พวกผู้นำยุโรปในวันอาทิตย์(17ส.ค.) เปิดเผยว่าจะเข้าร่วมกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในการเจรจากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันจันทร์(18ส.ค.) ในความพยายหาทางยุติการรุกรานของรัสเซีย
ทรัมป์ พบปะกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในอะแลสกา ไปเมื่อวันศุกร์(15ส.ค.) แต่ล้มเหลวในการผ่าทางตันใดๆเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง แม้ทาง สตีฟ วิตคอฟฟ์ บอกว่าทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องมอบคำรับประกันความมั่นคงที่หนักแน่นแก่ยูเครน
อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ยกย่องข่าวดังกล่าว แต่ เซเลนสกี ระบุระหว่างแถลงข่าวร่วมกับเธอในบรัสเซลส์ ปฏิเสธแนวคิดของรัสเซียที่เสนอมอบการรับประกันความมั่นคงแก่ประเทศของเขา "สิ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์ พูดเกี่ยวกับการรับประกันความมั่นคง มีความสำคัญมากกว่าสิ่งที่ ปูติน คิดมาก เพราะว่า ปูติน จะไม่มอบการรับประกันความมั่นคงใดๆ"
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา เซเลนสกี เขียนบนสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่าข้อเสนอของสหรัฐฯในเรื่องของการรับประกันความมั่นคง นั้นถือเป็นข้อเสนอ "ประวัติศาสตร์"
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้ซึ่งจะเข้าร่วมการประชุมในวอชิงตัน ร่วมกับ ฟอน แดร์ ไลเอิน และคนอื่นๆ บอกว่าพวกผู้นำยุโรปจะสอบถามวอชิงตัน เกี่ยวกับขอบเขตการรับประกันความมั่นคง และยืนยันว่าพวกเขาพร้อมสนับสนุนการมอบคำรับประกันด้านความมั่นคงแห่งยูเครน ในข้อตกลงสันติภาพใดๆ
ในเรื่องเกี่ยวกับจุดยืนของมอสโก เขากล่าวว่า "มีเพียรัฐเดียวที่จะเป็นผู้ยอมจำนนในข้อเสนอสันติภาพ นั่นก็คือรัสเซีย" มาครงระบุ
มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เรียกมันว่าเป็นการโกหกที่น่ารังเกียจในถ้อยแถลงที่เผยแพร่บนเทเลแกรมในวันอาทิตย์(17ส.ค.) พร้อมระบุมอสโกเสนอทางออกแห่งสันติของความขัดแย้ง สำหรับกรอบเวลา 7 ปี ภายใต้เงื่อนไขต่างๆตามข้อตกลงมินสก์ แต่ มาครง พยายามโน้มน้าวยูเครนว่าพวกเขาสามารถเอาชนะในสนามรบได้ แม้เขารู้ดีว่ามันเป็นสิ่งที่ "เป็นไปไม่ได้"
ทรัมป์ ซึ่งเปลี่ยนท่าทีหลังการประชุมซัมมิตที่อะแลสกา โดยบอกว่าเวลานี้เขากำลังเสาะหาข้อตกลงสันติภาพ ไม่ใช่แค่ข้อตกลงหยุดยิง ได้โพสต์ข้อความบนทรุชต์โซเชียล อีกรอบในวันอาทิตย์(17ส.ค.) ะบุว่า "มีความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในเรื่องรัสเซีย คอยติดตามกันต่อไป" โดยปราศจากให้รายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ
ท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของทรัมป์ในเรื่องข้อตกลงสันติภาพ สอดคล้องกับจุดยืนที่มีมาอย่างยาวนานของปูติน กระตุ้นให้ยูคเรนและบรรดาพันธมิตรยุโรปส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ามันเป็นหนทางซื้อเวลาของผู้นำรัสเซีย ในระหว่างที่พยายามรุกคืบในสนามรบเพิ่มเติม
เซเลนสกี ยังเผยด้วยว่าไม่พบเห็นสัญญาณใดๆที่ผู้นำรัสเซียจะพร้อมเจรจากับเขาและทรัมป์ ในการประชุมซัมมิต 3 ฝ่าย ที่นำเสนอโดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ
บรรดาผู้นำที่มุ่งหน้าสู่วอชิงตันในวันจันทร์(18ส.ค.) เพื่อปรากฏตัวเคียงข้างเซเลนสกี เรียกตนเองว่าเป็น "แนวร่วมแห่งความตั้งใจ" โดยนอกเหนือจาก ฟอน แดร์ ไลเอิน และ มาครง ยังมี เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร, ฟรีดริช เมร์ซ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี, มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต, จอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีอิตาลี และ อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ ประธานาธิบดีฟินแลนด์
ในวันอาทิตย์(17ส.ค.) พวกเขาได้มีการประชุมทางไกล เพื่อเตรียมพร้อมจุดยืนร่วมกัน
พวกผู้นำยุโรปแสดงความไม่สบายใจต่อการที่ ทรัมป์ เป็นฝ่ายยื่นมือเข้าหา ปูติน ผู้ซึ่งเรียกร้อง ยูเครน ละทิ้งความทะเยอทะยานในการเข้าร่วมอียูและนาโต ขณะที่พวกเขาถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมการประชุมซัมมิตระหว่างทรัมป์กับปูติน
สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นว่า กระบวนการนำเสนอคำรับประกันด้านความมั่นคงที่ "เป็นตัวเปลี่ยนเกม" จะรวมถึงการยอมสละดินแดน
อ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่รายหนึ่งที่ได้รับฟังรายงานสรุปเกี่ยวกับการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่าง ทรัมป์ กับ เซเลนสกี และพวกผู้นำยุโรป ระหว่างที่เขาบินกลับจากอะแลสกา เอเอฟพีระบุว่าผู้นำสหรัฐฯสนับสนุนข้อเสนอของปูติน ที่ว่า รัสเซีย จะเข้าควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดใน 2 แคว้นทางตะวันออกของยูเครน และกับการตรึงแนวหน้าไว้ ณ สถานะปัจจุบัน ในอีก 2 แคว้น
"ข้อเรียกร้องของปูติน โดยพฤตินัยแล้วคือการขอให้ยูเครนออกจากภูมิภาคดอนบาส พื้นที่ที่ประกอบด้วยแคว้นโดเนสตก์และลูฮันสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียบางส่วน" แหล่งข่าวระบุ
ในการแลกเปลี่ยน กองกำลังรัสเซียจะหยุดปฏิบัติการจู่โจมในแคว้นเคียร์ซอน เมืองท่าริมทะเลดำและแคว้สชาโปริซเซีย ทางใต้ของยูเครน บริเวณที่เมืองหลักหลายแห่งยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน
หลายเดือนหลังจากเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบ ทางรัสเซียในเดือนกันยายน 2022 กล่าวอ้างผนวก 4 แคว้นของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน แม้ทหารของพวกเขายังไม่สามารถควบคุมแคว้นเหล่านั้นได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด "ประธานาธิบดียูเครนปฏิเสธถอนกำลังออกจากดอนบาส" แหล่งข่าวระบุ
ท่ามกลางความพยายามทางการทูต ในขณฯะเดียวกับการสู้รบในยูเครนยังคงดำเนินต่อไป โดยที่ทั้งเคียฟและมอสโก ต่างใช้โดรนโจมตีอีกฝ่ายในวันอาทิตย์(17ส.ค.)
(ที่มา:เอเอฟพี)