บรรดานักการเมืองเกือบทุกพรรคในสวิตเซอร์แลนด์ กำลังหาทางยกเลิกคำสั่งซื้อฝูงบินขับไล่ล่องหน F-35A จำนวนหลายสิบลำ จากล็อคฮีด มาร์ติน บริษัทกลาโหมยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงเดินหน้ากำหนดเพดานภาษีสวิตเซอร์แลนด์สูงลิ่ว ติดอันดับต้นๆชาติที่ถูกรีดภาษีหนักหน่วงที่สุดในโลก
รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยในวันพฤหัสบดี(7ส.ค.) กำลังหาทางเจรจาเพิ่มเติมกับสหรัฐฯ หลังความพยายามครั้งสุดท้ายล้มเหลวในการหยุด ทรัมป์ จากการบังคับใช้เพดานภาษี 39% ที่กำหนดเล่นงานสินค้านำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์ ในสิ่งที่ภาคธุรกิจให้คำจำกัดความว่าเป็น "กรณีที่น่าสยดสยอง"
ทางรัฐบาลได้จัดประชุมฉุกเฉินหลังจากประธานาธิบดีคาริน เคลเลอร์-ซัตเตอร์ และ กุย พาร์เมลิน รัฐมนตรีเศษฐกิจ เดินทางกลับประเทศด้วยมือเปล่า แต่บอกว่าพวกเขายังไม่มีแผนออกมาตรการแก้แค้นในตอนนี้
เคลเลอร์ ซัตเตอร์ กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่า พวกเจ้าหน้าที่สวิตเซอร์แลนด์ยังคงอยู่ในวอชิงตัน เพื่อทำการพูดคุยหารือที่มีความสำคัญยิ่งสำหรับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ไล่ตั้งแต่การผลิตนาฬิกาไปจนถึงเครื่องจักรกล เนยและช็อคโกแลต "เราต้องการความสัมพันธ์บนพื้นฐานของกฎกติกากับสหรัฐฯ แต่จะไม่แลกด้วยอะไรทั้งนั้น"
อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีสวิตเซอร์แลนด์ ยอมรับไม่รู้ว่าสถานการณ์เช่นนี้จะยืดเยื้อไปอีกนานแค่ไหน และการตัดสินใจขั้นสุดท้ายขึ้นอยู่กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นท่ามกลางเสียงเรียกร้องหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆให้สวิตเซอร์แลนด์ถอนหรืออย่างน้อยก็ขอให้ทบทวนคำสั่งซื้อฝูงบินขับไล่ F-35A ซึ่งคาดว่าน่าจะมีมูลค่าสูงสุดราว 9,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจาก ทรัมป์ ทำตามคำขู่ด้วยการรีดภาษี 39% เล่นงานสินค้านำเข้าจากประเทศแห่งนี้
โครงการจัดซื้อนี้เป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันในสวิตเซอร์แลนด์มานานหลายเดือน หลังจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลยอมรับว่าเข้าใจผิดกับวอชิงตันในเรื่องราคาและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเครื่องบิน "ประเทศหนึ่งๆที่ขว้างก้อนหินเข้าใส่เราในด้านการค้า ไม่ควรได้รับของขวัญ" บาลทาซาร์ กัตตลิ ส.ส.จากพรรคกรีนกล่าว ทั้งนี้เขาเป็นคนยื่นญัตติเสนอให้ละทิ้งโครงการจัดซื้อดังกล่าว ซึ่งคาดหมายว่าจะเข้าสู่การพิจารณาในรัฐสภาอย่างเร็วที่สุดในเดือนกันยายน
เซดริค เวอร์มูท ประธานร่วมของพรรคสวิสโซเชียลเดโมแครตส์ เรียกร้องให้ทำประชามติรอบใหม่ "เพื่อที่ประชาชนจะสามารถหยุดการจัดซื้อดังกล่าว" เขาระบุในถ้อยแถลงที่ส่งถึงสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
ข้อเสนอจากฝ่ายซ้ายได้รับแรงสนับสนุนมากขึ้นเรื่อยๆนอกเหนือจากพวกเดียวกันเอง ในขณะที่ความปั่นป่วนจากมาตรการรีดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้ก่อคำถามว่าการจัดซื้อเครื่องบินจากล็อคฮีด มาร์ติน เป็นทางเลือกที่ถูกต้องแล้วหรือไม่ ท่ามกลางสภาพความเป็นจริงที่เปลี่ยนแปลงไปในทางภูมิรัฐศาสตร์
เครื่องบินจำนวน 36 ลำ เป็นตัวแทนราว 1 ใน 3 ที่ทางบริษัทส่งมอบในปี 2024 ในขณะที่ล็อคฮีด มาร์ติน ต้องเผชิญอุปสรรคต่างๆนานาในปีนี้ ในนั้นรวมถึงกรณีที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ(เพนตากอน) ปรับลดข้อเสนอซื้อฝูงบิน F-35 สำหรับปีงบประมาณ 2026 และหันไปป้อนเงินสู่โครงการต่างๆของบริษัทคู่แข่งแทน
ฮันส์-ปีเตอร์ พอร์ทมานน์ ส.ส.หัวเสรี สมาชิกพรรคของประธานาธิบดีคาริน เคลเลอร์-ซัตเตอร์ กล่าวว่า "ผมไม่รู้ว่าคนของเราจะยอมรับการซื้อฝูงบินขับไล่ F-35 ในราคาที่สูงกว่าที่สันนิษฐานไว้ในเบื้องต้นหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังคลื่นความช็อคจากมาตรการรีดภาษีของอเมริกา"
พอร์ทมานน์ บอกต่อว่ารัฐบาลควรพิจารณา "ยกเลิกทั้งหมดหรือหยุดบางส่วนในสัญญา และยอมสูญเสียไม่มากนัก จากนั้นควรดำเนินการตรวบสอบว่าการยกระดับความร่วมมือใกล้ชิดขึ้นกับบรรดาคู่หูยุโรป จะสามารถอุดช่องโหว่ใดได้บ้างในด้านกลาโหม"
ท่ามกลางแรงผลักดันต่อต้านการซื้อเครื่องบินขับไล่ของสหรัฐฯ ในอีกด้านหนึ่งมีแนวคิดใช้แผนจัดซื้อเครื่องบินเอาอกเอาใจวอชิงตันในการเจรจาผ่อนปรนเพดานภาษี โดยบางส่วนเชื่อว่าการยอมรับราคาเครื่องบินที่สูงขึ้น และจัดซื้อเพิ่มเติม อาจช่วยโน้มน้าวทรัมป์ ยอมปรับลดเพดานภาษีลงมา
(ที่มา:สวิสอินโฟ/เอเอฟพี)