การปะทุของภูเขาไฟคราเชนินนิคอฟ (Krasheninnikov) บนคาบสมุทรคัมชัตกา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 600 ปี อาจมีความเชื่อมโยงกับแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่สั่นสะเทือนภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานจากสำนักข่าว RIA และบรรดานักวิทยาศาสตร์รัสเซียเมื่อวันอาทิตย์ (3 ส.ค.)
“นี่คือการปะทุของภูเขาไฟคราเชนินนิคอฟที่ได้รับการยืนยันทางประวัติศาสตร์ครั้งแรกในรอบ 600 ปี” RIA อ้างคำกล่าวของ โอลกา กิรินา (Olga Girina) หัวหน้าทีมตอบสนองการปะทุของภูเขาไฟแห่งภูมิภาคคัมชัตกา
เจ้าหน้าที่หญิงผู้นี้กล่าวเสริมว่า การปะทุครั้งนี้อาจเชื่อมโยงกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันพุธที่ 30 ก.ค. ซึ่งทำให้เกิดการเตือนภัยคลื่นสึนามิไปไกลถึงเฟรนช์โปลินีเซียและชิลี และตามมาด้วยการปะทุของภูเขาไฟ Klyuchevskoy ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นที่สุดบนคาบสมุทรคัมชัตกา
กิรินา ได้โพสต์ข้อมูลผ่านเพจเทเลแกรมของสถาบันภูเขาไฟวิทยาและแผ่นดินไหวแห่งรัสเซีย โดยกล่าวว่า การปะทุครั้งสุดท้ายของคราเชนินนิคอฟเกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1463 หรือประมาณบวกลบ 40 ปี และไม่มีการปะทุใดๆ เกิดขึ้นอีกเลยนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ด้านกระทรวงบริการสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งภูมิภาคคัมชัตการายงานว่า ภูเขาไฟคราเชนินนิคอฟซึ่งมีความสูง 1,856 เมตรได้ปลดปล่อยกลุ่มควันเถ้าถ่านพวยพุ่งขึ้นไปบนฟ้าสูงถึง 6,000 เมตร (3.7 ไมล์)
กระทรวงฯ แถลงผ่านเทเลแกรมว่า "กลุ่มเถ้าภูเขาไฟลอยไปทางทิศตะวันออกมุ่งหน้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งไม่มีพื้นที่ชุมชนอยู่บนเส้นทาง"
กระทรวงฯ ระบุด้วยว่า การปะทุของภูเขาไฟได้รับรหัสการบิน "สีส้ม" ซึ่งบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่ออากาศยาน
ที่มา: รอยเตอร์