ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯในวันอังคาร(26ส.ค.) จะแสวงหาบทลงโทษประหารชีวิตสำหรับพวกฆาตรกรในกรุงวอชิงตัน ส่วนหนึ่งในการปราบปรามสิ่งที่เขาเรียกว่าอาชญากรรมที่หลุดจากการควบคุมในเมืองหลวงของอเมริกา
"ถ้าใครบางคนฆ่าคนอื่นในเมืองหลวง กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เราจะหาทางลงโทษประหารชีวิต" ทรัมป์กล่าวกับที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในทำเนียบขาว "มันคือการป้องกันที่เข้มแข็งมากๆ และใครก็ตามที่ได้ยินเรื่องนี้ คงเห็นด้วยกับมัน"
ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับโทษประหารชีวิตมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันรายนี้ ส่งกองกำลังป้องกันชาติเข้าไปประจำการในกรุงวอชิงตัน ที่บริหารงานโดยเดโมแครต และให้รัฐบาลกลางยึดอำนาจการควบคุมมาจากกรมตำรวจของเมือง เมื่อช่วงปลางเดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้กรุงวอชิงตันยกเลิกโทษประหารชีวิตไปตั้งแต่ปี 1981
เมืองหลวงของสหรัฐฯมีสถานะพิเศษทางกฎหมาย ดินแแห่งนี้ไม่ใช่รัฐหนึ่งๆและบริหารงานภายใต้ความสัมพันธ์กับรัฐบาลกลาง มีอำนาจปกครองตนเองแบบจำกัดและต้องขออนุมัติจากสภาคองเกรสในเรื่องสำคัญๆ เช่น งบประมาณ กฎหมาย และการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เพื่อให้สอดคล้องกับระบบการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจของสหรัฐฯ
ทรัมป์ ใช้ช่องโหว่ดังกล่าวส่งกองกำลังป้องกันชาติเข้ามายังกรุงวอชิงตันเมื่อช่วงต้นเดือน อ้างว่าเพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมและจัดการกับปัญหาคนเร่ร่อน
เมื่อวันจันทร์(25ส.ค.) ทรัมป์ อวดอ้างว่าหลายวันต่อเนื่องแล้วที่ไม่มีเหตุฆาตกรรมในเมืองหลวง และบอกว่าเขากำลังใช้มาตรการต่างๆในการสร้างกรุงวอชิงตัน เป็นเมืองหลวงที่สวยงาม ในขณะที่ดินแดนแห่งนี้เป็นที่ตั้งของทั้งทำเนียบขาว อาคารรัฐสภาและสถาบันสำคัญๆอื่นๆ
กองกำลังป้องกันชาติได้รับอนุญาตให้เริ่มพกพาอาวุธในกรุงวอชิงตัน ได้ตั้งแต่วันอาทิตย์(24ส.ค.) ขณะที่ ทรัมป์ แย้มว่าเขากำลังพิจารณาดำเนินการแบบเดียวกันกับเมืองอื่นๆที่บริหารงานโดยเดโมแครต ในนั้นรวมถึงชิคาโก, นิวยอร์ก และ บัลติมอร์
(ที่มา:เอเอฟพี)