xs
xsm
sm
md
lg

ฮิวแมนไรท์วอตช์ร้องUNSCและนานาชาติกดดันไทย-กัมพูชา ยึดกม.มนุษยธรรมและปกป้องพลเรือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลุ่มเอ็นจีโอ "ฮิวแมนไรท์วอตช์" เรียกร้องคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและประเทศอื่นๆ กดดันไทยและกัมพูชา ให้ยึดมั่นกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและใช้มาตรการต่างๆปกป้องพลเรือน หลังมีเด็กๆได้รับภัยอันตรายและไทยต้องปิดโรงเหตุมากกว่า 852 แห่งและโรงพยาบาล 7 แห่ง ในเหตุผลด้านความปลอดภัย จากถ้อยแถลงของกลุ่มสิทธิมนุษยชนแห่งนี้ในวันเสาร์(26ก.ค.)

เอพีรายงานว่า ทั้ง 2 ฝ่ายยิงจรวดและปืนใหญ่ และหลังจากปฏิเสธคำกล่าวหาของกัมพูชาในเบื้องต้น ที่อ้างว่าไทยจงใจใช้กระสุนครัสเตอร์ต้องห้าม ทางโฆษกของกองทัพไทยรายหนึ่ง ออกมาชี้แจงในวันศุกร์(25ก.ค.) ว่าอาวุธดังกล่าวจะถูกใช้เมื่อจำเป็นต้องบรรลุเป้าหมายทางทหาร ในขณะที่ทั้งไทยและกัมพูชา ต่างก็ไม่ได้เป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยระเบิดลูกปราย(Convention on Cluster Munitions) ซึ่งห้ามใช้อาวุธชนิดนี้

"ทั้งไทยและกัมพูชาดูเหมือนจะไม่ได้ให้ความใส่ใจต่อกฎหมายมนุษยธรรม ทำให้ต้องชดใช้ด้วยชีวิตพลเรือน" จอห์น ซิฟตัน ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนเอเชียของฮิวแมนไรท์วอตช์ระบุในถ้อยแถลง "ความพยายามทางการทูตที่กำลังดำเนินการอยู่จำเป็นต้องให้ความสำคัญลำดับต้นๆกับการปกป้องพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือน

ไทยและกัมพูชา ต่างกล่าวหากันและกันต่อการโจมตีรอบใหม่ในวันเสาร์(26ก.ค.) ในขณะที่การปะทะนองเลือดตามชายแดนลากยาวเข้าสู่วันที่ 3 กระตุ้นให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เข้าร่วมประสานเสียงกับนานาชาติ เรียกร้องให้หยุดยิง หลังจากการสู้รบสังหารชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 33 รายและต้องอพยพออกจากถิ่นฐานมากกว่า 168,000 คน

เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานมีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 12 คนในวันเสาร์(26ก.ค.) ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 13 ราย ส่วนกองทัพไทยเผยว่ามีทหารเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ยอดรวมผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 20 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ทั้งนี้ทั้ง 2 ประเทศ ต่างเรียกเอกอัครราชทูตกลับและไทยปิดด่านชายแดนที่ติดกับกัมพูชา

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ในวันเสาร์(26ก.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ โพสต์ข้อความบนทรัสต์โซเชียล เผยได้พูดคุยกับพวกผู้นำของไทยและกัมพูชา และบ่งชี้ว่าจะไม่ปิดดีลข้อตกลงการค้ากับทั้ง 2 ประเทศ หากว่าความเป็นปรปักษ์ข้ามชายแดนยังคงลากยาวต่อไป ต่อมาเขาบอกว่าทั้ง 2 ฝ่าย เห็นพ้องพบปะกันเมื่อเจรจาข้อตกลงหยุดยิง

เอพีระบุว่ากระทรวงการต่างประเทศของไทย ตอบสนองข้อเสนอของทรัมป์อย่างสุภาพ บอกว่าทางนายภูมิธรรม เวชยชัย ขอบคุณสำหรับความห่วงใย และเห็นพ้องในหลักการว่าข้อตกลงหยุดยิงเป็นสิ่งจำเป็น "อย่างไรก็ตาม ไทย อยากเห็นความตั้งใจจริงจากฝ่ายกัมพูชา" ถ้อยแถลงระบุ พร้อมเน้นย้ำว่ากรุงเทพฯปรารถนาเจรจาทวิภาคีกับทางกัมพูชา และทางนายภูมิธรรมได้ข้อให้ ทรัมป์ สื่อสารจุดยืนนี้ไปยังฝ่ายกัมพูชา

สำนักข่าวเฟรชนิวส์ สื่อออนไลน์ที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลกัมพูชา รายงานว่านายฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์ว่า "กัมพูชาเห็นพ้องกับการหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขในทันที ระหว่างกองทัพของทั้ง2ชาติ"

อย่างไรก็ตามในของเฟรชนิวส์ ดูหมือนว่านายฮุน มาเน็ต จะเข้าใจผิดหรืออาจบิดเบือนจุดยืนของไทย ว่าไทยตกลงหยุดยิงในทันที ตามรายงานของเอพี

(ที่มา:เอพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น