สำนักงานยุทธภัณฑ์กลาโหม (Defence Materiel Administration หรือ FMV) ของสวีเดน เปิดเผยกับเว็บไซต์ Breaking Defense คาดหมายว่าพิธีลงนามสำหรับการที่ไทยจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ Saab JAS 39 Gripen จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ โดยพิธีการดังกล่าวจะมีบรรดาผู้แทนจากทั้งสำนักงานยุทธภัณฑ์กลาโหม, รัฐบาลสวีเดน, บริษัท Saab และเหล่าเจ้าหน้าที่ของไทยเข้าร่วมด้วย
"ณ ตอนนี้ ผมยังไม่มีข้อมูลใดๆ เพิ่มเติมที่จะสามารถให้รายละเอียดในเรื่องนี้" ลูคัส ลินน์ โฆษกของ (FMV) ระบุในวันพุธ(6ส.ค.) พร้อมบอกว่าข้อตกลงยังไม่เสร็จสมบูรณ์จนกว่าจะมีการลงนามในสัญญา ณ พิธีลงนาม
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร(5ส.ค.) คณะรัฐมนตรีของไทยอนุมัติอย่างเป็นทางการในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ Saab JAS 39 Gripen มูลค่า 19,500 ล้านบาท เข้าร่วมกับฝูงบิน Gripen C/D ในปัจจุบันที่มีอยู่ 11 ลำ การตัดสินใจดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดริเริ่มอย่างกว้างๆในการจัดซื้อเครื่องบิน Gripen E/F จำนวน 12 ลำ นอกจากนี้แล้วทางกองทัพอากาศของไทยยังแถลงว่าไทยจะจัดซื้อขีปนาวุธพิสัยไกลยิงจากอากาศสู่อากาศ "Meteor" รวมถึงอัพเกรดฝูงบินเครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้าและควบคุมทางอากาศ Saab 340 ด้วย
ในวันพุธ(6ส.ค.) ทาง Saab ปฏิเสธให้รายละเอียดในสัญญาที่เจรจากัน ในนั้นรวมถึงจำนวนเครื่องบิน มูลค่าสั่งซื้อ หรือแง่มุมอื่นๆของการพูดคุย "สำนักงานยุทธภัณฑ์กลาโหม, รัฐบาลไทย และ Saab ยังอยู่ระหว่างการเจรจา ในฐานะที่มันเป็นกระบวนการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ เราหวังว่าการพูดคุยจะได้ข้อเสนอในระยะเวลาอันใกล้นี้" Mattias Rådström โฆษกของ Saab บอกกับเว็บไซต์ข่าวเบรคกิ้งดีเฟนซ์
"แน่นอนว่า มันเป็นข่าวในแง่บวกมากๆ สำหรับ Saab และสวีเดน ที่ไทยยังคงแสดงความสนใจเป็นอย่างมากต่อเครื่องบิน Gripen E/F ในฐานะฝูงบินขับไล่ในอนาคตของพวกเขา" Rådström ระบุ
ก่อนหน้านี้มีกระแสพือข่าวลือว่ารัฐบาลสวีเดนกำลังตรวจสอบทบทวนความเป็นไปได้ในกรณีนี้ โดยอ้างคำกล่าวของ มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด รัฐมนตรีต่างประเทศสวีเดนกล่าวในตอนนั้นว่า "รัฐบาลกำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในความขัดแย้งอย่างกว้างๆ" และไม่ยืนยันว่าข้อตกลงซื้อขายจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่
กฎระเบียบของสวีเดนในด้านการส่งออกยุทโธปกรณ์ทางทหารมีข้อจำกัดสูงมาก อ้างอิงกฎระเบียบในปัจจุบัน จะไม่อนุมัติขายแก่รัฐต่างๆ ที่กำลังอยู่ในความขัดแย้งทางทหารกับรัฐอื่น
อย่างไรก็ตามกฎระเบียบปัจจุบันกำลังอยู่ภายใต้การทบทวนพิจารณา สืบเนื่องจากสวีเดนเข้าร่วมนาโตเมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่กฎระเบียบปัจจุบันสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ของสวีเดน ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดอย่างเป็นทางการต่อพันธมิตรทหารใดๆ มานานกว่า 200 ปี
ปีเตอร์ เวเซมัน นักวิเคราะห์จากถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม กล่าว่าก่อนหน้านี้ สวีเดน เคยจัดหากริพเพน C/D จำนวน 12 ลำแก่ไทย "ทั้งที่รู้ว่า ไทย มีปัญหาหลักๆ กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชาและพม่า รวมถึงความขัดแย้งภายในประเทศ และแม้กระทั่งกองทัพไทยมีบทบาทที่ก่อคำถามอย่างมาก ในด้านการพัฒนาประชาธิปไตยที่มีปัญหาในไทย" เขากล่าว "มันแสดงให้เห็นว่ากฎระเบียบการส่งออกอาวุธของสวีเดน เป็นการตีความอย่างกว้างๆ เท่านั้น"
(ที่มา:เบรคกิ้งดีเฟนซ์)