xs
xsm
sm
md
lg

สื่อผู้ดีส่องความมั่งคั่ง “สมเด็จฮุน เซน” รวยระดับ 4 พันล้านดอลลาร์ ไลฟสไตล์หรูมีนาฬิกา “ปาเต็ก ฟิลิปป์” เรือนละเกือบ 2.7 ล้านดอลลาร์ จากเงินประจำตำแหน่งแค่ 1,100 ดอลลาร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – สื่ออังกฤษชื่อดังรายงานสมเด็จ ฮุน เซน วัย 72 ปีครองอำนาจมาอย่างยาวนานในกัมพูชาความมั่งคั่งสะสมสุทธิ 500 ล้านดอลลาร์ - 4 พันล้านดอลลาร์ที่ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ พบมีไลฟสไตล์สุดหรูครอบครองนาฬิการาคาแพงหลายเรือนรวม ปาเต็ก ฟิลิปป์ รุ่น Grandmaster Chime 5175 ราคา 2.7 ล้านดอลลาร์แต่ได้เงินประจำตำแหน่งกว่า 1,100 ดอลลาร์ องค์การออกซแฟมของอังกฤษชี้ ช่องว่างความมั่งคั่งระหว่างคนจนคนรวยในกัมพูชาปี 2025 มีมากขึ้น

พร็อพเพอร์ตีแอนด์เดเวลลอปของอังกฤษรายงานเมื่อวันที่ 30 มิ.ย ที่ผ่านมาว่า สมเด็จฮุน เซนกลายเป็นหนึ่งในนักการเมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถสร้างอาณาจักรราชวงศ์ตัวเองอย่างเป็นปึกแผ่นภายในเวลาไม่กี่สิบปีในประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในชาติที่จนมากที่สุดในโลก

คิริโพสต์(KIRIPOST)ของกัมพูชาเคยรายงานเมื่อวันที่ 18 ก.พ ต้นปีอ้างอิงการรายงานขององค์การออกซแฟม อังกฤษประจำกัมพูชาพบว่า ช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยในกัมพูชาในปีนี้สูงขึ้นถึงแม้ว่าเศรษฐกิจกัมพูชาจะเติบโตขึ้นก็ตาม

Phean Sophoan ผู้อำนวยการออกซแฟมประจำกัมพูชาแถลงในตอนหนึ่งว่า

“ช่องว่างระหว่างคนรวยและคนรวยเกิดขึ้นจากที่เราสามารถเห็นว่าคนจนส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสจะได้รับผลประโยชน์จากเศรษฐกิจและทรัพยากรธรรมชาติในกัมพูชา คนจนมีโอกาสน้อยในการจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองเหมือนพวกคนรวมที่ทำกัน”


สื่ออังกฤษรายงานว่า ฮุน เซน วัย 72 ปีปัจจุบันมีความมั่งคั่งสะสมสุทธิที่ยังไม่มีการยืนยันที่ 500 ล้านดอลลาร์ - 4 พันล้านดอลลาร์

และเป็นที่น่าสนใจว่า ฮุน เซน ซึ่งในอดีตได้รับเงินประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาแค่ 1,100 ดอลลาร์ แต่ทว่าทั้งตัวเขาและครอบครัวกลับมีชีวิตหรูหรา ตีกอล์ฟ ดื่มกาแฟสตาร์บัคส์ และมีนาฬิกาสวิสหรูหลายเรือนในความครอบครอง Richard Mille RM57-05 Tourbillon Eagle ราคา1.2 ล้านดอลลาร์ และที่เด็ดกว่านั้นผู้นำกัมพูชาตลอดกาลยังมี ปาเต็ก ฟิลิปป์ รุ่น Grandmaster Chime 5175 ราคาเกือบ 2.7 ล้านดอลลาร์ ต่างจากชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากจนประชาชนส่วนใหญ่ในกัมพูชา

สื่ออังกฤษชี้ว่า เป็นที่น่าสนใจว่าอาณาจักรธุรกิจของตระกูลฮุน เซนนั้นไม่ได้มีอยู่แค่เฉพาะภายในกัมพูชาเท่านั้น แต่ทว่าสมาชิกครอบครัวและคนใกล้ชิดต่างมีความเชื่อมโยงกับทรัพย์สินในหลายประเทศร่ำรวย เป็นต้นว่า สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และแม้แต่ในอังกฤษเองก็ตามผ่านเครือข่ายที่ซับซ้อนของบริษัทบังหน้าและบริษัทออฟชอร์ต่างๆ

นอกจากนี้แล้วสมาชิกครอบครัวฮุน เซน อ้างอิงจากการรายงานของรอยเตอร์ยังเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ราคาแพงในต่างแดนต่างจากสภาพชีวิตประชาชนกัมพูชาทั่วไปที่ต้องประสบกับความยากลำบากทางการเงิน ที่ดินถูกขับไล่ และการจำกัดการเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขและการศึกษา

ทั้งนี้ Global Witness เคยรายงานเมื่อวันที่ 7 ก.ค ปี 2016 พบว่า ตระกูลฮุน เซน เป็นเจ้าของธุรกิจภายในประเทศ 114 แห่งพร้อมกับมูลค่าจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 200 ล้านดอลลาร์

แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า การถือครองที่ดินมหาศาลและบัญชีออฟชอร์ต่างๆที่เชื่อว่าเชื่อมโยงเครือข่ายตระกูลฮุน เซนนั้นไม่ได้รวมอยู่ในตัวเลขนี้

ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายประเมินว่า ผลประโยชน์ธุรกิจของตระกูลฮุน เซนอาจมีไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ โดยอาณาจักรตระกูล
ฮุน เซนสถาปนาตัวเองทั้งจากสื่อกัมพูชา กองทัพ และทางการเงิน ไม่ต่างจากนักการเมืองอื่นๆในภูมิภาค

สื่ออังกฤษชี้ว่า ฮุน เซน มักเปรียบเทียบกับ อับดุล ไทบ์ มาห์หมูด (Abdul Taib Mahmud) ผู้ทรงอิทธิพลแห่งรัฐซาราวักมีความมั่งคั่งสุทธิที่กว่า 20 พันล้านดอลลาร์ในระดับการเมืองภูมิภาค ที่ยากจะเห็นเส้นแบ่งระหว่างกิจการสาธารณะและธุรกิจส่วนตัวรวมไปถึงทรัพย์สินที่แอบซุกไว้

พร็อพเพอร์ตีแอนด์เดเวลลอปรายงานว่า การครองอำนาจของฮุน เซนเกิดขึ้นจากการที่ตระกูลของเขายังคงคุมเนื้อหาข่าวสารที่ออกมาจากช่องทางการสื่อสารสำคัญกัมพูชาที่โดนควบคุม

เครื่อข่ายสื่อล้อมรอบตัวคนวงในของฮุน เซนได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จทางเศรษฐกิจและผลประโยชน์ทางการเมือง

Global Witness ได้ทำการสอบสวนระบุว่า สำนักข่าวเหล่านี้ถูกใช้เพื่อเงียบเสียงฝ่ายตรงข้ามที่วิพากษ์วิจารณ์และในขณะเดียวกันกลายเป็นช่องทางเสนอภาพลักษณ์ด้านบวกของฮุน เซน และลูกชายปัจจุบันนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต

ที่ผ่านมาผู้นำฝ่ายค้านในกัมพูชาโดนปิดปาก สั่งเนรเทศ หรือไม่ก็ส่งเข้าเรือนจำในหลายปีที่ผ่านมาที่ส่งผลต่อการลดพื้นที่ในการแสดงความเห็นทางประชาธิปไตยในกัมพูชาเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น