ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ บอกกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในวันจันทร์(18ส.ค.) ว่าอเมริกาจะช่วยรับประกันความมั่นคงแก่เคียฟ ในข้อตกลงหนึ่งใดที่ยุติสงครามกับมอสโก แต่ขอบเขตความช่วยเหลือใดๆนั้นยังไม่ชัดเจน พร้อมเผยเขาได้เริ่มจัดเตรียมการซัมมิตสันติภาพระหว่างผู้นำเคียฟกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ตามหลังการเจรจาอันเข้มข้นกับ เซเลนสกีและพวกผู้นำยุโรป ที่ทำเนียบขาว
ทรัมป์ เผยว่าเขาได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับปูติน ผู้ซึ่งเพิ่งพบปะกันไปในอะแลสกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามหลังการประชุม "ที่ดีมากๆ" กับพวกผู้นำยุโรปและประธานาธิบดียูเครน ที่ทำเนียบขาว "ในช่วงท้ายของการประชุม ผมโทรศัพท์หาปูติน และเริ่มเตรียมการสำหรับการประชุมระหว่างประธานาธิบดีปูตินและประธานาธิบดีเซเลนสกี แต่สถานที่ยังคงสรุปกันอีกครั้ง" ผู้นำสหรัฐฯเขียนบนทรุตช์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง
ประธานาธิบดีทรัมป์ วัย 79 ปี เผยต่อว่า หลังจากนั้นตัวเขาเองจะร่วมประชุมซัมมิต 3 ฝ่ายกับผู้นำยูเครนและผู้นำรัสเซีย "ทุกคนพึงพอใจมากๆ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของสันติภาพสำหรับรัสเซียและยูเครน" ทรัมป์เขียน ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดกับประเด็นนี้เปิดเผยกับเอเอฟพี ปูติน ได้บอกกับ ทรัมป์ ว่าเขาพร้อมพบปะเจรจากับ เซเลนสกี เช่นกัน
ผู้นำสหรัฐฯยังเผยด้วยว่าเขาได้พูดคุยหารือเกี่ยวกับการรับประกันความมั่นคงแก่ยูเครน ส่วนหนึ่งในข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย โดยยุโรปจะรับบทบาทเป็นแกนนำ ภายใต้ความร่วมมือกับสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ บอกว่า ปูติน เห็นด้วยกับการที่ตะวันตกจะรับประกันความมั่นคงแก่ยูเครน แต่ผู้นำรัสเซียปฏิเสธความเป็นไปได้ต่อความฝันที่มีมานานของเคียฟ ในการเข้าร่วมพันธมิตรนาโต "ระหว่างประชุมกัน เราหารือเกี่ยวกับการรับประกันความมั่นคงแก่ยูเครน ซึ่งจะรับประกันโดยบรรดาชาติต่างๆทั้งหลายในยุโรป ภายใต้ความร่วมมือกับอเมริกา" ทรัมป์ระบุ
ทำเนียบขาวถูกใช้เป็นสถานที่ของการประชุมวาระพิเศษครั้งนี้ ระหว่าง ทรัมป์ กับ เซเลนสกี ร่วมด้วยบรรดาผู้นำของสหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ฟินแลนด์, คณะกรรมาธิการยุโรปและนาโต นอกจากนี้แล้ว เซเลนสกี ยังได้พูดคุยแบบตัวต่อตัวกับ ทรัมป์ ในห้องทำงานรูปไข่ ถือเป็นการเจอหน้ากันครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดศึกวิวาทะกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
คราวนี้บรรยากาศเป็นไปด้วยความสงบกว่าเดิมมาก และประธานาธิบดียูเครน บอกว่าการประชุมถือว่าดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ขณะที่ ทรัมป์ แสดงมุมมองในแง่บวกเกี่ยวกับโอกาสยุติการรุกรานของรัสเซีย "ในช่วงสัปดาห์หรือ 2 สัปดาห์ข้างหน้า เราจะรู้ว่าเราจะสามารถคลี่คลายปัญหานี้ หรือการสู้รบอันน่าสยดสยองจะเดินหน้าต่อไป" ทรัมป์กล่าว
อย่างไรก็ตามการปรากฏตัวของพวกผู้นำยุโรป ตอกย้ำให้เห็นว่ายังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ ทรัมป์ จะกดดันให้เคียฟยอมอ่อนข้อแก่มอสโก
ทรัมป์ กดดัน ยุเครน ก่อนหน้าการประชุม ให้ยอมสละไครเมียและละทิ้งเป้าหมายเข้าร่วมนาโต ซึ่งต่างเป็นข้อเรียกร้องหลักของปูติน ทั้งนี้ระหว่างการประชุมที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์(18ส.ค.) ทรัมป์ยังพูดขึ้นมาว่า "จำเป็นต้องมีการพูดคุยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการแลกเปลี่ยนดินแดนระหว่างรัสเซียกับยูเครน"
รายงานข่าวระบุ ปูติน กดดันให้ ยูเครน ยอมสละภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออก ซึ่งพื้นที่บางส่วนยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน แลกกับการตรึงแนวหน้าในที่อื่นๆ อย่างไรก็ตามทางเคียฟยืนกรานปฏิเสธ
กระนั้นพวกผู้นำยุโรปเรียงแถวกันยกย่องทรัมป์ พร้อมกับเรียกร้องสันติภาพที่ยั่งยืนเพื่อยุติการรุกรานของรัสเซีย "ผมตื่นเต้นมาก ขอให้ผลอออกมาดีที่สุดในวันนี้" มาร์ค รุตต์ กล่าว ในขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯเดินไปรอบโต๊ะ ขอความคิดเห็นของพวกผู้เข้าร่วมประชุม
อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีเอ็นมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ขอให้มีการประชุม 4 ฝ่ายแยกกัน ในนั้นมีสหภาพยุโรปเข้าร่วมด้วย เพื่อจัดการกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นบริเวณบันไดหน้าบ้านของพวกเขา
ส่วน ฟรีดริช เมร์ซ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี มีความเห็นต่างจากทรัมป์ เรียกร้องให้ทำข้อตกลงสันติภาพเต็มรูปแบบ แทนที่จะเป็นเพียงแค่ข้อตกลงหยุดยิงในทันที ทั้งนี้หลังการเจรจา เขายังคงแสดงความคิดเห็นอย่างระมัดระวัง บอกว่ายูเครนต้องไม่ถูกบังคับให้ยอมสละดินแดน
(ที่มา:เอเอฟพี)