xs
xsm
sm
md
lg

สื่อนอกมองไงข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชา ไม่ใช่เรื่องดี'ทรัมป์'เป็นคนกลางสันติภาพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยูโรโทปิคส์ แพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับยุโรป เผยแพร่รายงานของสื่อมวลชนตะวันตกหลายสำนัก ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยกับกัมพูชา ในนั้นบางส่วนเชื่อว่ามันช่วยหยุดความขัดแย้งได้เพียงแค่ชั่วคราว และปฏิเสธภาพลักษณ์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ในฐานะเป็นคนกลางสันติภาพ ชี้ผู้นำรายนี้ไม่ได้ทำให้โลกปลอดภัยขึ้น หนำซ้ำยังอันตรายมากกว่าเดิม

รายงานของยูโรโทปิคส์ระบุว่าตามหลังเหตุปะทะรอบใหม่นานหลายวัน กัมพูชาและไทยบรรลุข้อตกลงหยุดยิงภายใต้แรงกดดันจากสหรัฐฯ ความขัดแย้งมีแก่นกลางอยู่ที่ปราสาท 2 แห่ง ได้แก่ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทพระวิหารในพื้นที่ชายแดน ซึ่งต่างฝ่ายต่างกล่าวอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน และทางยูโรโทปิคส์ ได้รวบรวมความเห็นของบรรดาผู้สัดทัดกรณีในสื่อมวลชนต่างๆที่อธิบายถึงเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังข้อพิพาทและมองเห็นความหวังเพียงน้อยนิดที่จะคลี่คลายประเด็นปัญหานี้ในอนาคตอันใกล้

The Frankfurter Rundschau สื่อมวลชนเยอรมนีเตือนต่อความหวังลมๆแล้งๆที่ว่าข้อตกลงหยุดยิงจะช่วยคลี่คลายปัญหาใดๆ "ความร้อนระอุในช่วงหลายสัปดาห์ที่่ผ่านมา เริ่มชัดเจนว่าสิ่งที่ครอบงำความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันก็คือ ทั้ง 2 ประเทศ เป็นชาติที่กลไกลควบคุมประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งอย่างเสรีและเสรีภาพสื่อ ทำงานได้เพียงแค่ในขอบเขตจำกัด ซึ่งยากที่จะมอบสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อสนติภาพที่ยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามที่้ทั้ง 2 รัฐบาลต้องเผชิญกับความท้าทายทางการเมืองใหญ่หลวงในกัมพูชาและไทย"

"ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นเสียจนแม้กระทั่งชนชั้นกลางก็ยังเริ่มประสบปัญหา อย่างไรก็ตามทั่วทั่วโลกเริ่มหันมาสนใจในเรื่องนี้ ก็เมื่อหลังจากมีเหตุปะทะหนักหน่วงขึ้นและประชาชนหลายแสนคนต้องหลบหนี อย่างที่มันเกิดขึ้นในตอนนี้" บทความระบุ

ส่วนทางไอริชไทม์ส สื่อมวลชนไอร์แลนด์ คาดการณ์ว่าความขัดแย้งน่าจะลากยาวต่อไปและหนักหน่วงยิ่งขึ้น "ข้อตกลงหยุดยิงอาจช่วยหยุดไว้ แต่ไม่มีอะไรเยียวยาวภาวะไร้เสถียรภาพที่โหมกระพือขึ้นจากความขัดแย้งนี้ ในฉากหลังมีอดีตนายกรัฐมนตรี 2 คน ฮุนเซน อดีตผู้นำเผด็จการยาวนานของกัมพูชา กับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ได้รับความนิยมในไทย"

"ครั้งหนึ่งพวกเขาเป็นเพื่อนซี้กัน แต่ด้วยความสัมพันธ์ระหว่งฮุนเซนกับทักษิณกำลังจางหายไป พวกชาตินิยมในทั้ง 2 กองทัพฉวยโอกาสนี้ระบายความขับข้องใจเก่าๆ แต่ละฝ่ายยังคงกล่าวหาอีกฝ่ายเป็นคนโจมตีก่อนในปราสาทที่เป็นข้อพิพาท สันติภาพที่หวังไว้ไม่ใช่เรื่องง่าย" รายงานระบุ

ด้าน Der Standard สื่อมวชนออสเตรีย ปฏิเสธภาพลักษณ์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในฐานะคนกลางสันติภาพ "มันไม่ใช่เพราะผลลัพธ์ของนโยบายต่างๆของทรัมป์หรอกหรือ ที่โหมกระพือความไม่แน่นอนในโลกใบนี้? ยกตัวอย่างการตัดงบ USAID ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักกับทั้งไทยและกัมพูชา และคำขู่รีดภาษียิ่งแต่กำลังส่งผลกระทบเลวร้ายกว่าเดิม"

"ตามเรื่องตามราวแล้ว ความขัดแย้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอายุเก่าเก็บมากกว่าความเคลื่อนไหวต่างๆของทรัมป์มาก ทั้งรากเหง้าของปัญหาและชนวนเหตุของสถานการณ์ลุกลามบานปลายล่าสุด ต้องได้รับการประเมินที่เป็นอิสระจากผู้นำสหรัฐฯ นโยบายของทรัมป์ในการแลกสันติภาพกับเงื่อนไขทางเศรษฐกิจที่ดียังก่อความคลางแคลงใจ แน่นอนว่ามันได้ผลในบางกรณี แต่โดยรวมแล้ว ทรัมป์ ไม่ได้ทำให้โลกปลอดภัยขึ้น แต่ในข้อเท็จจริงมันสวนทางกันเลยมากกว่า"

(ที่มา:ยูโรโทปิคส์)


กำลังโหลดความคิดเห็น