ในค่ายผู้อพยพชั่วคราวแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรมีชัย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา คุณพ่อลูกหนึ่งและครอบครัวใหญ่ของเขา เวลานี้เริ่มรู้สึกถึงผลกระทบจากความขัดแย้งตามแนวชายแดน 5 วันกับไทย ที่จบลงด้วยข้อตกลงหยุดยิงในวันจันทร์(29ก.ค.) ขณะที่เขาเป็นหนึ่งในแรงงานหลายคน ที่ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร
Yen Luot วัย 59 ปี พร้อมด้วยลูกๆ 4 คนและคู่สมรส ทิ้งงานในไทยและมุ่งหน้ากับสู่แผ่นดินเกิดกัมพูชาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความกังวลว่าการสู้รบบริเวณชายแดนระหว่าง 2 ประเทศ จะลุกลามสู่การใช้ความรุนแรงกับพลเมืองกัมพูชา
"พวกเขาทั้งหมดทำงานอยู่ในไทย ก่อนการสู้รบปะทุขึ้น" เขาเล่าจากเตนท์ชั่วคราวที่เรียงแถวยาวเหยียดอยู่กลางทุ่งแห่งหนึ่ง "ผมบอกพวกเขาว่าเราทุกคนต้องกลับบ้านเพราะการสู้รบระหว่าง 2 ประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เราถูกทำร้ายที่นี่(ในไทย)"
เขาเผยว่าเห็นวิดีโอที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์เป็นภาพเหตุการณ์พลเมืองกัมพูชาถูกทำร้ายโดยคนไทย และเกรงว่าสถานการณ์อาจลุกลามบานปลาย
อย่างไรก็ตาม Luot ซึ่งทำงานเป็นคนงานก่อสร้างในไทยนานกว่า 15 ปี ยอมรับว่าเวลานี้เขากังวลกับอนาคตของครอบครัว เนื่องจากปัจจุบันเขาไม่มีทั้งงานและบ้าน แถมยังติดหนี้ธนาคารด้วย
"ถ้าสถานการณ์ดีขึ้น พวกเขาอาจเดินทางกลับไปทำงานในไทยหรือหางานทำในพนมเปญ" เขากล่าว "แต่ตอนนี้ เราไม่มีแม้กระทั่งเงินที่จะเดินทางไปพนมเปญ เพื่อหางานทำ"
เอเอฟพีรายงานว่า Luot และครอบครัวเป็นหนึ่งในแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาหลายหมื่นคนที่เดินทางกลับจากไทย สืบเนื่องจากความขัดแย้ง ทั้งนี้ก่อนหน้าการสู้รบเริ่มขึ้น มีแรงงานกัมพูชาในไทยกว่า 520,000 คน คิดเป็นสัดส่วน 12% ของแรงงานต่างด้าวทั้งหมดในไทย
ข้อพิพาทด้านชายแดนที่ยืดเยื้อมานานหลายทศวรรษระหว่าง 2 ชาติเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียใต้ ลุกลามบานปลายขึ้นนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม และโหมกระพือเข้าสู่ความขัดแย้งทางทหารในวันที่ 24 กรกฏาคม โดยต่างฝ่ายต่างกล่าวโทษว่าเป็นคนเริ่มต้นการสู้รบ
ทั้ง 2 ฝ่ายบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในวันจันทร์(28ก.ค.) เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืน ตามหลังการเจรจาในมาเลเซีย
Chharn Sarou ลูกสาวของ Luot ที่ทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งของไทย ก่อนหลบหนีข้ามชายแดนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บอกว่าผู้จัดการของเธออยากให้เธออยู่ในไทยต่อไป แต่เธอกลัวว่าความเป็นปรปักษ์ระหว่าง 2 ชาติ อาจทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย
อย่างไรก็ตามเวลานี้เธอไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป "ถ้ามีโอกาสฉันก็อยากหางานทำในประเทศ ฉันอยากอยู่ที่นี่ มากกว่าที่จะเดินทางกลับไทย"
(ที่มา:รอยเตอร์)