ขณะที่ ดัชเชสเมแกน พระชายาของปรินซ์แฮร์รี ฉลองวันเกิด 44 กะรัตอย่างเงียบเชียบเงียบกริบผิดปกติเมื่อ 4 สิงหาคม ที่ผ่านมา ท่านผู้ชมซึ่งติดหนึบหนับกับดราม่าพระราชวงศ์อังกฤษสายเดอะซัสเซกซ์ ทั้งสองฟากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก พากันจับตาว่าเธอและพระสวามีจะต้องเจอกับเรื่องร้ายอันใดบ้างในอนาคตอันใกล้ สกู๊ปของฟ็อกซ์นิวส์ สื่อค่ายใหญ่ยักษ์ฝั่งอเมริกา ตั้งประเด็นนี้ขึ้นมาภายในสภาพการณ์ไม่สู้ดีเรื้อรังกว่าหนึ่งปี ที่แหล่งรายได้ของพระครอบครัวซัสเซกซ์ตกอยู่ในทิศทางดิ่งเหวมาโดยตลอด
และแล้วปริศนาบาดจิตดังกล่าวที่ฟ็อกซ์นิวส์ถามแทนใจท่านผู้ชมทั่วโลก ได้ปรากฏคำตอบแล้ว โดยเป็นเรื่องร้ายระลอกแรกในวันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม 2025 เมื่อเน็ตฟลิกซ์ เจ้าพ่อระดับโลกแห่งธุรกิจสตรีมมิ่งความบันเทิงสู่ครัวเรือน แสดงท่าทีชัดเจนเป็นครั้งแรกว่ามีนโยบายการทำธุรกิจกับคู่ค้าไฮโซอย่างดัชเชสเมแกนแอนด์ดยุกแฮร์รี อย่างไร
ในการนี้ นโยบายของเน็ตฟลิกซ์ปรากฏเป็น “การตีตัวออกห่าง” เดลิเมลออนไลน์รายงาน พร้อมชี้ว่า แม้จะใช้กลยุทธ์ถอยห่าง แต่ก็จะล็อกเมแกนและปรินซ์แฮร์รีไว้ไม่ให้โผไปซบบริษัทแพลตฟอร์มคู่แข่งอื่นๆ ทั้งนี้ กลยุทธ์ดังกล่าวจะเป็นผลดี 108% สำหรับเน็ตฟลิกซ์ แต่เม็ดเงินที่ควรไหลไปยังพระตำหนักมอนเตซิโต จะลดฮวบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีสำหรับอดีตสมาชิกพระราชวงศ์คู่นี้ ซึ่งอยู่ในภาวะจนตรอกทางการเงินอย่างเรื้อรังกว่าหนึ่งปีครึ่งแล้ว
โดยปัญหาทางการเงินก่อตัวนับจากเดือนมิถุนายน 2023 เมื่ออดีตสมาชิกพระราชวงศ์อังกฤษถูกสปอติฟาย ยักษ์ใหญ่ค่ายสตรีมมิงเพลงและวิดีโอ ฉีกสัญญาธุรกิจมูลค่า 22 ล้านดอลลาร์ อันเป็น 1 ใน 3 แหล่งรายได้หลักของเดอะซัสเซกซ์
สถานการณ์ไม่โอเคทางการเงินอยู่ในภาวะเรื้อรังต่อเนื่อง โดยปรากฏว่าเมื่อถึงปลายปี 2023 เดอะซัสเซกซ์ตกเป็นข่าวว่ามีผลดำเนินงานธุรกิจขาดทุนสูงสุดกว่าใครในแวดวงฮอลลีวูด และต่อมาในช่วงต้นปี 2024 ปรินซ์แฮร์รีพยายามเข้าไปง้อขอคืนดีกับพระราชบิดา พร้อมทั้งลงทุนอย่างมากมายเพื่อทำรีแบรนด์ให้แก่ภาพลักษณ์ใหม่ของเดอะซัสเซกซ์ให้เป็นนักบุญ แต่การลงทุนครั้งนั้นไม่ประสบความสำเร็จ
จดจนถึงเดือนมกราคมปีปัจจุบัน สถานการณ์ย่ำแย่หนักข้อไปอีก เมื่อข้อตกลงธุรกิจหนังสือแนวแฉสนั่นฟาดฟันพระราชตระกูลวินด์เซอร์ มูลค่า 20 ล้านดอลลาร์ที่ทำไว้กับ เพนกวินแรนดอมเฮาส์ ได้ถูกเลิกรากันไปเงียบๆ หลังจากมีข่าวสะพัดว่าเพนกวินแรนดอมเฮาส์อดทนไม่ไหว จ่ายมัดจำให้เมแกนและปรินซ์แฮร์รีไปก้อนมหึมา ได้หนังสือซี้ดซ้าด เรื่อง Spare มาเรื่องเดียว แล้วปรินซ์และดัชเชสก็ไม่ขยับทำอะไรให้อีกเลย
หนำซ้ำ ค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายด้วยกลยุทธ์ลดราคา 50% ทั้งในช่วงพรีเซล และทั้งการลด 50% ในร้านหนังสือในช่วงหลายๆ สัปดาห์แรกๆ ที่หนังสือวางแผง เป็นค่าใช้จ่ายที่ปรินซ์แฮร์รีต้องรับผิดชอบ แต่ก็ไม่แน่ชัดว่า ได้มีการรับผิดชอบชำระกันไปหรือไม่ และเพียงใด
สองปมนี้เป็นเรื่องเงินเรื่องทองของบาดใจ และภายในไม่ถึงหนึ่งปีที่หนังสือ Spare ออกสู่บรรณพิภพ ก็ปรากฏเป็นข่าวฮือฮาในแวดวงผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์บนช่องยูทูปว่า สำนักพิมพ์เพนกวินแรนดอมเฮาส์เรียกร้องของเงินมัดจำคืน
ผลปรากฏว่าฝ่ายสำนักพิมพ์น่าจะได้รับตามข้อเรียกร้องจนพ้นวิกฤติและอยู่ในระดับที่พอจะประคองตัวได้ ข่าวอื้อฉาวฮือฮาจึงโรยราไป
ดังปรากฏเป็นประเด็นควันหลงในข่าวของดิเอ็กซ์เพรสและอีกหลายค่ายข่าวในเวลาต่อมาว่า สัญญาธุรกิจนี้ถูกยกเลิกไปอย่างเงียบๆ
กระนั้นก็ตาม สายสัมพันธ์ยังไม่ถึงกับขาดอย่างไร้เยื่อใย เพราะเพนกวินแรนดอมเฮาส์ ได้รับความหวังว่าหากดัชเชสเมแกนลุกขึ้นหย่าร้างตัดขาดจากปรินซ์แฮร์รี เพนกวินแรนดอมเฮาส์จะได้รับต้นฉบับหนังสือแฉเล่มประวัติการณ์จากดัชเชส ซึ่งจะทำเงินถล่มทลายอย่างแน่นอน
