ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยว่าการประชุมแบบเจอหน้ากันระหว่าง วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กับ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน "กำลังจะเกิดขึ้น" แม้ทางวังเครมลินยืนยันว่าการประชุมซัมมิตดังกล่าวจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อเป็นการปิดข้อตกลงสันติภาพขั้นสุดท้ายเท่านั้น
ความเห็นของทรัมป์ในเรื่องนี้เมื่อขึ้นเมื่อวันศุกร์(25ก.ค.) ที่ผ่านมา หลังถูกพวกผู้สื่อข่าวสอบถามว่าอะไรจะช่วยให้ ปูติน และ เซเลนสกี นั่งพูดคุยหารือกันในห้อง และเป็นไปได้เขาเองจะเข้าร่วมด้วย "มันกำลังจะเกิดขึ้น แต่มันควรเกิดขึ้นตั้งแต่ 3 เดือนก่อน มันกำลังจะเกิดขึ้น" เขากล่าว โดยไม่ได้ระบุถึงกรอบเวลาที่แน่ชัด
ทรัมป์ ผลักดันให้หาทางออกจากความขัดแย้ง นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางเดือน เขาจู่กำหนดมาตรการรีดภาษรองขั้นรุนแรงสูงสุด 100% กับบรรดาคู่หูการค้าของรัสเซีย จนกว่าจะบรรลุข้อตกลงภายใน 50 วัน หรือต้นเดือนกันยายน
มอสโก ยืนกรานว่าพวกเขาเปิดกว้างสำหรับหาทางออกด้านการทูต แต่ในแนวทางหนึ่งที่จะต้องจัดการกับรากเหง้าปัญหาของความขัดแย้ง และความกังวลด้านความมั่นคงของพวกเขา ทั้งนี้รัสเซียเน้นย้ำข้อเรียกร้องความเป็นกลางของยูเครนและยอมรับความเป็นจริงด้านดินแดนในภาคพื้น เช่นเดียวกับปลดอาวุธและขจัดระบอบนาซี
เซเลนสกี ส่งเสียงเรียกร้องซ้ำๆสำหรับการพูดคุยโดยตรงกับ ปูติน ขณะที่คณะผู้แทนเจรจาของยูเครนได้หยิบยกความคิดดังกล่าวขึ้นมา ระหว่างการเจรจาทวิภาคีในอิสตันบูล ในสัปดาห์นี้ โดยชี้ว่าการประชุมซัมมิตดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสู้รบ ส่วนทางวังเครมลินไม่ตัดความเป็นไปได้ของการประชุม แต่ยืนกรานว่าต้องวางกรอบการทำงานสำหรับการเจรจาเสียก่อน
นอกจากนี้แล้ว มอสโก ยังหยิบยกความกังวลเกี่ยวกับความชอบธรรมทางกฎหมายในอำนาจของเซเลนสกี เนื่องจากวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี 5 ปีของเขา หมดลงไปแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2024 แต่เขาปฏิเสธจัดเลือกตั้งใหม่ โดยอ้างกฎอัยการศึก เจ้าหน้าที่รัสเซียชี้ว่าเอกสารใดๆที่ลงนามในชื่อของเซเลนสกี อาจถูกคัดค้านในเวลาต่อมา
ในส่วนของ ปูติน เคยบอกเมื่อเดือนที่แล้ว ว่าเขาเปิดกว้างสำหรับประชุมกับเซเลนสกี ถ้ามันเป็นขั้นสุดท้ายของการเจรจา ขณะเดียวกัน รัสเซีย เรียกร้องให้ยูเครนยกเลิกประกาศกฎอัยการศึกและจัดการเลือกตั้งภายใน 100 วัน ส่วนหนึ่งในข้อตกลงหยุดยิงที่ยั่งยืนใดๆ
(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)