xs
xsm
sm
md
lg

เพนตากอนลุยล้างบางระลอกใหม่ ปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูง 3 คนรวด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ – คณะบริหารทรัมป์ล้างบางเพนตากอนระลอกใหม่ สั่งปลดผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาโหม และผู้บัญชาการทหารระดับสูงอีก 2 คน โดยที่ยังไม่มีการเปิดเผยสาเหตุของคำสั่งปลด

พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ สั่งปลดพลโทเจฟฟรีย์ ครูส ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาโหม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 ส.ค.) และหลังจากนั้นยังสั่งปลดผู้บัญชาการหน่วยกองหนุนกองทัพเรือ และผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ โดยที่ทั้งสามคนเผยว่า ยังไม่รู้สาเหตุของคำสั่งปลด

มาร์ก วอร์เนอร์ วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตที่เป็นรองประธานคณะกรรมาธิการพิเศษด้านข่าวกรองของวุฒิสภา วิจารณ์ว่า การปลดเจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติอาวุโสครั้งล่าสุดตอกย้ำพฤติกรรมอันตรายของคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการใช้ข่าวกรองเป็นด่านทดสอบความจงรักภักดีแทนที่จะใช้เพื่อปกป้องประเทศ

ความเคลื่อนไหวนี้ดูเหมือนเป็นความพยายามครั้งล่าสุดของคณะบริหารทรัมป์ในการลงโทษอดีตเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ด้านการทหาร ข่าวกรอง และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่มีความเห็นแปลกแยกจากความเห็นของทรัมป์

ทั้งนี้ เดือนเมษายน ทรัมป์ปลดพลเอกทิโมธี ฮ็อก จากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมกับเจ้าหน้าที่สภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวอีกกว่า 10 คน

ย้อนกลับไปเดือนกุมภาพันธ์ เฮกเซธปลดพลเอกซีคิว บราวน์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม รวมทั้งพลเอกและพลเรือเอกอีก 5 คน ซึ่งถือเป็นการล้างบางผู้นำกองทัพที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอเมริกา

วันจันทร์ที่แล้ว (18 ส.ค.) ผู้บัญชาการกองทัพอากาศสหรัฐฯ สร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศว่า เตรียมเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดในเดือนพฤศจิกายน ทั้งที่ยังเหลือวาระในการดำรงตำแหน่งอีก 2 ปี

แม้ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า เหตุใดครูสจึงถูกปลด แต่คำสั่งนี้เกิดขึ้นหลังจากรายงานการประเมินเบื้องต้นของสำนักข่าวกรองกลาโหมรั่วไหลไปถึงสื่อ โดยรายงานดังกล่าวระบุว่า การโจมตีทางอากาศของอเมริกาต่อ

โรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน 3 แห่งเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ทำให้โครงการนิวเคลียร์ของเตหะรานถอยหลังไปแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น ซึ่งตรงข้ามกับที่ทรัมป์กล่าวอ้างว่า เป้าหมายทั้งสามแห่ง “ถูกทำลายราบคาบ”

การรั่วไหลดังกล่าวสร้างความเดือดดาลให้ทรัมป์ ขณะที่ทำเนียบขาวประณามรายงานการประเมินซึ่งถือเป็นความลับสุดยอดว่า “ผิดโดยไม่มีข้อโต้แย้ง” และทรัมป์โจมตีซีเอ็นเอ็น นิวยอร์กไทมส์ และสื่ออื่นๆ ที่ได้รับรายงานที่รั่วไหลนี้ว่า “ขยะ” และ “ข่าวปลอม”

คณะบริหารของทรัมป์จัดการปลดเจ้าหน้าที่ทหารและข่าวกรอง รวมทั้งนักการทูตครั้งใหญ่ โดยระบุว่า เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ลดงบประมาณ และลงโทษสำหรับการนำข่าวกรองมาใช้ประโยชน์ทางการเมืองหรือใช้เป็นอาวุธ

ข่าวการปลดครูซเกิดขึ้นหลังจากเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว ทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ ประกาศว่า กำลังเพิกถอนคำสั่งของทรัมป์ในการอนุญาตให้อดีตเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง 37 คนเข้าถึงข้อมูลลับของรัฐบาล

ก่อนหน้านี้คณะบริหารของทรัมป์ได้เพิกถอนคำสั่งอนุญาตการเข้าถึงข้อมูลลับสำหรับเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่หลายคน ซึ่งรวมถึงอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ชนะทรัมป์ในการเลือกตั้งปี 2020 และอดีตรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ที่แพ้ให้ทรัมป์ในการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว

ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา แกบบาร์ดยังประกาศปรับโครงสร้างสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติครั้งใหญ่ครั้งแรกนับจากที่หน่วยงานแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นมา โดยจะปลดเจ้าหน้าที่กว่า 40% ภายในวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งจะประหยัดงบประมาณได้ถึงปีละกว่า 700 ล้านดอลลาร์
กำลังโหลดความคิดเห็น