กระทรวงการท่องเที่ยวของกัมพูชา(MoT) รายงานเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ไทยยังคงเป็นแหล่งหลักในภาคการท่องเที่ยวกัมพูชา โดยมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปเยือน 946,325 คนในช่วง 7 เดือนแรก แต่หากพิจารณาแยกเป็นรายเดือน พบตัวเลขลดฮวบถึง 61.1% ในเดือนมิถุนายน และ 90.5% ในเดือนกรกฏาคม
จากรายงานสถิติการท่องเที่ยวของกระทรวงการท่องเที่ยวกับพูชา พบว่ากัมพูชาต้อนรับผู้มาเยือนต่างชาติ 3.7 ล้านราย ระหว่างเดือนมกราคมถึงกรกฏาคม ซึ่งในนั้นนักท่องเที่ยวไทยคิดเป็นสัดส่วนกว่า 25.5%
ข้อมูลนี้เน้นย้ำว่าไทยยังคงมีความสำคัญต่อตลาดการท่องเที่ยวของกัมพูชา แม้ข้อพิพาทด้านชายแดนได้จำกัดการท่องเที่ยวลงอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้หากนับรวมช่วง 7 เดือนแรก จำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่ไปเยือนกัมพูชา ลดลง 17.5% เมื่อเทียบกับระดับ 1.14 ล้านคน ของช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
จำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่ลดลง มีขึ้นตามหลังความขัดแย้งที่โหมกระพือขึ้นในวันที่ 28 พฤษภาคม ซึ่งก่อความปั่นป่วนต่อการท่องเที่ยวข้ามชายแดนและกัดเซาะความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ เช่นเดียวกับบริษัททัวร์ โรงแรมและบริษัทขนส่งทั้งหลาย ที่พึ่งพิงลูกค้าชาวไทย
สิ่งที่น่ากังวลคือตัวเลขที่หดตัวมากสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมิถุนายน ครั้งที่คนไทยเดินทางขาเข้าเหลือเพียง 71,585 คน ลดลง 61.1% จากระดับ 184,879 ราย ในเดือนเดียวกันของปี 2024 ตามด้วยเดือนกรกฏาคม ที่ยอดนักเดินทางชาวไทย เหลือแค่ 18,298 ราย ลดลงจากระดับ 192,280 คน ของช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ถึง 90.5%
ตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ถอยหลังลงคลองอย่างฉับพลันนี้ เน้นน้ำถึงความอ่อนแอของกระแสการท่องเที่ยวที่มีต่อคลื่นความช็อคทางภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่มันกำลังก่อแรงกดดันอย่างหนักต่อธุรกิจท้องถิ่นที่พึ่งพิงการท่องเที่ยวข้ามชายแดน ตามรายงานของขแมร์ไทม์ส
ที่น่าวิตกขึ้นไปอีกก็คือ แม้ตัวเลขลดลงอย่างมาก แต่ในช่วง 7 เดือนแรก ไทยยังคงเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวหลักในตลาดการท่องเที่ยวของกัมพูชา ตามมาด้วย เวียดนาม ที่ส่งนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนกัมพูชา 714,614 ราย อย่างไรก็ตามจำนวนชาวเวียดนามขาเข้ากัมพูชาก็ลดลงถึง 5.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เหลือ 757,437 ราย สะท้อนภาวะถดถอยในวงกว้างในความเคลื่อนไหวด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชา
ในทางกลับกัน นักเดินทางจากจีนเพิ่มขึ้นถึง 48.2% จากระดับ 463,980 ราย เป็น 678,509 รายในช่วง 7 เดือนแรก เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว การเติบโตขึ้นเป็นผลจากโครงการริเริ่ม "ปีแห่งการท่องเที่ยวกัมพูชา-จีน 2025" ซึ่งได้รับการส่งเสริมผ่านการเชื่อมต่อด้านการสัญจรอากาศ รณรงค์ประชาสัมพันธ์ด้านการตลาดและความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวทวิภาคี
ขแมร์ไทม์ส ระบุว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้น ช่วยชดเชยความสูญเสียด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชา ที่มีต้นตอจากการลดลงของนักเดินทางจากไทย ช่วยค้ำจุนรายได้ของโรงแรมต่างๆ ภาคบริการขนส่งและธุรกิจอื่นๆที่พึ่งพิงการท่องเที่ยว
Chhay Sivlin ประธานสมาคมผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวกัมพูชา ให้สัมภาษณ์กับขแมร์ไทม์ส เน้นย้ำว่าความขัดแย้งด้านชายแดนกับไทย เป็นปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวระหว่างประเทศลดลงอย่างมาก โดยลดลงราว 21.3% ในเดือนมิถุนายน และ 39.6% ในเดือนกรฏาคม
Sivlin ชี้ว่านักท่องเที่ยวระหว่างประเทศ มีความกังวลมากขึ้นต่อการเดินทางเยือนทั้ง 2 ชาติ เนื่องด้วยมองว่าไม่มีความปลอดภัย สืบเนื่องจากการปะทะทางทหาร "แม้ความขัดแย้งจำกัดอยู่แค่แถวชายแดน แต่บ่อยครั้งนักท่องเที่ยวทึกทักว่าทั้งประเทศไม่ปลอดภัยและตัดสินใจเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางอื่น มุมมองนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการท่องเที่ยวของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามจังหวัดต่างๆที่อยู่ตามแนวชายแดน ที่พึ่งพิงผู้มาเยือนที่ข้ามชายแดนเป็นอย่างมาก"
เธอยังกล่าวเพิ่มเติมว่าบทบาทของไทยในฐานะศูนย์กลางการท่องเที่ยวหลักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวกัมพูชาเช่นกัน "นักท่องเที่ยวระหว่างประเทศจำนวนมาก เลือกเดินทางเยือนประเทศไทยก่อน สืบเนื่องจากพวกเขามีเครือข่ายเที่ยวบินตรงอย่างครอบคลุม แล้วค่อยพิจารณาจุดหมายปลายทางอื่นที่อยู่ใกล้เคียง"
"ปัญหายิ่งเลวร้ายลง เมื่อรัฐบาลไทยออกคำเตือนนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อการเดินทางเยือนกัมพูชา อ้างอิงความกังวลด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งตามแนวชายแดน คำเตือนเหล่านี้ยิ่งเสริมมุมมองในแง่ลบและก่อความเสียหายแก่ชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวของเรา" เธอระบุกับขแมร์ไทม์ส
อย่างไรก็ตาม Sivlin ตั้งความหวังว่าการเปิดทำการของสนามบินนานาชาติเตโช ในวันที่ 9 กันยายนนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยน "การรั้งอันดับ 9 สนามบินใหญ่ที่สุดในโลก ท่าอากาศยานนานาชาติเตโช คาดหมายว่าจะทำได้ตามมาตรฐานระดับโลก และมอบเที่ยวบินตรงแก่ตลาดต้นทางต่างๆนานา ในนั้นรวมถึงกาตาร์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และยุโรป"
"สนามบินแห่งใหม่จะช่วยกัมพูชาลดพึ่งพิงนักท่องเที่ยวขาเข้าจากไทย เปิดทางให้ประเทศของเราดึงดูดนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกเหนือจากการท่องเที่ยวแล้ว ท่าอากาศยานแห่งนี้คาดหมายว่าจะช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างแดน สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างกว้างขวางและสนับสนุนการพัฒนาภาคบริการและการขนส่งของกัมพูชา" เธอระบุ ตามรายงานของขแมร์ไทม์ส สื่อมวลชนกัมพูชา
(ที่มา:ขแมร์ไทม์ส)