ความขัดแย้งยุติ แต่วิกฤติการเงินของพระตำหนักมอนเตซิโตยังเรื้อรัง เพราะมีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งค่าผ่อนคฤหาสน์มอนเตซิโต ค่าจ้างหน่วยรักษาความปลอดภัยวันละ 3 กะ 7 วันต่อสัปดาห์ 30-31 วันต่อเดือน ค่าเงินเดือนของทีมปฏิบัติการต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทีมประสานงานสื่อมวลชนทั้งในสหรัฐอเมริกา และในอังกฤษ ค่าจ้างพนักงานดูแลสระว่ายน้ำ สนามเทนนิส และพื้นที่สวนอันไพศาลของคฤหาสน์ ตลอดจนดูแลห้องนอน 9 ห้อง ห้องน้ำ 16 ห้อง อีกทั้งค่าใช้จ่ายส่วนตัวเสื้อผ้าหน้าผมที่ต้องเป็นแบรนด์เนมระดับโลกหลักหมื่นดอลลาร์ ถอยใหม่ทุกสัปดาห์ ค่าเช่าเหมาเครื่องบินเพื่อเดินทางในประเทศและต่างประเทศ ฯลฯ
รายจ่ายมหาศาล แต่รายได้มีแต่จะหดหาย นี่คือวิกฤติการเงินที่ดัชเชสและดยุกแห่งซัสเซกต์ยังปรับตัวไม่ได้ โดยเมื่อเคลียร์กับเพนกวินแรนดอมเฮาส์ได้ในปลายปี 2023 พอมาถึงปี 2024 ก็เหลือแหล่งรายได้หลักเพียงแหล่งเดียว คือ สัญญาจ้างผลิตภาพยนตร์ซีรีส์ที่มีอยู่กับเน็ตฟลิกซ์
กระนั้นก็ตาม เน็ตฟลิกซ์เต็มไปด้วยความคับข้องอุรา เซ็นสัญญากันตั้งแต่กันยายน 2020 และมอบเงินมัดจำมหาศาลที่กระซิบกันว่า 20 ล้านดอลลาร์ แต่เพิ่งจะได้ผลิตภัณฑ์ชุดแรกมาให้เน็ตฟลิกซ์ขายแก่สมาชิก 5 ล้านรายทั่วโลก ในเดือนพฤศจิกายน 2022 คือ ซีรีส์ชุด Harry and Meghan และหลังจากนั้น ในปี 2024 เน็ตฟลิกซ์ก็กดดันปรินซ์แฮร์รีกับพระชายาให้ใส่ใจผลิตผลงานมาป้อนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ลงเอยคือ ได้โปรเจ็กต์ที่ 4 เรื่อง Polo ซึ่งปรินซ์แฮร์รีการันตีว่าจะเจาะลึกโลกมืดของวงการโปโลขี่ม้า
ความสัมพันธ์ระหว่างเน็ตฟลิกซ์กับเดอะซัสเซกซ์ตลอดปี 2024 จึงถูกแทรกเป็นระยะๆ ด้วยคำถามบาดจิตว่า เหลือเวลาอีกปีกว่า แต่เมแกนและปรินซ์แฮร์รียังสร้างผลิตภัณฑ์ให้เน็ตฟลิกซ์นิดเดียว โดยทำรายได้เพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับเงินมัดจำที่รับไปแล้ว
ดังนั้น จึงหมั่นถามกันว่าเมื่อสัญญาจ้างผลิตคอนเทนต์ 5 ปี มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ หมดอายุลงในเดือนกันยายน 2025 สัญญาราคาแพงจัดจ้านนี้จะได้รับการต่ออายุล่ะหรือ
พร้อมนี้ จะปรากฏข่าวปล่อยบ่อยครั้งว่าเน็ตฟลิกซ์น่าจะไม่ต่อสัญญา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน ปี 2025 จดจนในเดือนกรกฎาคม ก็ย้ำข่าวปล่อยอีกหลายระลอกเพื่อส่งสัญญาณปิดสวิตช์และยอมตัดขาดทุนกันเลย
ในที่สุด ณ วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม เน็ตฟลิกซ์ร่วมกับอาร์ชแวลล์ โปรดักชันส์ ของดยุกแฮร์รีและดัชเชสเมแกน ส่งใบแถลงข่าวไปยังสื่อมวลชนทั้งปวงว่า ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงธุรกิจฉบับใหม่อายุหลายปี ที่เป็นแบบ First Look Deal ซึ่งอาร์ชแวลล์ โปรดักชันส์ จะนำเสนอโปรเจ็กต์ ภาพยนตร์และหนังทีวีให้เน็ตฟลิกซ์ได้พิจารณาเลือกซื้อเป็นเจ้าแรก ก่อนจะนำไปเสนอแก่แพลตฟอร์มบันเทิงเจ้าอื่นๆ
เดลิเมลออนไลน์และสื่อค่ายใหญ่ยักษ์ทั้งในฟากอังกฤษและฝั่งอเมริกา พากันชี้ว่าเน็ตฟลิกซ์ตีตัวออกห่าง พร้อมกับลดเกรดสัญญาธุรกิจที่ทำกับปรินซ์แฮร์รีและดัชเชสเมแกน จากเดิมที่เคยพะนอกันเวอร์วังประมาณว่า ปรินซ์ครับ...โปรดรับเช็คมัดจำหลายสิบล้านดอลลาร์ไปเป็นเบื้องต้นก่อนนะครับ มาเป็นข้อตกลงที่ว่า ส่งงานมาให้ดูก่อน แล้วผมจะติดต่อกลับไป หรือก็คือ จากเกรดพรีเมียมที่ฉลองกันด้วยแชมเปญ ดิ่งลงมาเป็นแค่เกรดสปาร์กลิ้งไวน์
ในการถอนถอยออกห่างนี้ เน็ตฟลิกซ์ “ถอนตัว” ออกจากโมเดลเดิมที่เหมาซื้อผลผลิตทั้งหมด พร้อมกับตั้งงบรวมในการรับซื้อตลอด 5 ปี ให้สูงมหาศาล เพื่อล่อใจเดอะซัสเซกซ์ให้อยากผูกมัดตนเองอยู่กับเน็ตฟลิกซ์นานๆ พร้อมกันนี้ เน็ตฟลิกซ์ “เลิกพะนอเดอะซัสเซกซ์” คือ เลิกขาดแล้วกับมาตรการมอบเงินมัดจำก้อนโต ซึ่งหมายจะหนุนเสริมแรงจูงใจให้อยากเร่งสร้างผลผลิตเข้าไปป้อนแพลตฟอร์ม
ทั้งนี้ เน็ตฟลิกซ์ใช้ข้อตกลงธุรกิจรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “First-Look Agreement” คือ ให้สิทธิ์แก่เน็ตฟลิกซ์ที่จะพิจารณาว่าจะรับซื้อโปรเจ็กต์ของเดอะซัสเซกซ์ก่อนบริษัทอื่น ซึ่งถ้าเน็ตฟลิกซ์สนใจโปรเจ็กต์ไหน ก็ค่อยเข้าไปช็อปปิ้งเป็นรายชิ้น ในทางตรงข้าม ถ้าเน็ตฟลิกซ์ตัดสินใจไม่รับซื้อ ทางอาร์ชแวลล์ โปรดักชันส์ จึงจะสามารถนำไปเสนอขายแก่บริษัทอื่นๆ เดลิเมลออนไลน์อธิบายไว้อย่างนั้น
