เอเจนซีส์ - ร้านสตาร์บัคส์ในเกาหลีใต้ล่าสุดออกกฎประกาศห้ามลูกค้านำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกขนาดใหญ่ทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เครื่องปรินเตอร์ และที่คาดไม่ถึงฉากกั้นสำนักงานเพื่อความเป็นส่วนตัวเข้าร้านเพื่อนั่งทำงานยาว
บีบีซีของอังกฤษรายงานวันพุธ(13 ส.ค)ว่า ในเกาหลีใต้จากการที่มีคนเป็นจำนวนมากเลือกที่จะทำงานจากบ้านหรือจากร้านกาแฟบรรยากาศดี เป็นต้นว่า สตาร์บัคส์ ส่งผลทำให้ทางร้านกาแฟแฟรนไชน์ชื่อดังจากสหรัฐฯพยายามจะหาความสมดุลระหว่างการยังคงเป็นร้านกาแฟที่ต้อนรับลูกค้าที่ต้องการเข้ามาดื่มกาแฟและลูกค้าที่ต้องการเข้าร้านเพื่อมาเปลี่ยนบรรยากาศทำงานที่นี่
สตาร์บัคส์แถลงว่า อย่างไรก็ตามคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ไอแพด และโทรศัพท์มือถือยังคงได้รับการต้อนรับสามารถนำเข้าร้านได้ แต่ไม่ใช่สิ่งของขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่และจำกัดที่นั่ง
การประกาศนโยบายใหม่ของสตาร์บัคส์ เกาหลีใต้เกิดขึ้นหลังเทรนด์ที่กำลังเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่วิกฤตโควิด-19ที่ผู้คนต้องทำงานหรือเรียนหนังสือทางไกล โดยเทรนด์ดังกล่าวพบว่ามีผู้คนจำนวนมากขึ้นหันมาใช้พื้นที่ในร้านคาเฟ่เช่น สตาร์บัคส์ เป็นเสมือนออฟฟิศสำนักงานทีเดียว
สื่ออังกฤษชี้ว่า คากงโจค (cagongjok) เป็นคำที่เรียกคนกลุ่มนี้ที่สื่อไปในเชิงลบนั้นกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมเกาหลีใต้
โดยมีบางส่วนออกมาวิจารณ์ว่า คนเหล่านี้ที่ใช้ร้านกาแฟเป็นออฟฟิศนั้นเป็นเหมือนพวกใช้ไฟฟรี
ชาวเน็ตเกาหลีใต้ออกมาแสดงความเห็นทางโซเชียลมีเดียต่อการประกาศทางนโยบายร้านว่า
“ดีมาก” หนึ่งในผู้ใช้เกาหลีกล่าวและเสริมว่า “เวลานี้สตาร์บัคส์ได้เริ่มไปแล้ว คงจะมีร้านคาเฟ่อื่นๆทำตาม”
บีบีซีรายงานว่า โฆษกสตาร์บัคส์กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “สตาร์บัคส์ เกาหลีใต้ได้ทำการปรับปรับนโยบายของร้านเพื่อที่ว่าลูกค้าทุกคนจะสามารถมีประสบการณ์ที่น่ายินดีในการสามารถเข้าไปในร้าน”
ความเคลื่อนไหวของสตาร์บัคส์ในเกาหลีใต้สะท้อนถึงร้านคาเฟ่ทั่วโลกรวมถึงในอังกฤษที่มีบางส่วนได้ออกนโยบายมีเป้าหมายไปที่หยุดบรรดากลุ่มคนที่ทำงานทางไกลจากการจองโต๊ะและการจำกัดคนที่จะเข้ามาใช้บริการภายในร้านหากมีการนั่งนานจนเกินเหตุ