพื่อบ่อนทำลายเศรษฐกิจรัสเซีย หากปูตินไม่แสดงความกระตือรือร้นในการยุติสงคราม เขายังย้ำข้อเรียกร้องเหล่านี้ภายหลังการโจมตีล่าสุดของมอสโก และสำทับว่า เส้นตายทั้งหมดถูกละเมิด และโอกาสทางการทูตนับสิบครั้งพังพินาศ