ความเปลี่ยนแปลงที่ยกเลิกเงื่อนไขหว่านเงินเข้าไป แล้วหันไปใช้เงื่อนไขใหม่ที่ไม่เอื้อให้โปรดักชันเฮาส์ประเภทที่ไม่ขยันผลิตงาน ได้รับเงินไปใช้ฟรีๆ เหล่านี้ นับว่าย่ำแย่หนักหนาสำหรับเมแกนและปรินซ์แฮร์รี เมื่อเทียบกับสัญญาธุรกิจฉบับแรก
“เน็ตฟลิกซ์” ต้องหักดิบเยี่ยงนี้ เพราะบาดเจ็บหนักจากสัญญาเดิมที่จ่ายมัดจำให้กว่า $20 ล้าน แต่ในรอบ 5 ปี กลับได้ซีรีส์ที่ต้องการแค่ 1 ชุด กับซีรีส์อื่นๆ อีกแค่ 4 ชุด ลงเอยว่าขาดทุน แต่ก็ต้องเหน็บเดอะซัสเซกซ์ไว้ เผื่อมีการหย่าร้าง ก็แน่ใจเลยว่าจะได้ซีรีส์ซี้ดซ้าดสะเทือนโลกหลายซีซันกันเลยทีเดียว
ที่ผ่านมาในเดือนกรกฎาคม ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์หลายรายเปิดเผยกับฟ็อกซ์นิวส์ ดิจิตอลว่า เน็ตฟลิกซ์ เจ้าพ่อธุรกิจสตรีมมิ่งความบันเทิงของโลก ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของพระครอบครัวซัสเซกซ์ ตัดสินใจแล้วที่จะไม่ต่อสัญญาธุรกิจกับ อาร์ชแวลล์ โปรดักชันส์ในเดือนหน้ากันยายน อันเป็นช่วงที่สัญญาฉบับแรกจะครบอายุ 5 ปีบริบูรณ์ ฟ็อกซ์นิวส์รายงานไว้
และในด้านของหุ้นส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ ยี่ห้อ As Ever ซึ่งเปิดตัวกันในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์เดินหน้าความพยายามที่จะเจรจากล่อมให้เน็ตฟลิกซ์ยอมขยายเวลาการเป็นหุ้นส่วนกันต่อไป
“เรื่องนี้ ขึ้นอยู่กับว่าจะมีเนื้อหาอะไรบ้าง และต้องมีปรินซ์แฮร์รีเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเลยนะครับ” กูรูริชาร์ด ฟิตซ์วิลเลียมส์ ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์ระดับท็อป 10 ของอังกฤษ กล่าวไว้อย่างนั้นกับฟ็อกซ์นิวส์ ดิจิตอล
ฟ็อกนิวส์ให้ข้อมูลว่าในเดือนกรกฎาคมมีผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์หลายรายให้ข้อมูลแก่ฟ็อกซ์นิวส์ ดิจิตอล ว่าดีลธุรกิจอายุ 5 ปี มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์นี้ จะถูกปล่อยให้ปิดฉากกันไปในเดือนกันยายน 2025
ส่วนสำหรับซีรีส์สารคดี With Love, Meghan ที่เรียกกันว่าซีซัน2 แต่ถ่ายทำเสร็จไปพร้อมกับซีซันแรกนั้น เน็ตฟลิกซ์จะนำออกมาให้สมาชิกเสียเงินเพื่อสตรีมไปชมกันในฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้ เพื่อให้บริษัทเก็บเกี่ยวรายได้เข้าไปได้อีกสักระลอกหนึ่ง
ด้านชะตากรรมของ With Love, Meghan ซีซัน3 จะมีหรือไม่ยังต้องรอฟังข่าวกันไปก่อน
ดีลที่เน็ตฟลิกซ์เซ็นชื่อโอเคกับเดอะซัสเซกซ์ในเดือนกันยายน 2020 มีการตั้งเป้าว่าจะได้ผลิตภัณฑ์สารคดีบันเทิงที่ได้เจ้าชายแฮร์รีมาเป็นแม่เหล็กดึงดูดท่านผู้ชม โดยจะมีเนื้อหาแนวซูเปอร์ดรามา เมาท์มอยพระราชวงศ์อังกฤษ แบบว่าจะกวาดเอาบรรดาเรื่องอื้อฉาวทั้งปวงมาขยี้ให้คนอเมริกันเสพติดกันงอมแงม
แต่เอาเข้าจริง เน็ตฟลิกซ์ได้รับแต่สินค้าไม่ตรงปก ในจำนวนที่ไม่คุ้มค่ากับเงินมัดจำที่กระซิบต่อๆ กันมาว่าสูงถึง 20 ล้านดอลลาร์
สองปีแรก (2020-2022) เน็ตฟลิกซ์ไม่ได้รับผลผลิตใดๆ แม้ได้จ่ายมัดจำก้อนโตที่หวังให้เป็นแรงจูงใจ จนกระทั่งในไตรมาสท้ายของปี 2022 จึงเริ่มมีผลิตภัณฑ์ภาพยนตร์สารคดีซีรีส์ป้อนเข้าไป ได้แก่ ซีรีส์สารคดีชุด Harry & Meghan
กระนั้นก็ตาม ในเวลาต่อมา ดีลนี้ได้กลายเป็นดีลเจ้าปัญหาในท่ามกลางข่าวสะพัดว่าเน็ตฟลิกซ์ปาดเหงื่อ เพราะรายได้ที่เกิดขึ้นไม่คุ้มกับเงินมัดจำก้อนมหึมาที่ไปจ่ายออกไป
ทั้งนี้ แม้ว่าเน็ตฟลิกซ์ไม่เคยแถลงอย่างเป็นเรื่องเป็นราวว่า เคยจ่ายเงินมัดจำให้แก่ดยุกแฮร์รีกับดัชเชสเมแกนไปแล้ว 20 ล้านดอลลาร์หรือจะมากน้อยกว่านั้นเพียงใด แต่ผู้เชี่ยวชาญในฮอลลีวูดชี้ว่า ต่อให้จ่ายไปแค่ครึ่งเดียว เน็ตฟลิกซ์ก็บาดเจ็บอย่างหนักในทางการเงิน เพราะเมื่อเกลี่ยต้นทุนกับรายได้แล้ว ยังติดลบมากมาย
