คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของผู้นำเกาหลีเหนือ ออกมาแถลงวันนี้ (14 ส.ค.) ว่าประเทศของเธอไม่เคยถอดเครื่องขยายเสียงที่ใช้เผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อบริเวณชายแดนเกาหลีใต้ออก และจะไม่ทำเช่นนั้นด้วย พร้อมเย้ยหยันแนวคิดของเกาหลีใต้ที่มองว่าเปียงยางกำลังสนองตอบนโยบายปรองดองว่าเป็นเพียง “ฝันลมๆ แล้งๆ”
คิม ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งอาวุโสในพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ ยังบอกด้วยว่า การปรับเปลี่ยนแผนซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ นั้น “ไร้ประโยชน์” และไม่ได้เปลี่ยนแปลงเจตนาอันมุ่งร้ายต่อเกาหลีเหนือ
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ คิม ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นกระบอกเสียงแทนพี่ชายของเธอได้ออกมาปฏิเสธความพยายามของผู้นำเกาหลีใต้คนใหม่ที่ต้องการลดความตึงเครียดลง
“ดิฉันมั่นใจว่า นโยบายที่โซลมีต่อเกาหลีเหนือยังไม่เปลี่ยนแปลง และคงจะไม่มีวันเปลี่ยนด้วย” สำนักข่าว KCNA อ้างคำพูดของ คิม
กองทัพเกาหลีใต้ระบุว่าตรวจพบความเคลื่อนไหวของทหารเกาหลีเหนือที่เข้ามารื้อลำโพงชายแดนบางส่วนออก โดยเป็นการกระทำตามอย่างโซลซึ่งดำเนินการอย่างเดียวกันไปแล้วก่อนหน้านั้น
คณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ออกมายืนยันผลการประเมินกิจกรรมชายแดนที่พบในวันนี้ (14) พร้อมย้ำว่าจะเฝ้าติดตามสถานการณ์ต่อไปอย่างใกล้ชิด
ลี ซุงจุน โฆษกกองทัพเกาหลีใต้ กล่าวว่า ในการตีความถ้อยแถลงของเกาหลีเหนือนั้นต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เพราะอาจนำไปสู่การเข้าใจผิด และที่ผ่านมาเปียงยางเคยออกมา “อ้างในสิ่งที่ไม่เป็นความจริงหลายครั้ง” ซึ่งเขาไม่ขอลงรายละเอียด
ลี ยังปฏิเสธที่จะตอบตรงๆ เกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า เกาหลีเหนือปลดลำโพงออกแค่ “ตัวเดียว” จากจำนวนหลายสิบตัวที่ติดตั้งเอาไว้ตลอดแนวชายแดน
ในช่วงที่อดีตประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล เป็นผู้นำเกาหลีใต้ ฝ่ายโซลเองได้เปิดเครื่องขยายเสียงวิพากษ์วิจารณ์ระบอบคิมอย่างดุเดือด ในแคมเปญโฆษณาชวนเชื่อที่ทำให้เปียงยางไม่พอใจอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายในเกาหลีใต้เริ่มมีความหวังในแง่ดีว่าเกาหลีเหนืออาจจะตอบสนองท่าทีเป็นมิตรของประธานาธิบดี อี แจมยอง ที่ต้องการลดความตึงเครียดชายแดน หรือแม้กระทั่งขอรื้อฟื้นการเจรจากันอีกครั้ง
คิม โยจอง ยังคงยืนยันเสียงแข็งว่าเกาหลีเหนือไม่ต้องการร่วมโต๊ะเจรจากับสหรัฐฯ และกระแสข่าวที่ว่าการพูดคุยอาจเป็นไปได้ล้วนแต่เป็นการคาดเดาผิดๆ ทั้งสิ้น
ฮอง มิน นักวิเคราะห์อาวุโสจากสถาบันเพื่อการรวมชาติในเกาหลีใต้ ระบุว่า เปียงยางน่าจะคาดหวังให้เกาหลีใต้ต้องแสดงท่าทีประนีประนอมมากกว่านี้ และอาจจะเร่งพัฒนาการดังกล่าวไปพร้อมๆ กับการทำตามคำมั่นสัญญาของผู้นำ คิม ที่เคยประกาศตัดความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้แบบถาวร
ที่มา: รอยเตอร์