ไทยและกัมพูชาขอให้มาลเซียรับบทบาทเป็นคนกลางในข้อพิพาทชายแดนต่อไป แม้กระทั่งหลังจากวาระการทำหน้าที่ประธานอาเซียนของมาเลเซียจะหมดลงในปีหน้า จากคำกล่าวอ้างของอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พร้อมยืนยันคัดค้านบรรดามหาอำนาจเข้ามาพัวพันโดยตรงในความขัดแย้งนี้
เขากล่าวว่ามาลเซียจะเดินหน้าทำหน้าที่เป็นคนกลางจนกว่าข้อพิพาทจะคลี่คลายโดยสมบูรณ์ "ความรับผิดชอบนี้ไม่จำกัดอยู่เฉพาะกับหน้าที่ของเราในฐานะประธานอาเซียน ทั้ง 2 ประเทศร้องขอให้มาเลเซียทำหน้าที่นี้ต่อไป จนกว่าจะบรรลุทางออกหนึ่งๆ" อันวาร์กล่าว
"เบื้องต้น เราวางเป้าหาทางออกภายใน 3 เดือน อย่างไรก็ตามในการเจรจาใดๆ ไม่อาจกำหนดกรอบเวลาได้อย่างแน่นอน สิ่งสำคัญคือการรับประกันความคืบหน้าผ่านการหยุดยิง และคำมั่นสัญญาที่จริงจังในการหาทางออก" เขากล่าว
อันวาร์ ยังเน้นย้ำความสำคัญของการคงไว้ซึ่งความเป็นกลางของอาเซียน ในการจัดการข้อพิพาทต่างๆในภูมิภาค พร้อมส่งเสียงเตือนเกี่ยวกับการเข้ามาพัวพันโดยตรงของบรรดาชาติมหาอำนาจ
เขากล่าวต่อว่าการสังเกตการณ์ใดๆในอนาคตหรือการปรากฏตัวของกองกำลังรักษาสันติภาพตามแนวชายแดน ควรประกอบด้วยบรรดาตัวแทนจากรัฐสมาชิกอาเซียนเพียงอย่างเดียว
"เราต้องการหลีกเลี่ยงการเข้ามาพัวพันโดยตรงของเหล่ามหาอำนาจ การเจรจานี้ยังคงต้องเป็นการริเริ่มของอาเซียนเอง" อันวาร์ระบุ
อย่างไรก็ตามเขาบอกว่าการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์จากภายนอก จากประเทศต่างๆอย่างเช่นสหรัฐฯและจีน อาจได้รับการตอบรับ แต่ก็ต่อเมื่อมันเป็นข้อเสนอที่เป็นกลางและปราศจากการแทรกแซงใดๆ
นอกจากนี้แล้ว อันวาร์ ยังเรียกร้องทุกฝ่ายอดทนอดกลั้นจากการยั่วยุใดๆ ที่อาจเป็นตัวฉุดรั้งความพยายามสันติภาพที่กำลังดำเนินการอยู่
(ที่มา:มาเลย์เมล)