ปมปริศนาที่ว่าเน็ตฟลิกซ์จะต่อสัญญา หรือจะไม่ต่อสัญญา กับเดอะซัสเซกซ์ เปรี้ยงปร้างเป็นประเด็นร้อนตั้งแต่ไตรมาส 2/2024 โดยแซะกันไปกันมาว่า นับจากสองปีกว่าที่ได้เซ็นสัญญาและได้มอบเงินมัดจำก้อนใหญ่ เน็ตฟลิกซ์เพิ่งได้ผลผลิตมา 3 ซีรีส์ โดยมีเพียงชุดแรก คือ Harry & Meghan ที่ตรงคอนเซ็ปต์ที่คุยกัน และทำรายได้ให้เน็ตฟลิกซ์ได้ แต่กำไรไม่สูงเพราะต้นทุนการผลิตสูงอย่างยิ่ง
และหลังจากเปิดตัวซีรีส์ชุดที่ 3 คือ Heart of Invictus เมื่อ 30 สิงหาคม 2023 ซึ่งได้กล่องแต่ไม่ค่อยจะได้เงิน ดัชเชสเมแกนและดยุกแฮร์รีก็ไม่ขยับจะผลิตอะไรขึ้นมา จนกระทั่งเข้าสู่ปี 2024 มีข่าวลือในแวดวงเกรียนคีย์บอร์ดว่าเน็ตฟลิกซ์ไม่แฮปปีจริงจัง ถึงขั้นพูดกันแรงๆ เรื่องการระงับสัญญา และฟ้องร้องเรียกเงินมัดจำคืน
การประนีประนอมผุดขึ้นในเดือนเมษายน 2024 โดยมีการออกข่าวว่าเดอะซัสเซกซ์จะผลิตซีรีส์จี๊ดจ๊าดเจาะลึกโลกมืดของวงการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโล
และแล้วซีรีส์ชุด Polo ก็เปิดตัวทางช่องเน็ตฟลิกซ์ ในวันที่ 10 ธันวาคม 2024 ซึ่งลงเอยว่าเป็นผลงานไม่ตรงปกและน่าผิดหวัง กล่าวคือ ได้รับความสนใจจากท่านผู้ชมเพียงน้อย โดยไม่มีเรื่องราวอินไซด์วงการนักกีฬาขี่ม้าโปโล ยิ่งกว่านั้น แทบจะไม่มีปรินซ์แฮร์รีอยู่ในซีรีส์ตามที่เคยคุยกัน เพราะได้บอกกันแล้วว่า ปรินซ์แฮร์รีเป็นแม่เหล็กดึงดูดความสนใจของท่านผู้ชมในทุกครัวเรือน
แต่คำขอดังกล่าว ยากจะเกิดขึ้น เพราะการเข้าฉากภาพยนตร์หมายถึงว่าปรินซ์แฮร์รีจะต้องท่องบทกันอย่างมหาศาล ซึ่งนั่นไม่ใช่ตัวตนของปรินซ์เอาเลยจริงๆ สมัยที่เรียนหนังสือที่วิทยาลัยอีตัน ยังมีข่าวหลุดออกมาว่าปรินซ์ต้องรับความช่วยเหลือจากเพื่อนนักเรียนที่ให้ลอกข้อสอบ พระองค์จึงสอบผ่านออกมาได้
ในท่ามกลางความเจ็บปวดในดวงใจคุณป๋าดันของปรินซ์แฮร์รีและดัชเชสเมแกน ในช่วงปลายปี 2024 ดัชเชสเมแกนได้อัดฉีดความหวังโดสใหญ่เข้าไป ด้วยโปรเจ็กต์ With Love, Meghan ซีรีส์แนวไลฟ์สไตล์ ทำครัว จัดปาร์ตี มีการทุ่มทุนมหาศาลไปกับการโฆษณา
และแล้ว เน็ตฟลิกซ์ก็เจ็บปวดซ้ำซาก ซีรีส์ With Love, Meghan กลายเป็นภาพยนตร์โปรโมทเมแกน มาร์เคิล ซึ่งถูกกองทัพนักรีวิว และผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์สารพัดสถาบัน ดาหน้ากันเข้าไปหวดกระหน่ำด้วยคำวิจารณ์อันตรงไปตรงมาร้าวรานใจ อาทิ เดอะซันและเดอะการ์เดียนที่ติเตียนว่า ไร้สาระ มีแต่มุกเก่าๆ เลี่ยนหนักมากกับการอวยดัชเชสเมแกน ประมาณว่าถ้าไม่อวยกันสุดๆ ก็คงจะไม่ให้เข้าฉาก แล้วยังรวมถึงคำประณามในเรื่องที่เธอขโมยไอเดีย และก็อปปี้ซีรีส์ของทางอังกฤษและแคนาดามาอย่างมหาศาล
นับจากช่วงปลายปี 2024 จดจนอีก 2 ไตรมาสของปี 2025 เน็ตฟลิกซ์ปิดปากเงียบในเรื่องการต่ออายุสัญญากับดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ขณะที่สื่อใหญ่น้อยพากันขยี้ข่าวว่าเน็ตฟลิกซ์ไม่แฮปปี้ที่มีผลผลิตออกมาให้เน็ตฟลิกซ์น้อยจนน่าใจหายว่า เน็ตฟลิกซ์จะขาดทุนย่อยยับเพียงใดในดีลธุรกิจ 100 ล้านดอลลาร์นี้
แน่นอนว่าสาเหตุหนึ่งในความอึมครึมแห่งท่าทีของเน็ตฟลิกซ์ เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งเชิงนโยบายภายในกลุ่มผู้บริหารระดับท็อปของเน็ตฟลิกซ์ โดยฝ่ายหนึ่งยังเชียร์ปรินซ์และดัชเชส แต่อีกฝ่ายหนึ่งมองเห็นแต่ตัวเลขขาดทุนและหายนะที่จะเกิดขึ้นหากเน็ตฟลิกซ์ไม่ยอมรับความจริง แล้วรีบตัดขาดทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หายนะจากการที่ฐานลูกค้าผู้ยี้ใส่เดอะซัสเซกซ์และคว่ำบาตรเน็ตฟลิกซ์นั้น มีมากมายกว่าที่เคยคาดคิดกัน
ในที่สุด ความขัดแย้งภายในคณะผู้บริหารตัวเป้งๆ ของเน็ตฟลิกซ์ก็สามารถสะเด็ดน้ำ และแล้วในเดือนกรกฎาคม ได้มีคีย์แมนแห่งวงการฮอลลีวูดรับบท “ท่านโม่ง” ออกมาให้ข้อมูลแก่นิตยสารพีเพิล ยืนยันการตัดสินใจของเน็ตฟลิกซ์ว่า ข้อตกลงจ้างบริษัทอาร์ชแวล โปรดักชันส์ของเดอะซัสเซกส์ ให้ผลิตภาพยนตร์ป้อนเน็ตฟลิกซ์เป็นเวลา 5 ปีนั้น จะไม่ได้รับการต่ออายุ
พร้อมนี้ ฟ็อกซ์นิวส์ถึงกับสรุปชัดๆ ว่าจะมีการพลิกยุทธศาสตร์ธุรกิจในภาพรวมของเน็ตฟลิกซ์กันเลยทีเดียว
