หน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์ของรัฐบาลจีนระบุในถ้อยแถลงวันนี้ (26 ส.ค.) ว่า รัฐวิสาหกิจของจีนควรที่จะเพิ่มความช่วยเหลือด้านอุตสาหกรรมแก่ทิเบต ซึ่งรวมถึงการลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้มากยิ่งขึ้น
คณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์แห่งรัฐ ( SASAC ) ได้เน้นย้ำถึงมาตรการที่เฉพาะเจาะจงต่างๆ เช่น การพัฒนาอุตสาหกรรมที่มีความได้เปรียบ (advantageous industries) ที่เหมาะสมกับบริบทในท้องถิ่นของทิเบต ภูมิภาคซึ่งเต็มไปด้วยเทือกเขาสูงและสภาพอากาศแห้งแล้งทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของจีนซึ่งมีพรมแดนดินกับอินเดีย เนปาล ภูฏาน และเมียนมา
คณะกรรมการได้เรียกร้องให้มีการจัดทำโครงการเพิ่มเติมที่คล้ายกับโครงการเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในโลกบริเวณแม่น้ำยาร์ลุงซังโป และเส้นทางรถไฟที่เชื่อมระหว่างทิเบตกับมณฑลเสฉวนของจีน รวมถึงสนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจเพิ่มเม็ดเงินลงทุนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวทิเบต
คำชี้แนะดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนเดินทางไปยังเมืองลาซาในทิเบต เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 60 ปีการก่อตั้งเขตปกครองตนเองทิเบตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทางคณะกรรมการยังเน้นย้ำเรื่องความช่วยเหลือด้านการจ้างงาน รวมถึงสำหรับนักศึกษาจบใหม่ และส่งเสริมความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวในชาติ
“ด้วยโครงการต่างๆ ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม และการแลกเปลี่ยนเชิงวัฒนธรรม เราจะมีส่วนช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงชายแดนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” ถ้อยแถลงของคณะกรรมการระบุ
ที่มา: รอยเตอร์