โดยนิตยสารพีเพิลระบุว่า เน็ตฟลิกซ์ทยอยทิ้งข้อตกลงธุรกิจไซส์ยักษ์ทั้งหลาย ประเภทมัดรวมสารพัดโปรเจ็กต์เข้าด้วยกันทั้งปวง แล้วเปลี่ยนไปใช้เป็นรูปแบบที่ว่า ถ้าสนใจโปรเจ็กต์อันไหน ก็ค่อยเข้าไปช็อปปิ้งเป็นรายตัว ซึ่งก็คือแนวปฏิบัติการเชิงธุรกิจแบบ “First-Look Agreement” ที่มีการเซ็นสัญญาไว้กับบริษัท Higher Ground Productions ของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา และมิเชล โอบามา
รูปแบบดังกล่าวเอื้อให้บริษัทแฟลตฟอร์มอย่างเน็ตฟลิกซ์ไม่จำเป็นต้องรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจากคู่ค้า ซึ่งจะมีของป้อนเข้าไปทั้งแบบเจ๋งขั้นสุดบ้าง งั้นๆ บ้าง ไม่ตอบโจทย์นโยบายขายของของเน็ตฟลิกซ์บ้าง
ในการนี้ ผู้เชี่ยวชาญบางรายชี้ว่า เนื่องจากเน็ตฟลิกซ์ยังมีผลิตภัณฑ์ With Love, Meghan ที่ค้างสต็อกจากซีซันแรก ภายใต้ชื่อล็อตว่า ซีซัน2 โดยจะปล่อยของออกมาสร้างรายได้ในต้นเดือนกันยายน ดังนั้น เน็ตฟลิกซ์จึงต้องถนอมภาพลักษณ์ของคู่ค้าเจ้านี้ไว้ให้ดูว่ายังเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ที่มีฝีมือ ผลงานในชื่อซีซัน2 ก็จะไม่กลายเป็นผลิตภัณฑ์ตกค้าง เน่า เก่าเก็บ
ดังนั้น สกู๊ปของพีเพิลจึงนำเสนอว่า เน็ตฟลิกซ์ยังไม่ตัดขาดกับบริษัทอาร์ชแวลล์ โปรดักชันส์ และยังพร้อมจะพิจารณาผลิตภัณฑ์ซีซันใหม่ๆ ของเมแกน มาร์เคิล ไม่ว่าจะในส่วนที่ถ่ายทำไว้แล้ว หรือในส่วนที่จะเป็นความร่วมมือใหม่ๆ ต่อไปในอนาคต
ในเวลาเดียวกัน สื่อยักษ์ใหญ่หลายๆ ค่าย ที่ต้องหารายได้จากทุกช่องทาง ก็ช่วยเน็ตฟลิกซ์ด้วยการโปรโมทแบบอ้อมๆ ให้เดอะซัสเซกซ์
อาทิ สื่อจอมอิทธิพลอย่างเดอะซันรายงานข่าวโดยอ้างว่า ได้มาจากแหล่งข่าวตัวกลั่นตัวเอ้
“เน็ตฟลิกซ์ไม่ถึงกับจะไม่แฮปปีกับผลตอบรับและยอดรายได้”
และแล้วความเห็นดังกล่าวก็ถูกท่านผู้ชมเหน็บแนมว่าซีอีโอทั้งสองนายของเน็ตฟลิกซ์เกือบจะไม่มองหน้ากันเลย หลังออกจากห้องประชุม เพราะต่างวิเคราะห์ผลประกอบการของ With Love, Meghan แตกต่างกันคนละขั้ว
ในเวลาเดียวกัน สื่อเจ้าพ่อเมืองผู้ดีอย่างเดลิเมลออนไลน์ ก็ช่วยนำเสนอว่าดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ยังเจรจากับเน็ตฟลิกซ์ไม่แล้วเสร็จ หรือก็คือ ยังมีหวังที่จะได้ต่ออายุสัญญา
อย่างไรก็ตาม การหยอดคำหวานเหล่านี้ ยากจะเข้าไปถึงหัวใจของผู้บริโภค ซึ่งพากันยี้ใส่ With Love, Meghan ที่ได้ชมแว้บๆ แล้วบ่นกันระงมว่า คอนเทนต์ในซีรีส์ดังกล่าวเฉิ่ม เชย และเต็มไปด้วยการอวยเมแกน มาร์เคิล ผู้ซึ่งสุดแสนที่จะ Fake (เป็นคำศัพท์ซึ่งมีคำแปลเป็นภาษาไทยให้เลือกใช้เยอะเลย อาทิ เสแสร้ง มีแต่ภาพจกตา สร้างภาพตนเองให้รวย หรู เวอร์วัง แต่ก็ดูเป็นของเก๊ของปลอมของเลียนแบบ ดัดจริต กระแดะ ฯลฯ)
ในขณะที่คนทำข่าวชื่อดังบางรายในวงการสื่อร้องโอ้ก บ่นว่าเราต้องทนดูนางอีกหรือ ไม่ไหวแล้วนะ เช่น ริชาร์ด อีเดน บรรณาธิการโต๊ะปฏิทินข่าวแห่งเดลิเมลออนไลน์
นอกจากนั้น นิตยสารพีเพิล ซึ่งอ้างแหล่งข่าวหลายรายที่ใกล้ชิดเน็ตฟลิกซ์ ยังรายงานแบบโค้ดคำพูดมาตีพิมพ์ด้วยว่า “ได้ทราบมาอย่างที่ไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ ทั้งสิ้นว่า ยังมีการหารือถึงดีลนี้โดยตลอดมาจนปัจจุบันนี้ ทั้งนี้ หากงานของคุณติดกลุ่มผลงานดีเด่นหนึ่งในสามของเน็ตฟลิกซ์ คุณจะได้ต่อสัญญา”
กระนั้นก็ตาม มีหลายปัจจัยที่ถูกวางไว้ก่อน ไม่ถูกนำมาพิจารณา ในประการแรก ท่านผู้ชมผู้เป็นฐานลูกค้าของเน็ตฟลิกซ์จำนวนมากมีอคติหนักหนาต่อเมแกน มาร์เคิล และแม้ว่าลูกค้าของเน็ตฟลิกซ์กลุ่มนี้จะต้องสตรีมซีรีส์ของเมแกนมาดู เพื่อจะมีรายละเอียดไปเมาท์ในโซเชียลทั้งปวง แต่จำนวนนาทีในการรับชม ก็จะสั้นอย่างยิ่ง
ในประการที่สอง ถ้าการต่อสัญญาหมายถึงการลดค่าตอบแทนลงมา 70% - 80% เจ้าชายผู้ทรนงอย่างปรินซ์แฮร์รี และแม่ค้าสมัครเล่นอย่างเมแกน จะทำใจไหวไหม
“อดีตนักแสดงอเมริกันอย่างเมแกน มาร์เคิล จะต้องยอมกลืนเลือดเพื่อคว้าดีลมาให้ตนเองค่ะ” ฮิลารี ฟอร์ดวิช ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์ ให้ความเห็นไว้กับฟ็อกซ์ นิวซ์ ดิจิตอล พร้อมกับวิเคราะห์ไว้อย่างสุดโหด ดังนี้
อนาคตของเมแกนคือ มืดมัว ต่อให้เธอได้ต่ออายุสัญญา สัญญานั้นจะต่ำชั้นลงมา โดยรายได้จะลดฮวบ แถมยังจะเสียหน้าอย่างยิ่ง มันจะเป็นตัวชี้วัดว่าเรตติ้งความนิยมที่เธอได้รับอย่างน้อยนิดนั้น อยู่ในทิศทางดิ่งเหว และมันจะฟ้องออกมาหมดเปลือกว่าสาธารณชนหมดความสนใจในตัวเธอ ในเวลาเดียวกัน เน็ตฟลิกซ์ก็ได้เครื่องประเมินที่ดีมาก ที่บอกว่าสาธารณชนต้องการเสพคอนเทนต์อะไรกันแน่
ในเวลาเดียวกัน ดักก์ เอลดริจ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์ ชี้ไว้กับฟ็อกซ์ นิวส์ ดิจิตอลว่าสถิติของ With Love, Meghan ในครึ่งแรกของปี 2025 ไปไม่ถึงท็อป300 ของภาพยนตร์ทางช่องเน็ตฟลิกซ์ที่มีการสตรีมสูงสุด ดังนั้น ดัชเชสเมแกนและปรินซ์แฮร์รีก็ต้องยอมให้หั่นค่าตอบแทนลงมา เน็ตฟลิกซ์ถึงจะสนใจนำไปพิจารณา
“ดิฉันได้ยินหลายท่านเก็งกันว่า เมแกนพยายามจะหาหุ้นส่วนใหม่” กูรูฮิลารี ฟอร์ดวิช เล่าไว้อย่างนั้น และฟันธงไว้ดังนี้ “แต่ดิฉันก็มองไม่เห็นว่าจะมีแพลตฟอร์มไหนที่อยากจะมาเสี่ยงทำงานกันเธอ ซึ่งมีประวัติการสร้างผลงานมาอย่างนี้”
แต่หลายฝ่ายมองว่าเมแกนจะยอมรับเงื่อนไขโหดของเน็ตฟลิกซ์ที่ว่า อาร์ชแวลล์ โปรดักชันส์จะต้องผลิตภาพยนตร์ขึ้นมาจนเสร็จก่อน แล้วส่งให้เน็ตฟลิกซ์ดูว่าจะรับซื้อซีรีส์นั้น ซีรีส์นี้ หรือไม่ โดยฟ็อกซ์นิวส์ได้ประเด็นนี้มาจาก เฮเลนา ชาร์ด นักวิเคราะห์ข่าวทางช่องทางโซเชียลมีเดีย
“แนวทางแก้ปัญหาของเมแกน คือการเร่งขายขนม อาหาร เครื่องใช้ในบ้านและห้องครัว จนกว่าจะสร้างอาณาจักรธุรกิจขึ้นมาสำเร็จ” เฮเลนา ชาร์ด บอกอย่างนั้น พร้อมชี้ประเด็นว่าอุปสรรคในเส้นทางของเมแกน คือปัญหาภาพลักษณ์ย่ำแย่
ย่ำแย่แค่ไหนนั้น กูรูริชาร์ด ฟิตซ์วิลเลียมส์ บอกว่าผลโพลของสารพัดค่ายต่างชี้ตรงกันว่า เรตติ้งของเมแกนดิ่งเหวจนร่วงลึกอย่างน่าใจหาย พอๆ กับเรตติ้งของปรินซ์แฮร์รี่ ทั้งนี้ ภาพยนตร์สารคดีซีรีส์ที่ปรินซ์ทรงเป็นตัวหลักในฝ่ายผลิต ได้แก่ Heart of Invictus กับ Polo ทำผลงานอยู่ที่ลำดับเกือบจะ 4,000 ซึ่งแน่นอนเลยว่า ไม่โอเค
ด้านเดลิเมลออนไลน์ชี้ประเด็นสำคัญด้วยว่า แม้เน็ตฟลิกซ์จะต้องการชิ่งออกห่างเดอะซัสเซกซ์ แต่เน็ตฟลิกซ์ก็รอบคอบอย่างยิ่งที่จะต้องล็อกอดีตสมาชิกพระราชวงศ์อังกฤษไว้กับแพลตฟอร์มของตน เพราะเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีการแชร์ข้อมูลกันว่าเมแกน มาร์เคิล กวาดซื้อหนังสือด้านการหย่าร้างที่สร้างรายได้ให้แก่ภรรยา ดังนั้น เป็นธรรมดาอย่างยิ่งที่เน็ตฟลิกซ์จะเผื่อๆ ไว้ว่าหากคู่รักซัสเซกซ์เกิดจะหย่าร้างกัน เมแกน มาร์เคิล จะสามารถผลิตบทภาพยนตร์ที่แฉสนั่นถึงด้านไม่ดีของพระสวามี ตลอดจนสามารถครีเอทเรื่องป้ายสีพระราชตระกูลบรรจุไว้ในบทภาพยนตร์อันแสบสันของเธอได้อย่างแน่นอน
ผู้เชี่ยวชาญเชียร์ ปรินซ์แฮร์รี ง้อเสด็จพระราชบิดาให้สำเร็จ เพื่อแก้ปัญหาอนาคตอับจนหนทาง เพราะยากจะประมาณการได้ว่า พระชายาเมแกน จะสร้างอาณาจักรธุรกิจเสร็จกี่โมง? ยิ่งกว่านั้น อาจได้เห็นเมแกนหย่าขาดจากปรินซ์แฮร์รี เพื่อทำโปรเจ็กต์หนังสือ “แฉพระสวามี” & ทำเงิน 10-20 ล้านไว้ตั้งตัว
นับจากปี 2020 ที่ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ลาออกจากบทบาทสมาชิกพระราชวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ ที่ถวายงานสนองพระเดชพระคุณสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แล้วไปตั้งรกรากอยู่ที่คฤหาสน์ใหญ่โต 16 ห้องน้ำในเมืองมอนเตซิโต รัฐแคลิฟอร์เนีย มูลค่า 14.7 ล้านดอลลาร์ ซึ่งพระองค์ทำรายการสินเชื่อซื้อผ่อนกับสถาบันการเงินมาตั้งแต่ต้น จนถึงปัจจุบัน ก็รวมเวลาได้ 5 ปีแล้ว
ห้วงเวลาครึ่งทศวรรษที่ผ่านไป ไวเหมือนตื่นจากฝัน เริ่มต้นชื่นมื่นหรูหรา ทุกสิ่งอย่างเกื้อกูลแก่การสร้างเส้นทางอาชีพได้ดั่งที่ใจรักชอบและปรารถนา
=โดยคว้าสัญญาธุรกิจการผลิตทอล์กโชว์ทางวิทยุ มูลค่า 22 ล้านปอนด์ได้จากแพลตฟอร์มสปอติฟาย ยักษ์ใหญ่ค่ายสตรีมมิงเพลงและวิดีโอ
=และได้เซ็นสัญญากับสำนักพิมพ์เพนกวิน แรนดอม เฮาส์ มูลค่า 20 ล้านดอลลาร์ เพื่อผลิตหนังสือแนวแซ่บ (จิกกัดพระราชวงศ์อังกฤษ) สักหนึ่งโหล โดยที่ว่ารอกันสองปีกว่าจะได้หนังสืออัตชีวประวัติของเจ้าชายแฮร์รี ไปวางแผงเมื่อ 10 มกราคม 2023 ในชื่อเรื่องว่า Spare - ตัวสำรอง ภายใต้กลยุทธ์ส่งเสริมการขายด้วยการหั่นราคาหนังสือครึ่งต่อครึ่ง ตั้งแต่ก่อนวันที่หนังสือวางแผง จดจนหลายสัปดาห์ที่หนังสืออยู่บนแผงแล้ว
=นอกจากนั้นยังมีข้อตกลงก้อนยักษ์ คือดีลการผลิตภาพยนตร์สารคดีให้แก่ เน็ตฟลิกซ์ ในมูลค่าที่เล่าลือกันว่า 100 ล้านดอลลาร์ ระยะเวลา 5 ปี ทั้งนี้ สามารถผลิตขึ้นมาได้แบบขำแค่ 5 ชุด ชุดแรกออกมาช่วงปลายปี 2022 หรือก็คือวันเวลาผ่านไปกว่า 2 ปีกันเลยทีเดียว กว่ามีผลผลิตชุดแรก “Harry & Meghan” ไปป้อนแก่ช่องบันเทิงเน็ตฟลิกซ์
แม้จะมีรายได้เข้ากำปั่นของพระตำหนักมอนเตซิโตมากมาย แต่ในเวลาแค่ 2-3 ปีถัดมา ก็ดูเหมือนว่าพระครอบครัวซัสเซกซ์จะเผชิญวิกฤติทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากเดือนมิถุนายน 2023 ที่ต้องสูญเสียรายได้จากสปอติฟายซึ่งขอยกเลิกดีล และมีด่าทิ้งทวนแบบที่ดัชเชสไม่ออกมาโต้ตอบ ซึ่งผิดปกติกับเบอร์กระดูกของเธอเป็นอย่างยิ่ง
กล่าวคือ ในเดือนธันวาคม 2023 เดอะฮอลลีวูด รีพอร์ตเตอร์ สื่อจอมอิทธิพลระดับไบเบิลของวงการบันเทิง ทำการแปะตราว่าพระครอบครัวซัสเซกซ์เป็นคู่เจ๊งรายใหญ่สุดประจำปี 2023 ตามการจัดอันดับความสำเร็จและความล้มเหลวของบรรดาซูเปอร์สตาร์ดาวจรัสฟ้าทั้งปวงในฮอลลีวูด
ความล้มเหลวมหาศาลของคู่ปรินซ์แฮร์รีกับดัชเชสเมแกนถูกปิดท้ายปี 2023 ด้วยข่าวเมื่อ 12 ธันวาคม ว่ามูลนิธิอาร์ชแวลล์ของทั้งสองพระองค์ มีผลการดำเนินงานติดลบในปี 2022 เป็นจำนวนเงินถึง 674,485 ดอลลาร์ สืบเนื่องจากปัญหาที่ว่ายอดเงินบริจาคหดฮวบ 80% เหลือแค่ 2.005 ล้านดอลลาร์ แต่ค่าจ้างพนักงานทะยานเกือบ 400% จาก 163,085 ดอลลาร์ พุ่งขึ้นเป็น 640,441 ดอลลาร์
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่พระครอบครัวซัสเซกซ์ต้องเร่งดำเนินการ คือการหาแหล่งรายได้เพิ่มขึ้น และหากปรินซ์แฮร์รีสามารถทำให้พระราชบิดาพระราชทานความช่วยเหลือ ทุกปัญหาการเงินจะแก้ไขได้หมดจด
โอกาสที่จะได้พระราชบิดาเป็นแหล่งรายได้เพิ่มขึ้น เปิดตัวออกมาตั้งแต่ต้นปี 2024 เมื่อสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ทรงโทรศัพท์ไปหาปรินซ์แฮร์รี เพื่อบอกว่าพระองค์ทรงพระประชวรด้วยโรคมะเร็ง และปรินซ์ก็ได้รับโอกาสเข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์นานราวครึ่งชั่วโมงในเดือนกุมภาพันธ์
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าปรินซ์แฮร์รีทรงทำลายโอกาสอันดีดังกล่าวด้วยความเคลื่อนไหวหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเคลื่อนไหวหนึ่งซีรีส์ใหญ่ที่เดลิเมลออนไลน์นำไปรายงานถึงข่าวลือในหมู่พระสหายของปรินซ์แฮร์รีว่า ปรินซ์ทรงประกาศจะกลับอังกฤษ มาเป็น “สมาชิกพระราชวงศ์แบบพาร์ทไทม์” ซึ่งพระองค์จะรีบทำการรีแบรนด์ยี่ห้อซัสเซกซ์ เพื่อให้ชาวเมืองผู้ดีลืมภาพเดิมๆ และมองพระองค์และพระชายาในภาพลักษณ์ใหม่
ทั้งนี้ ในการขับเคลื่อนแผน “รีแบรนด์ซัสเซกซ์” ให้ร้อนแรง พระครอบครัวเดอะซัสเซกซ์ได้ว่าจ้างสุดยอดจอมเซียนพีอาร์ในอังกฤษมาดำเนินการ ส่งผลให้เกิดข่าวความเคลื่อนไหวของดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ใน “มิติของนักบุญแสนสวยแสนดี” บนพื้นที่สื่อมวลชนขาใหญ่ของอังกฤษ อันได้แก่บรรดาข่าวที่เมแกน มาร์เคิลเดินสายส่งเสริมสตรีและช่วยเหลือสังคม 5 สัปดาห์ 6 อีเวนต์
การรณรงค์อันวุ่นวายและมากมายสะท้อนออกมาถึงความจงใจจะมาแสวงผลประโยชน์จากพระราชตระกูล พร้อมกับทำให้เห็นว่าปรินซ์แฮร์รีมิได้มีสปิริตของลูกชายผู้รู้สึกรักและเป็นห่วงคุณพ่อผู้ชราและป่วยไข้ ดังนั้น เมื่อเดือนมีนาคมผ่านไป โอกาสที่ปรินซ์แฮร์รีจะชนะใจพระราชบิดาก็ปิดฉายไปอย่างเงียบเชียบ
วันเวลาผ่านไป 5 ไตรมาส จู่ๆ ปรินซ์แฮร์รีมามุกใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2025 ด้วยการเปิดปฏิบัติการขอคืนดีกับพระราชบิดาในเฟสแรก
โดยบรรดาสื่อใหญ่น้อย ตลอดจนฟ็อกซ์นิวส์รายงานว่าผ.อ.ฝ่ายประสานงานสื่อมวลชนของพระตำหนักมอนเตซิโต ขึ้นเครื่องบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกมาสมทบกับทีมประสานงานสื่อมวลชนของปรินซ์แฮร์รีในอังกฤษ เข้าประชุมหารือกับพระราชเลขาธิการฝ่ายสื่อสารองค์กรแห่งสำนักพระราชวังบัคกิงแฮม ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2024 เพื่อแชร์ให้สำนักพระราชวังได้ทราบตารางพระอีเวนต์ของพระครอบครัวซัสเซกซ์ เพื่อป้องกันปัญหาว่าพระอีเวนต์ของฝ่ายมอนเตซิโตจะไม่ชนกับพระราชกรณียกิจของคิงชาร์ลส์และควีนคามิลลา
แต่บรรดาสื่อมวลชนพากันฮือฮา รายงานว่าปรินซ์แฮร์รีทรงเริ่มต้นเฟสแรกแห่งการง้อและขอคืนดีกับพระราชบิดา
“ปรินซ์แฮร์รีทรงตกเป็นข่าวว่า ‘ทรงดิ้นรนอย่างหนัก’ ในอันที่จะขอสมานฉันท์คืนดีกับพระราชบิดาและพระราชตระกูล” ฟ็อกซ์นิวส์รายงาน พร้อมระบุว่าความเคลื่อนไหวเที่ยวนี้ของปรินซ์แฮร์รีเป็นความพยายามจะผ่อนคลายความตึงเครียด
โดยฟ็อกซ์นิวส์อ้างอิงตามการวิเคราะห์ของฮิลารี ฟอร์ดวิช ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์ซึ่งพูดกับฟ็อกซ์นิวส์ดิจิตอลว่า
“ความเคลื่อนไหวของแฮร์รีไม่น่าจะช่วยบรรเทาความระแวงของฝ่ายพระราชตระกูล เดี๋ยวนี้คิงชาร์ลส์ทรงมีระบบป้องกันที่หนาแน่นกว่าที่ผ่านมา เพราะทรงเจ็บมาเยอะจากการถูกพระราชโอรสเล่นไม่ซื่อ ทำร้ายพระราชตระกูลครั้งแล้วครั้งเล่า”
นอกจากนั้น ยังนำการวิเคราะห์ของเดลีเมลออนไลน์มารายงานด้วยว่า การที่ปรินซ์แฮร์รีนำตารางงานของพระองค์มาแชร์กับสำนักพระราชวัง จะช่วยส่งผลให้พระองค์มีโอกาสได้เข้าเฝ้าสนทนาส่วนพระองค์กับพระราชบิดาได้อีกครา หลังจากที่ได้เข้าเฝ้าครั้งสุดท้ายเมื่อหนึ่งปีกว่าที่ผ่านมา คือในเดือนกุมภาพันธ์ 2024
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจบลงแบบเงียบเชียบ ปราศจากความเคลื่อนไหวต่อเนื่องใดๆ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญฮิลารี ฟอร์ดวิช ชี้ว่า
“หากเป็นการประสานงานเพื่อมิให้พระภารกิจไปชนกับพระราชกรณียกิจ ก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีความสำคัญต่อพระราชตระกูล ซึ่งมีการประสานอย่างเป็นระบบกับรัฐบาลอังกฤษ และรัฐบาลประเทศต่างๆ เพราะถ้าปรินแฮร์รีใส่ใจที่จะป้องกัน พระองค์ต้องเป็นฝ่ายที่คอยตรวจสอบและจัดหลีกให้ดี”
พร้อมนี้ ฟ็อกซ์นิวส์ให้ประเด็นสรุปด้วยคำกล่าวของผู้เชี่ยวชาญฮิลารี ฟอร์ดวิชว่า
“นี่เป็นความเคลื่อนไหวจากฝ่ายปรินซ์แฮร์รีที่ดิ้นรนจะขอสมานฉันท์ ความเต็มใจที่จะประสานงานเพื่อหลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมชนกันนั้น ไม่มีนัยสำคัญใดๆ สิ่งที่พอจะช่วยได้มีแต่การแสดงความสำนึกผิดอย่างจริงใจ ให้สมกับที่ปรินซ์ทรงเคยทำร้ายล่วงเกินพระราชตระกูลไว้มากมาย
“หนทางเดียวที่ปรินซ์แฮร์รีจะมีโอกาสแก้ไขความแตกร้าวกับพระราชตระกูลได้ คือ พระองค์ต้องดำเนินการออกมาให้เป็นที่ประจักษ์”
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์คนสำคัญของอังกฤษนามว่า เจนนี่ บอนด์ ได้บอกไว้กับนิตยสาร OK! ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2024 ว่าสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ทรงกำหนดเงื่อนไขไว้สองประการที่ “ปรินซ์แฮร์รีต้องดำเนินการได้จริง” เพื่อแผ้วถางทางสู่การปรองดองสมานฉันท์ ได้แก่
1.ปรินซ์แฮร์รีตระหนักถึงความเจ็บปวดที่พระราชตระกูลได้รับ
2.ปรินซ์แฮร์รีจะไม่เรียกร้องสิทธิพิเศษใดๆ เมื่อพระองค์มาเข้าเฝ้าพระราชบิดา
เงื่อนไขสองประการนี้ ดัชเชสเมแกนที่เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น คอยแต่จะเอาชนะพระราชตระกูลวินด์เซอร์ผ่านการที่มีอิทธิพลเหนือปรินซ์แฮร์รี ย่อมจะยอมรับไม่ได้
ดังนั้น บรรดาผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์จึงเตรียมความคิดกันตั้งแต่ปลายปี 2024 ว่าดัชเชสเมแกนอาจเลือกเส้นทางหย่าขาดจากปรินซ์แฮร์รี และจัดทำบทภาพยนตร์กับต้นฉบับหนังสือ “แฉปรินซ์แฮร์รีและแทงพระราชตระกูลวินด์เซอร์” เพื่อส่งให้สำนักพิมพ์เพนกวินแรนดอมเฮาส์สักหนึ่งชุด และเพื่อเสนอขายแก่เน็ตฟลิกซ์ แลกกับเงินก้อนใหญ่ระดับ 10-20 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะกลายเป็นทุนรอนในการเริ่มต้นชีวิตใหม่
คอลัมน์ PLANET No.3
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา: ฟ็อกซ์นิวส์ เดลิเมลออนไลน์ ดิเอ็กซ์เพรส เดอะซัน เดอะการ์เดียน พีเพิล ฮอลลีวูด รีพอร์ตเตอร์)